รีเซต

7 น้ำมันปลา ยี่ห้อไหนดี 2025 ดีต่อหัวใจและสมอง หรือเสี่ยงหลอดเลือดอุดตัน

7 น้ำมันปลา ยี่ห้อไหนดี 2025 ดีต่อหัวใจและสมอง หรือเสี่ยงหลอดเลือดอุดตัน
Beau_Monde
27 กุมภาพันธ์ 2568 ( 10:00 )
96K
3

     ช่วงนี้กระแสของการรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอย่างน้ำมันปลากำลังมาแรงเลยค่ะ เพราะว่าสรรพคุณของน้ำมันปลาที่ดีต่อหัวใจและสมอง หรือผู้ที่มีความเสี่ยงหลอดเลือดอุดตัน แต่จริงๆ แล้วน้ำมันปลาจะส่งผลดีกับสุขภาพของเราหรือไม่ ควรจะรับประทานไหม แล้วถ้าจะรับประทาน ต้องเลือกแบบไหนดี วันนี้เรามีคำตอบมาให้ค่ะ

 

น้ำมันปลาคืออะไร

     น้ำมันปลา (fish oil) คือน้ำมันที่สกัดมาจากส่วนต่างๆ ของปลา ถือเป็นไขมันที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เพราะมีกรดไขมันชนิดไม่อิ่มตัวในกลุ่มโอเมก้า 3 โดยในน้ำมันปลานั้น จะมีกรดไขมันหลักๆ อยู่ 2 ชนิดด้วยกันคือ DHA (Docosahexaenoic Acid) และ EPA (Eicosapentaenoic Acid) โดยกรดไขมันทั้ง 2 ชนิดนี้ ร่างกายไม่สามารถสร้างเองได้ จำเป็นต้องได้รับทุกวัน

     ความสำคัญของกรดไขมันทั้ง 2 ชนิดนี้ก็คือ DHA ถือเป็นโครงสร้างสำคัญของเยื่อหุ้มเซลล์สมองและจอประสาทตา ช่วยในการส่งเสริมพัฒนาการของสมองและสายตา ซึ่งเรามักจะเห็นบ่อยๆ ในผลิตภัณฑ์สำหรับเด็ก เช่น นมสำหรับเด็กหรืออาหารสำหรับเด็ก ส่วน EPA นั้น ช่วยลดระดับไขมันไตรกลีเซอไรด์และช่วยป้องกันไขมันอุดตันหลอดเลือด รวมถึงยังช่วยลดความข้นหนืดของกระแสเลือด ทำให้เลือดไหลเวียนได้ดี ลดโอกาสในการเกิดโรคหัวใจ ป้องกันการเกาะตัวของเกล็ดเลือดและช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดหลอดเลือดอุดตัน หลอดเลือดหัวใจ และสมองอุดตันได้

 

 

7 น้ำมันปลา ยี่ห้อไหนดี

 

1. MEGA We care FISH OIL 1000 mg.

 

 

     เมก้า วี แคร์ FISH OIL1000 มก. สูตรนี้ผลิตภายใต้มาตรฐานการผลิตยาระดับสากล ที่ได้การรับรองจากประเทศเยอรมัน (BfArM) และจากประเทศออสเตรเลีย (TGA) ค่ะ ปลอดภัยจากสารปนเปื้อน โลหะหนัก รับประทานต่อเนื่องได้อย่างปลอดภัย บรรจุในขวดทึบแสงเกรดยา ป้องกันแสงได้ดีกว่าขวดสีชา รูปแบบแคปซูลนิ่มซอฟต์เจลสีเหลืองใสขนาด 1,000 มก. ซึ่งมีกรดไขมันโอเมก้า-3 คือ EPA 180 มก. และ DHA 120 มก. ตรงตามมาตรฐานค่ะ นอกจากนี้ก็ยังใส่วิตามินอีมาให้ด้วย ช่วยป้องกันความเสื่อมและป้องกันการเหม็นหืนของน้ำมันปลาได้ จำนวน 100 แคปซูล ราคาประมาณ 360 บาท

  • ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ MEGA We care Fish Oil

 

2. Blackmores Fish Oil 1000 mg.

 

 

     แบลคมอร์ส ฟิช ออยล์ 1000 มก.กระปุกเป็นแบบขวดแก้วสีทึบ ด้านในบรรจุแคปซูลสีเหลืองใส ขนาด 1,000 มก. ซึ่งมี EPA 180 มก. และ DHA 120 มก. ตามมาตรฐาน แต่นอกจากนี้ยังใส่วิตามินอีมาให้ด้วยค่ะ ซึ่งวิตามินอีจะทำหน้าที่ในการช่วยป้องกันความเสื่อมและป้องกันการเหม็นหืนของน้ำมันปลาได้ ไม่มีกลิ่นคาว รับประทานได้ง่าย ขนาด 80 แคปซูล ราคาประมาณ 890 บาท

