8 อาหารแก้ผิวแห้ง กินอะไรให้ผิวฉ่ำ กินอะไรเพิ่มความชุ่มชื้นผิว

     อากาศหนาวมาถึงแล้ว ถึงแม้ว่าจะมาในเวลาไม่นาน แต่อากาศแบบนี้ก็สามารถดึงเอาความชื้นทั้งหมดออกจากผิวของเราได้ และส่งผลให้มือแห้ง ริมฝีปากแห้งและผิวก็แห้ง ถึงแม้ว่าเราอาจจะพยายามทามอยส์เจอไรเซอร์แล้วแต่ยังมีอาการคันอยู่ ดังนั้นนอกจากการพยายามให้ความชุ่มชื้นกับผิวจากภายนอก เรายังสามารถให้ความชุ่มชื้นแก่ร่างกายจากภายในได้เช่นกัน 

     ในขณะที่การดื่มน้ำมาก ๆ เป็นวิธีที่ดีที่จะทำให้ผิวของเราชุ่มชื้น ในอีกทางหนึ่ง เราก็สามารถลดความแห้งกร้านของผิวได้ด้วยอาหารที่เหมาะสม อย่างอาหารที่เต็มไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่ช่วยบำรุงผิวให้ชุ่มชื้นเสมือนทามอยส์เจอไรเซอร์ และสามารถช่วยดูแลผิวของเราในช่วงฤดูหนาวนี้ได้

8 อาหารแก้ผิวแห้ง

1. มันหวาน

     มันหวานเป็นได้ทั้งอาหารจานหลักของของว่างในวันหยุด มันหวานสีส้มอุดมไปด้วยวิตามินเอและวิตามินซีซึ่งเป็นสารอาหารที่เหมาะสำหรับบำรุงผิว วิตามินเอจะช่วยปกป้องผิวจากการถูกทำร้ายของแสงแดด และยังช่วยป้องกันไม่ให้ผิวแห้งได้ด้วย ขณะที่วิตามินซีสามารถช่วยเพิ่มคอลลาเจนในผิว ซึ่งการที่ผิวมีคอลลาเจนนั้นจะทำให้ผิวอิ่มน้ำและยืดหยุ่นได้ดี ดูมีน้ำมีนวลและมีสุขภาพดี 

2. ส้ม 

     การกินส้มทำให้เราได้วิตามินซีจำนวนมาก ซึ่งเรารู้อยู่แล้วว่าวิตามินซีนั้นีความสำคัญต่อทั้งสุขภาพโดยรวมและสุขภาพผิว ไม่ว่าเราจะกินส้มแบบเป็นลูกหรือจะดื่มน้ำส้มคั้นสด อาหารชนิดนี้ก็จะช่วยให้เราได้รับวิตามินซี และนอกจากนี้ส้มก็ยังมีโพแทสเซียมซึ่งเป็นอีกหนึ่งสารอาหารที่ช่วยให้ความชุ่มชื้นกับผิวได้

3. ผักโขม 

     จะหยิบผักโขมสีเขียวสดมาทำเป็นสลัด หรือกินเป็นเครื่องเคียง จะปรุงเป็นซุปอุ่นๆ หรือจะนำไปปั่นสมูทตี้ ผักโขมก็ยังคงจะให้ประโยชน์กับร่างกายและผิว เพราะผักโขมช่วยให้ผิวพรรณดี เต็มไปด้วยวิตามินซี วิตามินเคและโพแทสเซียม วิตามินซีช่วยเรื่องการสร้างคอลลาเจน โพแทสเซียมเป็นสารอาหารที่ดีที่ควรรับอย่างเพียงพอ เพราะสามารถช่วยให้ผิวของเราชุ่มชื้น

4. พริกแดง 

     พริกแดงมีคุณค่าทางโภชนาการมากมาย การเติมพริกแดงลงในสลัด ซุป และอาหารอื่น ๆ เป็นการเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการได้ พริกแดงเป็นแหล่งวิตามินเอและวิตามินซีที่ดี ซึ่งวิตามินทั้งสองอย่างนี้ช่วยในการผลิตคอลลาเจน ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นของผิว และบำรุงสุขภาพผิวโดยรวมให้แข็งแรงได้ พริกแดงยังมีวิตามินเคซึ่งช่วยเพิ่มคอลลาเจนและวิตามินอีซึ่งสามารถช่วยลดการอักเสบที่เกิดจากความเสียหายและความแห้งกร้านได้อีกด้วย 

5. แซลมอน 

     ปลาแซลมอนเต็มไปด้วยโปรตีน และเหมาะอย่างยิ่งกับการเป็นอาหารจานหลัก ปลาแซลมอนเป็นที่รู้จักกันนามของแหล่งอาหารที่มีปริมาณของกรดไขมันโอเมก้า 3 สูง กรดไขมันเหล่านี้เป็นน้ำมันที่ช่วยควบคุมการผลิตน้ำมันของผิวและช่วยรักษาความชุ่มชื้น โอเมก้า 3 ยังสามารถช่วยในเรื่องสิวที่เราอาจประสบอยู่ นอกจากนี้ ปลาแซลมอนยังมีวิตามินดีในปริมาณที่เหมาะสม ซึ่งสามารถช่วยลดการอักเสบและลดความแห้งกร้านได้

6. เมล็ดทานตะวัน 

     เมล็ดทานตะวัน ¼ ถ้วยมีปริมาณวิตามินอีเกือบครึ่งหนึ่งของปริมาณวิตามินอีที่แนะนำต่อวันสำหรับผู้ใหญ่ ซึ่งวิตามินอีสามารถช่วยต้านการอักเสบได้ และมีส่วนในการผลิตน้ำมันของผิว ช่วยปกป้องผิวและให้ความชุ่มชื้น เมล็ดทานตะวันยังมีทองแดงซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องผิวจากแสง UV ที่เป็นอันตราย ทองแดงยังช่วยในการผลิตคอลลาเจนซึ่งสามารถช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของผิวได้ 

7. อัลมอนด์ 

     อัลมอนด์เป็นอีกแหล่งหนึ่งของวิตามินอี ช่วยทำให้เกราะป้องกันผิวกักเก็บความชุ่มชื้นไว้ภายใน และช่วยให้ผิวชุ่มชื้นแล้ว อัลมอนด์ยังเป็นแหล่งโปรตีนและใยอาหารชั้นดี ที่ช่วยบำรุงสุขภาพโดยรวมของเราได้

8. หอยนางรม 

     หอยนางรมมีโปรตีนสูง แต่มีคาร์โบไฮเดรตและไขมันต่ำ ซึ่งหมายความว่าเป็นอาหารที่ดีในการที่จะรับประทานเพื่อสุขภาพ หอยนางรมอุดมไปด้วยสังกะสีซึ่งมีคุณสมบัติช่วยต้านการอักเสบที่เป็นประโยชน์ต่อผิว โดยจะช่วยซ่อมแซมความเสียหายที่เกิดจากความแห้งกร้าน หอยนางรมยังมีทองแดงในปริมาณสูง ซึ่งทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระและช่วยในการผลิตคอลลาเจน

บทความที่คุณอาจสนใจ

• 5 อาหารเพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิว ช่วยบำรุงผิวแห้งให้แข็งแรงสู้ลมหนาว
• 14 อาหารสำหรับผิวแห้ง ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ผิวแห้งขาดน้ำ กินอะไรดี