ทางรอดช่วงวิกฤต! 10 ผักสวนครัวโตเร็ว ปลูกกินเองที่บ้าน ประหยัดเงินได้ ปลูกง่าย มีประโยชน์
แนะนำทางรอดจากปัญหาเศรษฐกิจในช่วงวิกฤต COVID-19 ด้วยการปลูกผักสวนครัว 10 ชนิดที่ปลูกง่าย โตเร็ว มีประโยชน์ แถมยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายอีกด้วย...ในช่วงที่เราต้องเก็บตัวอยู่ที่บ้านเนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 รวมถึงปัญหาเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ เราจึงอยากชวนทุกคนมาใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ด้วยการปลูกผักสวนครัวกันค่ะ ถือเป็นการช่วยประหยัดค่าอาหารไปได้ส่วนหนึ่ง เพราะผักสวนครัวทั้ง 10 ชนิดนี้ สามารถนำมาประกอบอาหารได้หลากหลายแบบ แถมยังมีคุณค่าทางสารอาหารมากอีกด้วย การปลูกผักสวนครัวมีแต่ได้กับได้เลยล่ะค่ะ นอกจากจะช่วยประหยัดเงินแล้ว ยังดีต่อสุขภาพ ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานโรคให้ห่างไกลจากเชื้อโรคด้วยค่ะ
ผักสวนครัว 1 : กะเพรา
ระยะเวลาเก็บเกี่ยว : 30 - 35 วัน
วิธีปลูกกะเพรา
- ปลูกด้วยดินร่วน ที่ระบายน้ำดี ( จริงๆแล้วกะเพราสามารถขึ้นได้ดีในดินทุกชนิด แต่จะชอบดินที่มีความอุดมสมบูรณ์)
- เตรียมดินให้ลึกประมาณ 15-20 ซม. และตากดินไว้ 7-10 วันก่อน จากนั้นให้ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักที่สลายตัวดี แล้วคลุกให้ทั่วดิน ย่อยดินให้ละเอียด จึงพร้อมปลูกได้
- การปลูกกะเพราด้วยเมล็ด เริ่มด้วยการรดน้ำให้ชุ่มทั่วดิน จากนั้นหว่านเมล็ดพันธุ์ลงไป
- การดูแลต้นกะเพรา ควรรดน้ำทุกวัน ทั้งเช้า-เย็น แต่ระวังอย่าให้น้ำท่วมขัง
- ควรมีการพรวนดินและกำจัดวัชพืชทุกๆ 1-2 สัปดาห์ และต้องระวังอย่าให้กระทบกระเทือนต้นและรากได้
ประโยชน์ของกะเพรา
- ขับไขมันส่วนเกินออกจากร่างกาย
- ควบคุมโรคเบาหวาน
- ป้องกันมะเร็ง
- รักษาสุขภาพช่องปาก
- เพิ่มน้ำนมหลังคลอด
- แก้พิษแมลงสัตว์กัดต่อย
- ลดอาการวิตกกังวลทั่วไป
- เสริมสร้างสติปัญญา
- ลดอาการของโรคพาร์กินสัน
ผักสวนครัว 2 : ผักกาดหอม หรือ ผักสลัด
ระยะเวลาเก็บเกี่ยว : 40-50 วัน
วิธีปลูกผักกาดหอม
- ปลูกด้วยดินร่วน ที่ระบายน้ำดี
- เตรียมดินให้ลึกประมาณ 10-15 ซม. และตากดินไว้ 5-7 วัน จากนั้นให้ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักผสมลงในดิน และพรวนย่อยหน้าดินให้ละเอียด
