5 เคล็ดลับช่วยฟื้นร่างกายให้สดใส ช่วยแก้อาการอ่อนเพลีย จากอาการนอนไม่หลับตลอดทั้งคืน
ลองคิดว่าเรากำลังต้องตื่นตอนเช้าเพื่อไปสัมภาษณ์งาน เพื่อนบ้านส่งเสียงดังยามวิกาลจนมาขวางทางการนอนของเราเมื่อคืนนี้ หรือแม้แต่การดื่มกาแฟเข้ม ๆ มากจนเกินไป ไม่ว่าจะมีปัญหาอะไรแต่ผลสุดท้ายที่ตามมาก็คือเรานอนหลับได้น้อยมากหรือในบางคนก็นอนไม่หลับเลยตลอดทั้งคืน และตอนนี้ก็ถึงเวลาที่เราต้องเผชิญกับเช้าวันใหม่ ทั้ง ๆ ที่สายตายังพร่ามัว ปวดหัวตุบ ๆ เพราะอดหลับอดนอน เราจะมีวิธีรับมืออย่างไรให้ตอนเช้ายังคงสดใสเหมือนเดิม
สิ่งสำคัญเหนืออื่นใด เราต้องตระหนักไว้ว่าการนอนไม่หลับนั้นถึงแม้ว่าจะไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย ๆ ก็ส่งผลต่อสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของเราได้ การนอนไม่หลับเพียงแค่คืนเดียวสามารถส่งผลให้ระดับโปรตีนในเลือดเปลี่ยนแปลง ระดับน้ำตาลในเลือด การทำงานของภูมิคุ้มกันและการเผาผลาญพลังงานในร่างกายก็จะผิดเพี้ยนไปด้วย และเมื่อเวลาผ่านไป การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ก็จะเพิ่มความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพ เช่น โรคเบาหวาน น้ำหนักที่เพิ่มขึ้น และโอกาสในการเกิดโรคมะเร็งก็จะมีมากขึ้นด้วย ยังไม่นับว่าการนอนไม่เต็มอิ่ม อาจส่งผลต่ออารมณ์ ความตื่นตัว ความสามารถในการมีสมาธิจดจ่อ หรือแม้แต่การตัดสินใจและความคล่องตัว การพยายามนอนให้หลับและพยายามหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นที่จะทำให้เราหลับไม่สนิทนั้นย่อมดีกว่าการพยายามหาทางชดเชยให้ร่างกายฟื้นตัวในภายหลัง แต่หากเราต้องเผชิญกับปัญหานอนไม่หลับเข้าแล้ว เราจะอย่างไรให้เช้าวันรุ่งขึ้นยังสดชื่นอยู่ได้ วันนี้เราได้เตรียมเคล็ดลับง่าย ๆ ที่จะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายสดใสและช่วยแก้อาการอ่อนเพลียได้จากการนอนไม่หลับตลอดคืนมาฝากกันค่ะ !!
