รีเซต

8 ผักบํารุงลำไส้ ไฟเบอร์สูง แก้ท้องผูก พรีไบโอติก จากธรรมชาติ

8 ผักบํารุงลำไส้ ไฟเบอร์สูง แก้ท้องผูก พรีไบโอติก จากธรรมชาติ
aamyemily
15 ตุลาคม 2568 ( 10:40 )
25

    ลำไส้ดี ชีวิตดี! 8 ผักบำรุงลำไส้ ปรับสมดุลจุลินทรีย์ให้แข็งแรง เพราะลำไส้ใหญ่เปรียบเสมือน "สมองที่สอง" ของร่างกาย มีบทบาทสำคัญไม่เพียงแค่การย่อยและการดูดซึมสารอาหารเท่านั้น แต่ยังเป็นศูนย์รวมของจุลินทรีย์ดี (Probiotics) ที่ส่งผลต่อภูมิคุ้มกันและสุขภาพจิตของเราด้วย การเลือกทานผักที่ดี จะช่วยบำรุงลำไส้ให้แข็งแรง และกระตุ้นการทำงานของจุลินทรีย์ดีได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    วันนี้ได้รวบรวม 8 ผักบำรุงลำไส้ ที่อุดมไปด้วยใยอาหารและพรีไบโอติกที่เป็นอาหารของจุลินทรีย์ดี มาดูกันว่าผักชนิดไหนที่ควรเพิ่มเข้าไปในมื้ออาหารของสาวๆ กันค่ะ การเริ่มต้นดูแลลำไส้ด้วยผักทั้ง 8 ชนิดนี้ จะไม่เพียงแต่ช่วยให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น แต่ยังส่งผลดีต่อภูมิคุ้มกัน อารมณ์ และสุขภาพผิวพรรณอีกด้วยค่ะ

 

 

ทำไม "พรีไบโอติก" ในผักจึงสำคัญต่อลำไส้

    พรีไบโอติก คือ เส้นใยอาหารชนิดที่ร่างกายมนุษย์ย่อยไม่ได้ แต่เป็นอาหารชั้นดีสำหรับจุลินทรีย์ดีในลำไส้ เมื่อจุลินทรีย์เหล่านี้กินพรีไบโอติกเข้าไป จะผลิตกรดไขมันสายสั้น (Short-Chain Fatty Acids - SCFAs) ออกมา ซึ่งเป็นสารที่ช่วย

  • เสริมสร้างผนังลำไส้ : ทำให้ผนังลำไส้แข็งแรง ป้องกันการรั่วซึม
  • ปรับสมดุล pH : สร้างสภาพแวดล้อมที่เป็นกรดอ่อนๆ ซึ่งเหมาะสมกับการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ดี และยับยั้งจุลินทรีย์ก่อโรค
  • ลดการอักเสบ : ลดการอักเสบในลำไส้และทั่วร่างกาย

 

8 ผักบำรุงลำไส้ แหล่งพรีไบโอติกชั้นเยี่ยม

1. หัวหอมใหญ่

 

 

  • จุดเด่น : อุดมไปด้วย อินูลิน และ ฟรุกแทน ซึ่งเป็นพรีไบโอติกเข้มข้น
  • ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ดีหลักในลำไส้ นอกจากนี้ยังสามารถทานได้ทั้งแบบสุกและแบบดิบ โดยแบบดิบมีพรีไบโอติกสูงกว่า

 

2. กระเทียม

  • จุดเด่น : มีสารประกอบ อินูลิน และ ฟรุกแทน เช่นเดียวกับหัวหอมใหญ่
  • นอกจากเป็นพรีไบโอติกแล้ว กระเทียมยังมีสาร อัลลิซิน (Allicin) ซึ่งมีคุณสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราที่ไม่ดีในลำไส้ ทำให้ช่วยปรับสมดุลจุลินทรีย์ได้เป็นอย่างดี

 

 

3. หน่อไม้ฝรั่ง

  • จุดเด่น : เป็นแหล่งของ อินูลิน ที่ยอดเยี่ยม มีเส้นใยอาหารและสารต้านอนุมูลอิสระสูง
  • ช่วยในการขับถ่ายและทำความสะอาดลำไส้ นอกจากนี้ยังเป็นผักที่มี กลูตาไธโอน (Glutathione) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยบำรุงสุขภาพโดยรวม

 

4. กะหล่ำปลี

  • จุดเด่น : มีใยอาหารทั้งชนิดละลายน้ำ และไม่ละลายน้ำในปริมาณสูง
  • ใยอาหารช่วยเพิ่มปริมาณกากใยในอุจจาระ ทำให้ขับถ่ายได้ง่ายและเป็นเวลา นอกจากนี้กะหล่ำปลีเมื่อนำไปหมักเป็น กิมจิ จะกลายเป็นแหล่งของ โปรไบโอติก (Probiotic) อีกด้วย

 

 

5. แก่นตะวัน 

  • จุดเด่น : ถือเป็นสุดยอดแหล่งพรีไบโอติก เนื่องจากมี อินูลิน ในปริมาณสูงมาก
  • อินูลินในแก่นตะวัน จะถูกเปลี่ยนเป็น SCFAs ได้อย่างมีประสิทธิภาพในลำไส้ใหญ่ ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของผนังลำไส้และเพิ่มการดูดซึมแร่ธาตุ แต่มีข้อควรระวังเล็กน้อย เนื่องจากการทานในปริมาณมาก อาจทำให้เกิดแก๊สได้ในช่วงแรก

 

6. บรอกโคลี

  • จุดเด่น : อุดมไปด้วยใยอาหาร วิตามินเค และสาร กลูโคซิโนเลต (Glucosinolates)
  • ใยอาหารช่วยป้องกันอาการท้องผูก ขณะที่สารกลูโคซิโนเลตจะถูกเปลี่ยนเป็นสารที่มีคุณสมบัติต้านมะเร็งในลำไส้ ทำให้เป็นผักที่ช่วยปกป้องลำไส้ได้รอบด้าน

 

 

7. หัวบีทรูท

  • จุดเด่น : มีไฟเบอร์สูง และมีสาร เบทาเลน (Betalain) ที่ช่วยต้านการอักเสบ
  • ประโยชน์ต่อลำไส้ ช่วยในการเคลื่อนตัวของลำไส้และเป็นไฟเบอร์ชั้นดี นอกจากนี้ยังช่วยบำรุงการทำงานของตับ ซึ่งเกี่ยวข้องกับกระบวนการกำจัดสารพิษออกจากร่างกายโดยรวม

 

8. คะน้า

  • จุดเด่น : มีใยอาหารสูงมาก และเป็นแหล่งของวิตามินเค แคลเซียม วิตามินซี
  • ใยอาหารที่ไม่ละลายน้ำ ในคะน้ามีบทบาทสำคัญในการเพิ่มปริมาณกากใย ของอุจจาระ ช่วยกระตุ้นการเคลื่อนไหวของลำไส้ และช่วยลดปัญหาท้องผูกได้ดี นอกจากนี้ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดการอักเสบในระบบทางเดินอาหารได้อีกด้วยค่ะ

 

บทความที่คุณอาจสนใจ

ยอดนิยมในตอนนี้

สิทธิประโยชน์แนะนำ

แท็กยอดนิยม

บทความที่เกี่ยวข้อง

ดาวน์โหลด ทรูไอดีแอป
ดาวน์โหลด ทรูไอดีแอป
สัมผัสโลกไร้ขีดจำกัดกับทรูไอดี