 

3. Giffarine Fish Oil 1,000 mg.

 

 

     กิฟฟารีน ฟิช ออยล์ 1000 มก. เป็นแคปซูลขนาด 1,000 มก. ซึ่งประกอบไปด้วย EPA 180 มก. และ DHA 120 มก. ค่ะ และมีวิตามินอีมาให้ด้วย ขวดเป็นแบบพลาสติกสีขาวทึบ ฝาบิดเกลียว ป้องกันไม่ให้น้ำมันปลาเหม็นหืนค่ะ ขนาด 100 แคปซูล ราคาประมาณ 350 บาท

 

4. Vitamate Max Fish Oil

 

 

     ไวตาเมท แมกซ์ ฟิช ออยล์ สูตรนี้เป็นแบบแคปซูลขนาด 1,000 มก. ซึ่งภายในก็มีทั้ง EPA 180 มก. และ DHA 120 มก. ตามมาตรฐานค่ะ ขวดเป็นพลาสติกสีทึบ เม็ดแคปซูลสีเหลืองใสคุ้นตาเหมือนแบรนด์อื่นๆ ค่ะ สูตรนี้มีกลิ่นคาวนิดๆ แต่ว่าก็ยังรับประทานได้ง่ายค่ะ ขนาด 20 เม็ด ราคาประมาณ 280 บาท

 

5. Atomy Alaska E-OMEGA 3

 

 

     อะโทมี่ อลาสก้า อี-โอเมก้า 3 แบรนด์นี้มาจากประเทศเกาหลีค่ะ มาในขวดพลาสติกสีขาวทึบ ฝาบิดเกลียวแบบ Childproof แน่นหนาและป้องกันเด็กๆ เปิดได้ แคปซูลขนาด 880 มก. แต่มี EPA 208 มก. และ DHA 142 มก.ถือว่าค่อนข้างเยอะเลยค่ะ ไม่มีกลิ่นคาว และแคปซูลขนาดเล็กเหมาะกันคนที่รับประทานยายากหรือไม่ชอบทานยาเม็ดใหญ่ๆ ค่ะ ขนาด 180 แคปซูล ราคาประมาณ 810 บาท

 

6. Vistra Salmon Fish Oil

 

 

     วิสทร้า แซลมอน ฟิช ออยล์ 1000 มก. สูตรนี้เป็นแคปซูลแบบซอฟต์เจล สีเหลืองใส ไม่คาว ไม่มีกลิ่น มาในขวดสีทึบ ฝาเป็นแบบบิดเกลียว เปิดปิดง่ายและแน่นหนาดี อากาศไม่ค่อยเข้าไปภายในและทำให้น้ำมันปลาไม่เหม็นหืนค่ะ ขนาด 75 แคปซูล ราคาประมาณ 250 บาท

 

7. California Gold Nutrition Omega-3 Premium Fish Oil

 

 

     แคลิฟอร์เนีย โกลด์ นิวทริชั่น โอเมก้า-3 พรีเมี่ยม ฟิช ออยล์ แบรนด์นี้มาจากอเมริกาค่ะ ได้การรับรองมาตรฐานสากลเหมือนกัน แคปซูลสีเหลืองใสขนาด 1,000 มล. EPA 180 มก. และ DHA 120 มก. มีกลิ่นคาวนิดหน่อย แต่ยังถือว่ารับประทานได้ง่ายค่ะ ขนาด 100 แคปซูล ราคาประมาณ 300 บาท

 

     อย่างไรก็ตาม ผู้ที่รับประทานยาแอสไพรินเป็นประจำ รวมถึงผู้ที่แพ้อาหารทะเลและปลาทะเล ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานน้ำมันปลา เพราะสามารถส่งผลกับสุขภาพได้ ส่วนผู้ที่ร่างกายเป็นปกติ สามารถทานน้ำมันปลาในมื้ออาหารเลยก็ได้หรือจะรับประทานหลังมื้ออาหารก็ได้ค่ะ ส่วนถ้าใครที่อยากจะรับประทานน้ำมันปลาเพื่อบรรเทาอาการต่างๆ ก็ควรต้องปรึกษาแพทย์ก่อนค่ะ

 

บทความที่คุณอาจสนใจ

 

 

ยอดนิยมในตอนนี้

สิทธิประโยชน์แนะนำ

แท็กยอดนิยม

บทความที่เกี่ยวข้อง

ดาวน์โหลด ทรูไอดีแอป
ดาวน์โหลด ทรูไอดีแอป
สัมผัสโลกไร้ขีดจำกัดกับทรูไอดี