5 อาหารควรเลี่ยง เมื่อเป็นเบาหวาน เพิ่มน้ำตาลในเลือด กระตุ้นให้อาการหนัก
การรับประทานอาหารที่มีปริมาณน้ำตาลสูงจะเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดได้ และสามารถทำให้เกิดภาวะเบาหวานประเภทที่ 2 ได้ ยิ่งหากคุณเป็นผู้ป่วยด้วยโรคเบาหวานอยู่แล้ว การควบคุมการรับประทานอาหารให้เหมาะสมนั้นถือเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะอาหารและเครื่องดื่มที่รสหวานจัดยิ่งต้องระวังในเรื่องปริมาณการรับประทานให้ดีค่ะ
อย่างไรก็ตาม มีอาหารบางชนิดที่สามารถกระตุ้นให้ระดับน้ำตาลในเลือดพุ่งสูงได้โดยไม่ได้มีรสชาติหวานจัดแต่อย่างใด ซึ่งอาหารที่มีน้ำตาลแฝงเหล่านี้หากรับประทานโดยไม่ควบคุมปริมาณให้ดี อาจทให้อาการของโรคเบาหวานกำเริบขึ้นมาก็ได้ค่ะ
น้ำตาลในเลือดสูงคืออะไร
น้ำตาลในเลือดสูง หมายถึง ระดับน้ำตาลในเลือดที่มากกว่าปกติ ซึ่งโดยปกติแล้วค่าน้ำตาลในเลือด (Blood Sugar) จะอยู่ในช่วงระดับ 70 - 100 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร (mg/dL) แต่หากคุณมีความเสี่ยงหรือเบาหวานแฝง ระดับน้ำตาลในเลือดจะอยู่ประมาณ 100 – 125 แต่หากระดับน้ำตาลในเลือด มากกว่า 126 อาจหมายถึงคุณมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคเบาหวานแล้ว
การมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงเป็นสัญญาณเตือนว่าร่างกายเริ่มมีปัญหาด้านสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นการมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวาน รวมถึงโรคอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับระบบเผาผลาญน้ำตาลในร่างกาย หากปล่อยให้มีระดับน้ำตาลในเลือดสูงติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน อาจส่งผลให้เกิดภาวะหลอดเลือดอักเสบและอุดตัน และทำให้ร่างกายเกิดภาวะติดเชื้อต่าง ๆ ได้ง่าย
ปรึกษาปัญหาสุขภาพกับแพทย์ ผ่านแอป MorDee ส่งยาให้ถึงบ้าน คลิกรับส่วนลดเลย!
อาการเตือนของภาวะน้ำตาลในเลือดสูง
- เหนื่อยง่าย
- กระหายน้ำมาก
- ปัสสาวะบ่อย โดยเฉพาะกลางคืน
- ปวดศีรษะ
- ตามัว มองเห็นไม่ชัด
5 อาหารเพิ่มน้ำตาลในเลือด
1. แป้งขัดขาว
อาหารที่อยู่ในกลุ่มแป้งขัดขาว เช่น ขนมปังขาว พาสต้า และข้าวขาว อาหารเหล่านี้เมื่อเข้าไปอยู่ในร่างกายแล้ว ร่างกายจะเริ่มย่อยแล้วเปลี่ยนไปเป็นน้ำตาล ซึ่งหมายความว่าอาหารในกลุ่มนี้สามารถที่จะเพิ่มระดับกลูโคสในเลือดของคุณได้ ดังนั้นหากใครที่กำลังพยายามลดระดับน้ำตาลในเลือด ให้ลองทดแแทนการรับประทานอาหารในกลุ่มแป้งขัดขาวเป็นธัญพืชเต็มเมล็ด เช่น ข้าวกล้อง ข้าวบาร์เลย์ ข้าวโอ๊ต และขนมปังโฮลเกรน เพื่อให้คาร์โบไฮเดรตสลายตัวได้ช้ากว่าและมีทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดไม่พุ่งขึ้นสูงอย่างรวดเร็วเกินไป