- โรยเมล็ดลงไปเพื่อทำการปลูก
- การดูแลต้นผักกาดหอม ในระยะ 2 สัปดาห์แรก ควรให้น้ำทุกวันทั้งเช้า-เย็น และไม่รดน้ำจนแฉะเกินไป จากนั้นรดน้ำแบบวันเว้นวันในสัปดาห์ต่อๆมา
ประโยชน์ของผักกาดหอม
- กระตุ้นระบบขับถ่าย
- ป้องกันมะเร็ง
- ลดอาการเบาหวาน
- ลดการอักเสบจากโรค เช่น ภูมิแพ้ การติดเชื้อ
- ลดน้ำหนัก
- บำรุงสายตา
- ช่วยให้หลับดีขึ้น
ผักสวนครัว 3 : ต้นหอม
ระยะเวลาการเก็บเกี่ยว : 1 เดือน
วิธีปลูกต้นหอม
- เตรียมดินให้ลึกประมาณ 20-30 ซม. และตากดินไว้ 10-15 วันก่อน จากนั้นให้พรวนดิน
- ทุบเปลือกถั่วลิสงให้เป็นชิ้นเล็ก และนำมาผสมกับดิน (สามารถใช้เปลือกถั่วลิสงแทนปุ๋ยได้)
- โรยเมล็ดลงกระถางให้พอดี
- การดูแลต้นหอม ให้รดน้ำทั้งเช้า-เย็น เมื่อใบเริ่มมีสีเขียวแล้ว ให้รดน้ำเพียงวันละ 1 ครั้ง
ประโยชน์ของต้นหอม
- ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลและไขมันเลวในเส้นเลือด
- ช่วยลดความดันโลหิต
- มีสารต้านอนุมูลอิสระ
- กระดูกและฟันแข็งแรง
- ช่วยสังเคราะห์คอลลาเจน
- กระตุ้นระบบทางเดินหายใจ และรักษาอาการไข้หวัดทั่วไปได้
- เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน
- ชะลอการเสื่อมของจอประสาทตา
- ป้องกันการบกพร่องของระบบประสาทในทารกแรกเกิด
- ช่วยเพิ่มน้ำนมหลังคลอด
- ลำไส้ทำงานได้ดีขึ้น
ผักสวนครัว 4 : ผักชี
ระยะเวลาการเก็บเกี่ยว : 40-60 วัน
วิธีปลูกผักชี
- ปลูกด้วยดินร่วน ก่อนเริ่มปลูกให้พรวนดิน และตากดินไว้ 10-15 วันก่อน จากนั้นให้ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก
- การเพาะเมล็ดผักชี เริ่มจากการแตกเมล็ดออกเป็น 2 ซีก และแช่น้ำเปล่าทิ้งไว้ 2-3 ชม.
- นำมาคลุกกับทรายละเอียดที่ผสมเถ้าเล็กน้อย จากนั้นทิ้งไว้ รากจะเริ่มงอกออกมาก่อนจึงนำไปหว่านได้
- การดูแลผักชี ให้รดน้ำทุกวัน วันละ 1 ครั้ง ควรรดน้ำให้ชุ่ม แต่ไม่แฉะเกินไป
ประโยชน์ของผักชี
- บำรุงสายตา
- ลดความเสี่ยงโรคมะเร็ง
- เสริมสร้างระบบการทำงานของกระเพาะอาหารและลำไส้
- ต่อต้านอนุมูลอิสระ
- ลดน้ำตาลในเลือด
ผักสวนครัว 5 : คะน้า
ระยะเวลาการเก็บเกี่ยว : 45-50 วัน
วิธีปลูกคะน้า
- การเตรียมดิน ให้พรวนดินและตากดินไว้ 7-14 วันก่อน จากนั้นใส่ปุ๋ยคอกและคลุกเคล้าให้เข้ากัน
- โรยเมล็ดเพื่อทำการปลูก
- ใช้ดินผสมที่สลายตัวดีกลบทับเมล็ดหลังหว่านเสร็จแล้ว และให้มีความหนา 1 ซม.
