6 นิสัยการกินที่ช่วยไม่ให้แก่เร็ว หลังอายุ 50+ ช่วยชะลอวัย ลดเสี่ยงโรค
วันนี้เรามี 6 นิสัยการกินที่ช่วยไม่ให้แก่เร็ว หลังอายุ 50+ มาแชร์ค่ะ ใครไม่อยากแก่เร็ว ไม่อยากเสี่ยงโรคร้ายที่เกิดขึ้นตามอายุ แนะนำให้ปรับเปลี่ยนนิสัยการกินเสียใหม่ เพราะอาหารที่เรากินเข้าไปล้วนส่งผลต่อกระบวนการชราทั้งสิ้น อาหารอะไรที่ควรกินและไม่ควรกินบ้าง ไปเช็คกัน!
ปรึกษาปัญหาสุขภาพกับแพทย์ ผ่านแอป MorDee ส่งยาให้ถึงบ้าน คลิกรับส่วนลดเลย!
นิสัยการกินที่ช่วยไม่ให้แก่เร็ว
1. กินอาหารที่มีไฟเบอร์
การที่ร่างกายได้รับไฟเบอร์หรือใยอาหารอย่างเพียงพอในแต่ละวัน สามารถช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ โรคเบาหวานชนิดที่ 2 ความดันโลหิตสูง รวมถึงโรคมะเร็งได้ ซึ่งไฟเบอร์นั้นจะเข้ามาช่วยลดการเกิด Oxidative stress หรือ ความไม่สมดุลกันของการเกิดอนุมูลอิสระและการต้านอนุมูลอิสระ รวมถึงช่วยลดการอักเสบในร่างกาย ซึ่งทั้งอนุมูลอิสระและการอักเสบนี้มักจะเกิดขึ้นเมื่ออายุมากขึ้น เรียกได้ว่าไฟเบอร์มีส่วนช่วยชะลอวัยและลดความเสี่ยงจากโรคที่เกี่ยวข้องกับอายุได้
2. กินอาหารที่มีโปรตีน
ร่างกายของเราจะเริ่มสูญเสียมวลกล้ามเนื้อในทุกๆ 10 ปีหลังจากอายุ 30+ ไปแล้ว และมวลกล้ามเนื้อจะลดลงมากขึ้นหลังจากอายุ 60 ปี ซึ่งการสร้างกล้ามเนื้อให้มากขึ้นด้วยการกินโปรตีนถือเป็นวิธีหนึ่งที่จะช่วยลดการสูญเสียกล้ามเนื้อตามอายุได้ อีกทั้งยังแนะนำให้กินอาหารที่มีโปรตีนสูงร่วมกับการออกกำลังกายแบบมีแรงต้าน (Resistance training) ก็จะช่วยรักษาการเจริญเติบโตของกล้ามเนื้อให้แข็งแรงเมื่ออายุมากขึ้นได้ โดยแหล่งโปรตีนที่แนะนำคือโปรตีนไม่ติดมัน อย่างเช่น สัตว์ปีก ไข่ ถั่ว กรีกโยเกิร์ต เป็นต้น
3. กินอาหารที่มีไขมันดี
ในช่วงอายุ 45-55 ปี ถือเป็นช่วงอายุที่จะเริ่มมีความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ ซึ่งวิธีที่จะช่วยรักษาสุขภาพหัวใจของเราได้นั้นก็คือการกินอาหารที่มีไขมันดีอย่างเช่น กรดไขมันโอเมก้า 3 นั่นเอง! เพราะโอเมก้า 3 นี้มีส่วนช่วยลดความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดหัวใจ รวมถึงโรคความดันโลหิตสูงได้ โดยเฉพาะไขมันดีจากแหล่งอาหารอย่าง ปลา ถั่ว อะโวคาโด และน้ำมันพืชบางชนิด
4. กินอาหารจากพืช
การกินอาหารจากพืชมีส่วนช่วยชะลอกระบวนการชรา ลดการอักเสบ ลดน้ำหนัก ลดไขมัน รักษาความดันโลหิตให้คงที่ และยังช่วยลดสาร AGEs หรือสารเร่งความชราได้ อีกทั้งสาร AGEs ที่มักจะพบในเนื้อแดง เนื้อแปรรูปอย่างเบคอนและไส้กรอก ก็มักจะเกี่ยวข้องกับปัญหาโรคหัวใจ โรคอ้วน โรคเบาหวาน และโรคความดันโลหิตสูง แถมยังทำให้เราแก่ลงทั้งจากภายในและภายนอกอย่างเช่นความเสียหายจากอนุมูลอิสระต่อผิวหนัง การเกิดริ้วรอยและเส้นริ้วต่างๆ อีกด้วย
5. หลีกเลี่ยงอาหารแปรรูป
อาหารแปรรูปส่วนมากแล้วมักจะมีน้ำตาล ไขมันอิ่มตัว แคลอรี่ และโซเดียมที่สูง ดังนั้นหากอยากชะลอวัยหลังอายุ 50 ปี แนะนำให้จำกัดการกินอาหารแปรรูป และหันมากินผัก ผลไม้ ผลิตภัณฑ์จากสัตว์ที่ไม่ผ่านการแปรรูป ธัญพืชเต็มเมล็ด และถั่วต่างๆ ซึ่งจะช่วยลดสาร AGEs หรือสารเร่งความชราได้ นอกจากนั้นอาหารแปรรูปยังส่งผลเสียต่อสุขภาพหัวใจ เป็นการเพิ่มความเสี่ยงของโรคหัวใจได้อีกด้วย
6. กินอาหารเมดิเตอร์เรเนียน
การกินอาหารแบบเมดิเตอร์เรเนียน หรือ Mediterranean diet มีส่วนช่วยชะลอกระบวนการชราและช่วยเพิ่มไขมันดีในร่างกาย เพราะอาหารแบบนี้มีกรดไขมันโอเมก้า 3 มาช่วยต้านการอักเสบและช่วยชะลอวัยได้นั่นเอง โดยหลักการกินคือจะเน้นไปที่ปลา อาหารทะเล ผัก ผลไม้ ธัญพืชเต็มเมล็ด โปรตีน และไฟเบอร์ ในขณะที่จะลดการกินอาหารที่มีสาร AGEs หรืออาหารที่ทำให้เกิดการอักเสบลง
บทความที่คุณอาจสนใจ