วัยทองควรกินวิตามินอะไร ลดอาการวัยทอง ดูแลตัวเอง หมดประจำเดือน
วัยทอง เป็นเรื่องจริงในชีวิตที่ผู้หญิงหลายคนต้องประสบพบเจอ ซึ่งจะเกิดขึ้นในช่วงหมดประจำเดือน โดยร่างกายจะผลิตเอสโตรเจน (Estrogen) น้อยลง จึงทำให้เกิดอาการต่างๆ ตามมา ไม่ว่าจะเป็น อารมณ์แปรปรวน นอนไม่หลับ ร้อนวูบวาบ เหงื่อออกตอนกลางคืน น้ำหนักขึ้น ช่องคลอดแห้ง การเปลี่ยนแปลงของความใคร่ ไปจนถึงภาวะกลั้นปัสสาวะไม่ได้ โรคกระดูกพรุน และโรคหัวใจค่ะ ดังนั้นสำหรับใครที่อยากลดอาการของฮอร์โมนเอสโตรเจนต่ำ แนะนำให้กินอาหารที่มีวิตามินเหล่านี้ หรืออาจจะเลือกกินเป็นอาหารเสริมก็จะช่วยลดอาการได้ดีค่ะ
วิตามินบี 12
วิตามินบี 12 ดีต่อสุขภาพกระดูก การทำงานของระบบประสาท และช่วยเสริมสร้างเม็ดเลือดแดง ซึ่งเมื่อเราอายุมากขึ้น ร่างกายจะสูญเสียความสามารถในการดูดซึมวิตามินบี 12 ไป ถือเป็นการเพิ่มความเสี่ยงให้ร่างกายขาดวิตามินบี 12 และจะส่งผลให้เรามีอาการเหนื่อยล้า อ่อนแอ โลหิตจาง เบื่ออาหาร ท้องผูก ชาที่มือและเท้า ซึมเศร้า สับสน ไปจนถึงอาการสมองเสื่อม ซึ่งจะเป็นอาการที่มักพบเมื่ออายุมากขึ้นหลังจากหมดประจำเดือนนั่นเอง
วิตามินบี 6
วิตามินบี 6 มีส่วนช่วยสร้างเซโรโทนิน (Serotonin) หรือสารสื่อประสาทที่มีบทบาทสำคัญในการทำงานของสมองและระบบประสาท ซึ่งเมื่อผู้หญิงอายุมากขึ้น เซโรโทนินก็จะลดต่ำลง จนอาจส่งผลให้อารมณ์แปรปรวนและมีภาวะซึมเศร้า โดยมักพบได้บ่อยในช่วงวัยหมดประจำเดือนนั่นเอง เรียกได้ว่าวิตามินบี 6 นี้จะเข้ามาช่วยป้องกันอาการที่เกิดจากระดับเซโรโทนินต่ำ รวมถึงการสูญเสียพลังงานและภาวะซึมเศร้าได้อีกด้วยค่ะ
วิตามินดี
ผู้หญิงที่มีอายุมากขึ้น หลังช่วงหมดประจำเดือน โดยเฉพาะคนที่ชอบอยู่บ้าน ไม่ได้ออกไปสัมผัสแสงแดด อาจจะทำให้มีอาการขาดวิตามินดีได้ค่ะ ซึ่งการขาดวิตามินดีนั้นอาจจะเป็นการเพิ่มความเสี่ยงต่อกระดูกหักง่าย มีอาการปวดกระดูก และเป็นโรคกระดูกพรุนได้ในที่สุด ดังนั้นจึงแนะนำให้กินอาหารที่มีวิตามินดีหรืออาหารเสริมวิตามินดี ก็จะช่วยได้เยอะในช่วงวัยทองค่ะ
วิตามินอี
วิตามินอี มีส่วนช่วยต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันเซลล์ในร่างกายถูกทำลาย ซึ่งความเครียดนั้นอาจเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้เซลล์ในร่างกายถูกทำลายลงได้ และเป็นการเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะซึมเศร้า น้ำหนักขึ้น ไปจนถึงโรคหัวใจ ซึ่งอาการเหล่านี้มักจะพบได้บ่อยในช่วงวัยหมดประจำเดือน ดังนั้นการเติมวิตามินอีให้ร่างกายก็จะช่วยบรรเทาความเครียด ลดความเสี่ยงต่อภาวะซึมเศร้า และลดภาวะเครียดออกซิเดชั่น (Oxidative stress) หรือความไม่สมดุลกันระหว่างอนุมูลอิสระกับระบบต้านออกซิเดชั่นในร่างกายนั่นเองค่ะ
บทความที่คุณอาจสนใจ
