7 อาหาร สำหรับผู้ป่วยโรคไต ควรรับประทาน ป้องกันไตวาย กินอะไรดี?

รู้จัก 7 อาหาร สำหรับ ผู้ป่วยโรคไต ควรรับประทาน เพราะการเลือกทานอาหารถูกวิธี จะช่วยให้ไตแข็งแรงนะคะ และการดูแลสุขภาพไตเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ที่ต้องใส่ใจเป็นพิเศษ หากใครต้องดูแลสุขภาพคนในครอบครัว ที่อาจกำลังเผชิญกับภาวะ "โรคไต" การควบคุมอาหารคือหัวใจสำคัญในการชะลอความเสื่อมของไต และช่วยให้ชีวิตประจำวันมีคุณภาพดีขึ้น
การเลือกทานอาหารให้ถูกต้อง ไม่เพียงแต่ช่วยให้ไตทำงานเบาลง แต่ยังช่วยให้คุณยังคงได้ลิ้มรสอาหารอร่อยๆ โดยไม่ต้องรู้สึกจำกัดมากเกินไป และยังช่วยลดภาระการทำงานของไตได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเราจะเน้นอาหารที่หาได้ง่าย ปรุงไม่ยาก และช่วยให้การดูแลสุขภาพไตเป็นเรื่องที่อร่อยและมีความสุขค่ะ
สิ่งสำคัญก่อนเริ่มต้น : ข้อมูลในบทความนี้เป็นการแนะนำเบื้องต้น ผู้ป่วยโรคไตแต่ละระยะมีความต้องการทางโภชนาการที่แตกต่างกัน สิ่งสำคัญที่สุดคือการปรึกษาแพทย์และนักโภชนาการผู้เชี่ยวชาญ เพื่อวางแผนการรับประทานอาหารที่เหมาะสมกับระยะของโรคไตและสภาพร่างกายของคุณโดยเฉพาะค่ะ
ทำไมการเลือกอาหาร จึงสำคัญสำหรับผู้ป่วยโรคไต?
ไตมีหน้าที่สำคัญในการกรองของเสีย แร่ธาตุส่วนเกิน และรักษาสมดุลของเหลวในร่างกาย เมื่อไตทำงานได้ไม่เต็มที่ สารอาหารบางชนิด เช่น โซเดียม โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส และโปรตีน หากได้รับมากเกินไป อาจสะสมในร่างกายและเป็นอันตรายต่อไตและอวัยวะอื่นๆ ได้ การเลือกอาหารที่เหมาะสมจึงช่วยลดภาระไต ชะลอความเสียหาย และรักษาสมดุลร่างกายค่ะ
7 อาหาร สำหรับ ผู้ป่วยโรคไต ควรมีติดบ้าน!
1. ข้าวขาว , วุ้นเส้น
ข้าวขาวและวุ้นเส้น เป็นแหล่งคาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยวที่ให้พลังงานได้ดี และมีปริมาณโพแทสเซียม ฟอสฟอรัส และโปรตีนที่ต่ำกว่าข้าวกล้องหรือข้าวโอ๊ต ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ป่วยไตที่ต้องจำกัดแร่ธาตุเหล่านี้ ซึ่งสามารถนำมาทำอาหารได้หลากหลาย ทั้งข้าวสวยร้อนๆ หรือเมนูยำวุ้นเส้นเบาๆ
2. เนื้อปลา (ปลาทับทิม, ปลากะพง, ปลาอินทรี)
เนื้อปลาเป็นแหล่งโปรตีนคุณภาพดี ที่มีกรดอะมิโนจำเป็นครบถ้วน แต่มีฟอสฟอรัสต่ำกว่าเนื้อสัตว์ชนิดอื่นๆ โดยเฉพาะปลาทะเลน้ำลึกบางชนิด เช่น แซลมอน เพราะอาจมีฟอสฟอรัสสูง จึงควรปรึกษาแพทย์หรือนักโภชนาการก่อนทาน แนะนำว่าควรปรุงด้วยวิธีนึ่ง ต้ม ย่าง หรืออบ หลีกเลี่ยงการทอดหรือใช้น้ำมันเยอะๆ และไม่ควรปรุงรสจัดเกินไปนะคะ
3. พริกหวาน , หอมใหญ่ , กะหล่ำปลี