- การดูแลต้นคะน้า รดน้ำอย่างสม่ำเสมอทั้งเช้า-เย็น ต้นกล้าจะเริ่มงอกภายใน 7 วัน
ประโยชน์ของคะน้า
- บำรุงสายตา
- ลดระดับคอเลสเตอรอล
- ป้องกันมะเร็งเต้านม
- มีสารต้านอนุมูลอิสระ
- เสริมสร้างภูมิต้านทาน
- บำรุงผิวพรรณ
- บำรุงโลหิต
ผักสวนครัว 6 : กวางตุ้ง
ระยะเวลาการเก็บเกี่ยว : 40-45 วัน
วิธีปลูกกวางตุ้ง
- เตรียมดินให้ลึกประมาณ 15-20 ซม. และให้ตากดินไว้ 5-7 วันก่อน
- โรยเมล็ดเพื่อทำการปลูก
- การดูแลต้นกวางตุ้ง ให้รดน้ำวันละ 3 ครั้ง ช่วงเช้าตรู่, 11 โมง และบ่าย 3 (หากเป็นช่วงฤดูหนาวควรรดน้ำ 2 ครั้ง ทั้งเช้า-เย็น) ต้นกล้าจะเริ่มงอกภายใน 2 วัน
ประโยชน์ของกวางตุ้ง
- เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย
- บำรุงสายตา
- เสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง
- ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็ง
- ช่วยป้องกันกล้ามเนื้อเสื่อม
- บรรเทาอาการปวดตามข้อ
- ช่วยในเรื่องการขับถ่าย
- ทำให้กลิ่นตัวหอม
- มีเส้นใยมากและมีไขมันน้อย ทำให้อิ่มท้องได้นาน และไม่อ้วน
ผักสวนครัว 7 : ผักบุ้ง
ระยะเวลาการเก็บเกี่ยว : 20 - 25 วัน
วิธีปลูกผักบุ้ง
- เตรียมดินให้ลึกประมาณ 10-15 ซม. และตากดินไว้ 10-15 วันก่อน จากนั้นให้พรวนดินและใส่ปุ๋ยคอก เพื่อปรับสภาพดินให้ดี
- โรยเมล็ดเพื่อทำการปลูก
- การดูแลต้นกวางตุ้ง ให้รดน้ำด้วยฝักบัวแบบฝอยละเอียดทุกวัน วันละ 1-2 ครั้ง เมล็ดพันธุ์จะเริ่มงอกภายใน 2-3 วัน
ประโยชน์ของผักบุ้ง
- บำรุงสายตา รักษาอาการสายตาสั้น และเพิ่มน้ำหล่อเลี้ยงลูกตา
- ผิวพรรณเปล่งปลั่ง มีน้ำมีนวล
- ลดโอกาสในการเป็นโรคมะเร็ง
- เพิ่มความสามารถในการจดจำ
- ช่วยในการขับถ่าย
- บำรุงโลหิต
- ลดน้ำตาล และคอเลสเตอรอลในเลือด
- ช่วยให้เจริญอาหาร
- บำรุงหัวใจ
- แก้อาการปวดศีรษะ และอ่อนเพลีย
- ต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย
- แก้อาการฟกช้ำ
- ถอนพิษจากแมลงสัตว์กัดต่อย
- ขับสารพิษออกจากร่างกาย
- บำบัดรักษาผู้ป่วยยาเสพติดได้
ผักสวนครัว 8 : ต้นอ่อนทานตะวัน
ระยะเวลาการเก็บเกี่ยว : 6-7 วัน
วิธีปลูกต้นอ่อนทานตะวัน
- นำเมล็ดทานตะวันแช่น้ำ 4-6 ชม. จากนั้นให้เทน้ำออก
- บ่มเมล็ดในผ้าขนหนู ประมาณ 18-20 ชม. และให้คนเมล็ดกลับไปกลับมาทุกๆ 5 ชม. เมล็ดจะเริ่มงอกเป็นตุ่ม ๆ จึงทำการเพาะได้
- เตรียมดินใส่ถาด จากนั้นให้โรยเมล็ดลงไป และใช้ดินกลบบางๆ ต่อมารดน้ำให้พอชุ่ม
- นำถาดมาซ้อนกันประมาณ 1 คืน จากนั้นนำถาดออกมารดน้ำตามปกติ