5 เคล็ดลับช่วยฟื้นร่างกายให้สดใส จากอาการนอนไม่หลับ
1. กระตุ้นความสดชื่นด้วยวิตามินซี
การรับประทานอาหารที่มีวิตามินซี ไม่ว่าจะเป็นผักผลไม้หรือแม้แต่การรับประทานอาหารเสริมวิตามินซี ก็สามารถช่วยกระตุ้นให้ร่างกายสดชื่นขึ้นมาได้ค่ะ หลังจากที่เราตื่นนอน ลองเพิ่มผลไม้รสเปรี้ยวลงในมื้ออาหารเช้า ไม่ว่าจะเป็นส้ม น้ำมะนาว ฝรั่ง ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ รวมไปถึงอาหารที่มีวิตามินบีอย่างไข่ ข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต ขนมปังโฮลวีท อาหารเหล่านี้สามารถช่วยให้ร่างกายสดชื่นได้เช่นเดียวกัน
2. งีบหลับประมาณ 10 นาที
หลังจากนอนหลับไม่เพียงพอ เราอาจจะรู้สึกเหนื่อย อ่อนเพลียและรู้สึกง่วงจนอยากจะหลับได้ หากเราอยากจะจัดการกับอาการง่วงนอนแบบนี้ ก็ลองหาเวลาว่างสัก 10 นาทีในช่วงพักกลางวันงีบหลับสักหน่อยเพื่อให้ร่างกายมีแรงค่ะ อย่างไรก็ตามหากเรางีบหลับมากเกินไป ก็อาจจะทำให้เรามีปัญหาการนอนไม่หลับได้ในคืนต่อมา ดังนั้นการงีบหลับของเราจึงไม่ควรใช้เวลานานมาก แค่ช่วงระยะเวลา 10 - 30 นาทีก็เพียงพอ
3. หลีกเลี่ยงคาเฟอีน
ชาและกาแฟ รวมถึงเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของคาเฟอีนไม่ว่าจะเป็นโกโก้หรือแม้แต่น้ำอัดลม เครื่องดื่มเหล่านี้สามารถช่วยให้เราสดชื่นได้ก็จริง แต่ก็เพียงชั่วครู่เท่านั้นค่ะ กลับกันหากเราดื่มเครื่องดื่มเหล่านี้มากเกินไปก็จะส่งผลต่อการนอนในคืนถัดไปของเราได้ด้วย เพราะคาเฟอีนโดยเฉพาะในชาและกาแฟนั้นสามารถออกฤทธ์ได้ถึง 10 ชั่วโมง หากเราดื่มมากเกินหรือดื่มในช่วงบ่าย ๆ ก็จะส่งผลไปถึงการนอนหลับของเราได้
4. ดื่มน้ำให้มากขึ้น
การดื่มน้ำสามารถช่วยให้ร่างกายของเราสดชื่นขึ้นได้ แต่นอกจากนี้การนอนไม่หลับหรือนอนหลับไม่เพียงพอสามารถทำให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายทำงานผิดเพี้ยน ซึ่งรวมไปถึงระบบเลือดในร่างกายด้วย การดื่มน้ำจะช่วยป้องกันไม่ให้เลือดของเราข้นหนืด ซึ่งสามารถส่งผลไปถึงหัวใจ ทำให้หัวใจไม่ต้องทำงานหนักในการสูบฉีดเลือด ช่วยลดอาการอ่อนเพลีย และการดื่มน้ำยังช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญให้กลับมาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพได้อีกด้วย
5. ให้ความสำคัญกับการนอนในคืนถัดไป
ถึงแม้ว่าเราจะมีวิธีช่วยให้ฟื้นตัวได้อย่างสดชื่นหลังจากนอนไม่หลับมาทั้งคืน แต่สิ่งที่สำคัญกว่าก็คือเราก็ควรต้องให้ความสำคัญกับการนอนในคืนถัดไปด้วย อย่าปล่อยให้การนอนไม่หลับกลายเป็นเรื่องเรื้อรังที่เกิดขึ้นเป็นประจำ พยายามตั้งเป้าหมายที่จะเข้านอนให้ได้ตามเวลาและพยายามกลับไปสู่การนอนที่สม่ำเสมอและมีประสิทธิภาพ เพราะการนอนหลับสนิทและตื่นเช้าขึ้นมาอย่างสดใส ย่อมดีกว่าการมาคอยพยายามหาทางแก้เมื่อเรานอนไม่หลับและมีอาการอ่อนเพลียค่ะ
บทความที่คุณอาจสนใจ
- 5 วิธีดูแลร่างกายสำหรับคนนอนน้อย...อดนอนอย่างไร ให้ร่างกายไม่ทรุด ชีวิตไม่พัง
- 5 วิธีแก้อาการ อ่อนเพลียเรื้อรัง นอนไม่หลับ เหนื่อยง่าย แก้ได้ง่ายๆ ตามนี้!!