6 พฤติกรรม ทำระบบเผาผลาญพัง ระบบเผาผลาญไม่ดีเกิดจากอะไร แก้ยังไงดี

     เมื่อพูดถึงการลดน้ำหนัก เราคงเคยได้ยินเกี่ยวกับทฤษฎี "แคลอรีเข้า - แคลอรีออก" แน่นอนว่าแคลอรี่หรือพลังงานที่เรารับเข้าไปเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มหรือลด แต่นอกเหนือจากนั้น พฤติกรรมการใช้ชีวิตก็สำคัญไม่แพ้กัน ลองคิดถึงเพื่อนคนนั้นที่สามารถกินอะไรก็ได้โดยที่น้ำหนักไม่ขึ้นสักกิโลเดียว หรือคนที่ไม่เคยต้องลดน้ำหนักเลยสักครั้งในชีวิตและยังสามารถกินขนมและน้ำอัดลมได้โดยที่ไม่ต้องรู้สึกผิด 

     ทำไมคนเหล่านี้กินอะไรก็ไม่อ้วน … เหตุผลหนึ่งอาจเป็นเพราะคนเหล่านั้นมีระบบการเผาผลาญพลังงานที่ดีและมีประสสิทธิภาพ และเราเองอาจมีระบบเผาผลาญที่ยังไม่ดีเท่าที่ควรก็เป็นได้ แล้วอะไรที่ทำให้ระบบเผาผลาญของเราทำงานได้ไม่ดี วันนี้เราได้รวบรวมพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่แอบทำให้ระบบเผาผลาญพังมาให้ทุกคนได้ลองตรวจสอบตัวเองกัน หากใครที่มีพฤติกรรมแบบนี้อยู่ ก็ต้องรีบเปลี่ยนด่วน !!

6 พฤติกรรม ทำระบบเผาผลาญพัง

1. ความเครียด

     การเผาผลาญที่ช้าลงอาจไม่เกี่ยวกับอาหารเพียงอย่างเดียว แต่เกี่ยวข้องกับความเครียดก็ได้ เพราะเมื่อเครียด ร่างกายของเราจะปล่อยฮอร์โมนความเครียดที่ชื่อว่าคอร์ติซอลออกมา คอร์ติซอลและความเครียดสามารถส่งผลกระทบต่อฮอร์โมนอื่น ๆ ในร่างกายและนิวโรเปปไทด์ เช่น อินซูลินและเลปติน และทำให้เกิดการสะสมไขมันได้ ดังนั้นการจัดการความเครียดอาจช่วยเพิ่มการเผาผลาญและช่วยให้ระบบเผาผลาญกลับมาทำงานตามปกติ

2. กินไม่พอ

     การกินแคลอรีน้อยเกินไปอาจเป็นสาเหตุหนึ่งของการเผาผลาญที่ไม่มีประสิทธิภาพ หลายคนลดน้ำหนักด้วยการอดอาหาร เพราะเชื่อว่าการลดปริมาณแคลอรี่มาก ๆ จะทำให้ผอมได้ แม้ว่าการลดน้ำหนักจำเป็นที่จะต้องควบคุมแคลอรีไม่ให้เกินกว่าที่ร่างกายต้องการ แต่ไม่ว่าอย่างไรร่างกายก็ยังคงต้องการเชื้อเพลิงเพื่อขับเคลื่อนระบบต่าง ๆ ซึ่งรวมไปถึงระบบเผาผลาญด้วย หากไม่ได้รับแคลอรีและพลังงานตามที่ต้องการ ร่างกายจะเริ่มโหมดประหยัดพลังงานและเริ่มลดกระบวนการเผาผลาญ ซึ่งส่งผลให้ร่างกายเริ่มสะสมไขมันและทำให้เกิดปัญหาโยโย่เอฟเฟกต์ตามมา

3. อาหารเช้าผิดประเภท 

     การเลือกอาหารเช้าที่ประกอบไปด้วยซีเรียลที่มีน้ำตาลเคลือบหรือขนมปังขาวกับแยมมีส่วนทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดจะพุ่งสูงขึ้นอย่างมากภายใน 30 นาทีหลังจากรับประทานอาหาร และหลังจากนั้นไม่นานเราก็จะรู้สึกหิวอีกครั้งและเริ่มหาของว่างมารับประทานเพื่อทำให้น้ำตาลในเลือดสูงขึ้นอีก ซึ่งพฤติกรรมนี้ส่งผลกระทบกับกระบวนการเผาผลาญให้เสื่อมประสิทธิภาพ ดังนั้นแนะนำให้รักษาสมดุลของมื้ออาหารด้วยโปรตีน คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน และไขมันที่ดีต่อสุขภาพ สารอาหารเหล่านี้ช่วยให้ระดับน้ำตาลในเลือดของเราคงที่และช่วยให้ร่างกายของเราใช้สารอาหารที่เราบริโภคเข้าไปได้ โดยที่ร่างกายไม่ต้องดึงพลังงานจากน้ำตาลมาใช้

4. ขาดโปรตีน

     โปรตีนจำเป็นสำหรับการเจริญเติบโตของกล้ามเนื้อและโปรตีนก็ยังสามารถช่วยลดน้ำหนักได้ด้วย การบริโภคโปรตีนเพิ่มขึ้นสามารถช่วยกระตุ้นการเผาผลาญ เพิ่มความอิ่มให้ยาวนาน และป้องกันการสูญเสียกล้ามเนื้อตามวัยได้ โปรตีนช่วยให้เรารักษามวลกล้ามเนื้อระหว่างการลดน้ำหนักได้ ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ เพราะการสูญเสียมวลกล้ามเนื้อหมายความว่าเรากำลังสูญเสียเนื้อเยื่อที่คอยช่วยเผาผลาญแคลอรีและไขมันสะสมในร่างกาย

5. นอนไม่เพียงพอ

      จะเป็นอย่างไรถ้าเราบอกคุณว่าการนอนหลับมีความสำคัญพอ ๆ กับการควบคุมอาหารและการออกกำลังกาย การอดนอนเป็นสาเหตุหลักประการหนึ่งที่ทำให้ระบบเผาผลาญทำงานช้าลง การอดนอนอาจนำไปสู่ความอยากอาหารที่เพิ่มขึ้น ไขมันสะสมเพิ่มขึ้น โรคอ้วนและความเสี่ยงต่อโรคต่าง ๆ 

6 ขาดน้ำ

     หนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้ระบบเผาผลาญทำงานช้าลงก็คือภาวะขาดน้ำ การขาดน้ำอาจทำให้เป้าหมายการลดน้ำหนักของเรามีปัญหาได้ ดังนั้นเราจึงต้องการน้ำให้เพียงพอเพื่อช่วยในการเผาผลาญไขมัน การดื่มน้ำอย่างเพียงพอสามารถช่วยทั้งการลดน้ำหนักและลดไขมัน ช่วยให้ระบบเผาผลาญทำงานได้ดีและมีประสิทธิภาพมากขึ้น สำหรับคนที่ออกกำลังกายนอกจากการดื่มน้ำให้เพียงพอตามปกติแล้ว เรายังสามารถเพิ่มการดื่มน้ำได้อีกครึ่ง - 1 ลิตร เพื่อชดเชยการสูญเสียน้ำระหว่างออกกำลังกาย

บทความที่คุณอาจสนใจ

• 5 อาหารทำระบบเผาผลาญพัง ระบบเผาผลาญไม่ดี ลดน้ำหนักยาก
• 6 อาหารช่วยเผาผลาญไขมันขณะนอนหลับ ช่วยลดน้ำหนัก เบิร์นไขมัน