2. ผลไม้แห้ง
แม้ว่าผลไม้แห้งจะมีไฟเบอร์และสารอาหารมากมาย แต่ในกระบวนการทำให้แห้งและการขจัดน้ำออกทำให้อาหารชนิดนี้รับประทานได้ง่ายและเยอะมากกว่าการรับประทานผลไม้สดทั่วไป ลองคิดดูว่าคุณกินลูกเกดได้มากกว่าองุ่นกี่ลูก แม้ว่าการรับประทานลูกเกดหรือแอปริคอตแห้งจะดีต่อร่างกายมากกว่าการรับประทานคุกกี้ แต่อย่างไรก็ยังทำให้น้ำตาลในเลือดพุ่งสูงขึ้นได้ ดังนั้นแทนที่จะเลือกกินผลไม้แห้ง ก็เปลี่ยนไปเลือกกินผลไม้ทั้งลูกที่มีทั้งไฟเบอร์และวิตามินสูงแทนจะดีกว่า
3. น้ำผลไม้
ในขณะที่ผลไม้สดมักอุดมไปด้วยไฟเบอร์ และถือเป็นคาร์โบไฮเดรตที่ดีต่อสุขภาพ รวมถึงผลไม้บางอย่างก็ยังเหมาะกับผู้ที่เป็นโรคเบาหวานด้วย แต่น้ำผลไม้กลับเป็นอีกเรื่องหนึ่งค่ะ เพราะผู้ป่วยโรคเบาหวานควรหลีกเลี่ยงการดื่มน้ำผลไม้ แม้แต่น้ำผลไม้ 100% ก็ไม่ควรดื่ม ถึงแม้น้ำผลไม้จะมีวิตามินและแร่ธาตุมากกว่าโซดาและเครื่องดื่มรสหวานอื่น ๆ แต่ปัญหาคือน้ำผลไม้มักมีน้ำตาลในปริมาณที่เข้มข้น และทำให้น้ำตาลในเลือดของคุณพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้การจิบน้ำผลไม้ก็ไม่ได้ทำให้อิ่มเหมือนการรับประทานผลไม้ เพราะน้ำผลไม้ไม่มีใยอาหารแบบเดียวกับที่พบในผลไม้ทั้งลูก
4. ขนมหวาน
อาหารที่มีส่วนผสมของน้ำตาลในปริมาณสูง เช่น ของหวาน ลูกกวาด และรวมถึงเครื่องดื่มรสหวานต่าง ๆ อาหารเหล่านี้ไม่เพียงแต่ไม่มีคุณค่าทางโภชนาการเท่านั้น แต่ยังทำให้น้ำตาลในเลือดของคุณพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วอีกด้วย นอกจากนี้อาหารเหล่านี้ยังเป็นปัญหาต่อการลดน้ำหนัก เพราะมีส่วนผสมของคาร์โบไฮเดรตที่ผ่านการขัดสีซึ่งสามารถเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดได้ เมื่อมีน้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือดจำนวนมาก ร่างกายก็จะผลิตอินซูลินเพื่อลดระดับน้ำตาลในเลือด เมื่ออินซูลินไหลเวียนมากขึ้นในกระแสเลือด ร่างกายก็จะแปลงไปเป็นไขมันและกักเก็บไว้ ส่งผลให้เรามีไขมันสะสมมากขึ้น
5. อาหารฟาสต์ฟู้ด
ไม่มีใครเรียกอาหารฟาสต์ฟู้ดว่าเป็นอาหารเพื่อสุขภาพ เพราะไม่ว่าจะเป็นแฮมเบอร์เกอร์และเฟรนช์ฟรายส์ก็ล้วนมีแคลอรีและไขมันสูง แต่นอกจากนี้อาหารฟาสต์ฟู้ดมักมีน้ำตาลและคาร์โบไฮเดรตขัดสีสูงด้วย ดังนั้นจึงควรจำกัดปริมาณในการรับประทาน โดยควรรับประทานให้น้อยและไม่ควรรับประทานบ่อยจนเกินไป
บทความที่คุณอาจสนใจ
- 6 ของว่างสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ควบคุมน้ำหนัก
- 5 น้ำชาสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน ชาสมุนไพรลดน้ำตาลในเลือด ลดความเสี่ยงโรค