ผักเหล่านี้มีปริมาณโพแทสเซียมต่ำ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ป่วยโรคไตที่ต้องจำกัดโพแทสเซียมสูงๆ นอกจากนี้ยังมีวิตามินและใยอาหารที่ดีต่อสุขภาพ โดยเราสามารถนำมาประกอบอาหารได้หลากหลายเมนู ทั้งผัด ต้ม หรือใส่ในสลัด แต่ควรระมัดระวังน้ำสลัดที่มีโซเดียมสูง
4. แอปเปิล , ชมพู่ , มังคุด
เพราะผลไม้เหล่านี้มีปริมาณโพแทสเซียมต่ำ และยังอุดมไปด้วยใยอาหาร วิตามิน และสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยบำรุงร่างกายโดยรวม ถึงแม้ผลไม้จะมีประโยชน์ แต่ควรทานในปริมาณที่เหมาะสม ไม่มากเกินไปนะคะ และหลีกเลี่ยงผลไม้ที่มีโพแทสเซียมสูง เช่น กล้วย ส้ม ทุเรียน มะม่วงสุก
5. ไข่ขาว
ไข่ขาวเป็นแหล่งโปรตีน ที่มีคุณภาพสูงมาก และปราศจากฟอสฟอรัส เพราะฟอสฟอรัสส่วนใหญ่อยู่ในไข่แดง เหมาะสำหรับผู้ป่วยไตที่ต้องการโปรตีนเพื่อซ่อมแซมร่างกายแต่ต้องจำกัดฟอสฟอรัส สามารถนำมาทำเมนูไข่ขาวได้หลากหลาย เช่น ต้ม นึ่ง หรือทำไข่เจียวไข่ขาว โดยแนะนำให้ใช้น้ำมันน้อยๆ
6. น้ำมันพืชบางชนิด เช่น น้ำมันรำข้าว, น้ำมันคาโนล่า
น้ำมันรำข้าว เป็นแหล่งไขมันดีที่จำเป็นต่อร่างกาย โดยเฉพาะไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวและเชิงซ้อน ซึ่งดีต่อสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด ไม่มีผลต่อไต แต่ก็ต้องใช้ในปริมาณที่พอเหมาะในการประกอบอาหารนะคะ หรือเลือกใช้วิธีปรุงอาหารที่ลดการใช้น้ำมัน เช่น การนึ่ง อบ หรือต้ม
7. เครื่องปรุงรสโซเดียมต่ำ , พริกไทย , สมุนไพรต่างๆ
โซเดียมเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดภาวะบวมน้ำและความดันโลหิตสูงในผู้ป่วยโรคไต การใช้เครื่องปรุงรสสูตรโซเดียมต่ำ หรือการหันมาใช้พริกไทยสด สมุนไพรต่างๆ เช่น กระเทียม พริก ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด ในการเพิ่มรสชาติอาหาร จะช่วยลดปริมาณโซเดียมได้อย่างมาก
คำแนะนำเพิ่มเติม สำหรับ อาหารผู้ป่วยโรคไต
ปรึกษาแพทย์และนักโภชนาการ ก่อนการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการกิน สิ่งที่สำคัญ คือ ผู้ป่วยโรคไตควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อวางแผนอาหารที่เหมาะสมกับระยะของโรคและสภาพร่างกายของคุณก่อน
หลีกเลี่ยงอาหารต้องห้าม เช่น อาหารแปรรูป อาหารกระป๋อง ไส้กรอก แฮม บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป อาหารเค็มจัด เครื่องดื่มที่มีฟอสฟอรัสสูง เช่น น้ำอัดลมสีเข้ม หรือผักผลไม้ที่มีโพแทสเซียมสูง เช่น กล้วย , ส้ม , ทุเรียน , มะเขือเทศ
ควบคุมปริมาณ แม้จะเป็นอาหารที่ดี แต่การรับประทานในปริมาณที่มากเกินไปก็อาจส่งผลเสียได้ ควรทานในปริมาณที่เหมาะสมตามคำแนะนำ
บทความที่คุณอาจสนใจ
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้![]()
สิทธิประโยชน์แนะนำ