- แยกถาดออกไว้ในที่ร่ม และให้รดน้ำวันละ 2 ครั้ง ทั้งเช้า-เย็น
ประโยชน์ของต้นอ่อนทานตะวัน
- มีไขมันอิ่มตัว ล้วนเป็นไขมันชนิดดี มีประโยชน์ต่อร่างกาย
- มีโปรตีนสูงกว่าถั่ว
- มีแคลเซียมและธาตุเหล็กสูง
- อุดมไปด้วยวิตามินหลายชนิด เช่น วิตามินเอ วิตามินอี วิตามินบี 1 วิตามินบี 6 โอเมก้า 3 โอเมก้า 6 และโอเมก้า 9
ผักสวนครัว 9 : มะเขือเทศ
ระยะเวลาการเก็บเกี่ยว : 70 - 90 วัน
วิธีปลูกมะเขือเทศ
- การบ่มเมล็ด ให้แช่เมล็ดในน้ำสะอาด 1 ลิตร นาน 20 นาที จากนั้นวางในผ้าขาวบางชุบน้ำหมาดๆ และให้ห่อเมล็ดไว้ เพาะเมล็ดอีกครั้งด้วยถุงพลาสติกใส เก็บในที่อุณหภูมิ 28- 30 องศาเซลเซียส โดยใส่ในภาชนะที่มิดชิด นานประมาณ 24 ชม.
- การเพาะกล้า ให้บรรจุวัสดุเพาะกล้า (พีทมอส) ลงในถาดเพาะกล้า รดน้ำให้ชุ่ม จากนั้นนำเมล็ดมาหยอดลงในถาดเพาะ ให้ปลายรากแทงลงไปที่วัสดุเพาะ และระวังอย่าให้รากอ่อนของเมล็ดหักหรือแห้ง จากนั้นกลบด้วยวัสดุเพาะกล้า แล้วกดทับเบาๆ ต่อมารดน้ำให้ชุ่ม นำไปวางในบริเวณที่มีแสงแดด และให้รดน้ำทุกวัน จนอายุกล้าได้ 25-30 วัน
- ควรย้ายกล้าเมื่อมีใบแท้ 4-5 ใบ หรืออายุไม่เกิน 25-30 วัน
- การปลูกต้นมะเขือเทศ ให้เตรียมดินลึก 25-30 ซม. และตากดินไว้ 5-7 วันก่อน จากนั้นใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักลงไป
- ย้ายกล้าเพื่อนำไปปลูกลงดิน
ประโยชน์ของมะเขือเทศ
- ลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งที่อวัยวะต่างๆ
- ชะลอความแก่
- บำรุงสายตา
- ป้องกันโรคลักปิดลักเปิดและเลือดออกตามไรฟัน
- กำจัดไขมันเลว
- ควบคุมและลดระดับน้ำตาลในเลือด
- ลดอาการบวมน้ำในร่างกาย
- เสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง
- บำรุงผมให้แข็งแรงเงางาม
- แก้กระหายน้ำ
ผักสวนครัว 10 : พริก
ระยะเวลาการเก็บเกี่ยว : 95 – 100 วัน
วิธีปลูกพริก
- ใช้กระถางขนาด 12 นิ้วขึ้นไป
- หยอดเมล็ดลงในกระถางที่เตรียมดินไว้
- รดน้ำทุกวัน วันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น และระวังอย่าให้พริกขาดน้ำ
- ใส่ปุ๋ยเมื่อต้นมีอายุ 45-50 วัน
ประโยชน์ของพริก
- ช่วยลดน้ำหนัก
- ช่วยให้อารมณ์ดี
- ช่วยให้เจริญอาหาร
- ช่วยให้หายใจสะดวกขึ้น
- ลดอาการปวด
- บำรุงสายตา
- ใช้รักษาแผล
- แก้อาการปวดหัว
ขอบคุณข้อมูลจาก : true ปลูกปัญญา , พลังเกษตร , รักบ้านเกิด , สุขภาพดี , เมดไทย , บ้านและสวน , พบแพทย์ , honestdocs , Oragnic Farm
บทความที่คุณอาจสนใจ