7 วิธีดูแลสุขภาพเบื้องต้น เทคนิคดูแลสุขภาพให้แข็งแรงและมีความสุข

     เมื่อพูดถึงการรักษาสุขภาพให้แข็งแรง หลายคนคิดว่าจำเป็นที่จะต้องออกกำลังกายหรือควบคุมอาหารแบบเข้มงวดเท่านั้น อย่างไรก็ตาม การรักษาสุขภาพให้แข็งแรงนั้นขึ้นอยู่กับนิสัยประจำวันของเรา การออกกำลังกายหนัก ๆ เป็นเวลา 4 - 5 ชั่วโมงแล้วกลับมากินอาหารหนัก ๆ ที่มีน้ำตาลและไขมันสูงไม่เคยส่งผลดีต่อร่างกายของเราเลย

     ในวันนี้ คุณจะพบกับวิธีดูแลสุขภาพเบื้องต้นแบบง่าย ๆ 7 ข้อ ที่คุณสามารถทำได้ทุกวัน และสามารถเริ่มได้ตั้งแต่วันนี้ ซึ่งจะช่วยให้คุณมีสุขภาพโดยรวมที่ดีและมีความสุข ตั้งแต่การนอนไปจนถึงการควบคุมอาหารรวมถึงการออกกำลังกาย

7 วิธีดูแลสุขภาพเบื้องต้น

1. ดื่มน้ำ 1 - 2 ลิตรทุกวัน 

     การดื่มน้ำมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการช่วยให้ระบบไหลเวียนเลือดทำงานได้อย่างสมดุล ช่วยปรับระบบขับถ่าย ช่วยเพิ่มการเผาผลาญ ส่งผลต่อสุขภาพสมองและหัวใจ 

2. เดินเป็นเวลา 30 นาทีทุกวัน 

     งานวิจัยจาก American Heart Association แนะนำให้คุณออกกำลังกายระดับปานกลางอย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์ ซึ่งวิธีหนึ่งในการออกกำลังระดับปานกลางนั่นก็คือการเดินค่ะ โดยเราสามารถเดินติดต่อกันเป็นเวลา 30 นาที 5 วันต่อสัปดาห์ 

3. กินผักผลไม้

     เมื่อพูดถึงวิตามินและแร่ธาตุ หลายคนอาจจะหันไปมองหาขวดอาหารเสริมข้างกาย ถึงแม้ว่าอาหารเสริมจะมีคุณภาพดีแค่ไหน แต่ผักผลไม้ก็เป็นแหล่งอาหารธรรมชาติที่ดีต่อสุขภาพ ผักและผลไม้ยังเพิ่มไฟเบอร์ให้กับระบบขับถ่าย ช่วยลดปัญหาท้องผูก และช่วยลดพุงได้ด้วย

4. เพิ่มโปรตีน

     ก่อนกินอาหารในแต่ละมื้อ ลองตรวจสอบให้แน่ใจว่าอาหารของคุณนั้นประกอบไปด้วยโปรตีนในสัดส่วนที่ร่างกายต้องการ เพราะปรตีนถือเป็นสารอาหารหลักที่ร่างกายนำไปใช้ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ช่วยในการสร้างกล้ามเนื้อและทำให้คุณสามารถควบคุมน้ำหนักได้ 

5. กินอาหารมื้อเย็นก่อนนอน 3 ชั่วโมง 

     นอกเหนือจากการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ช่วงเวลาในการรับประทานอาหารก็สำคัญ การับประทานอาหารแล้วเข้านอนทันทีอาจทำให้อาหารไม่ย่อยและเสี่ยงต่อการเกิดโรคอย่างโรคกรดไหลย้อนได้ หากคุณรับประทานอาหารใกล้เวลานอนมากเกินไป อาจทำให้ร่างกายไม่แข็งแรง เกิดโรคอ้วนและอาจมีปัญหาไขมันสะสม

6. นอนหลับให้ดี

     หลีกเลี่ยงอุปกรณ์ใด ๆ ก็ตามที่จะรบกวนการนอนไม่ว่าจะเป็นทีวี แท็บเล็ต รวมถึงโทรศัพท์มือถือ พยายามหยุดใช้อุปกรณ์เหล่านี้ก่อนนอน และพยายามนอนหลับให้ได้ 6 - 8 ชั่วโมงเป็นอย่างน้อย เพื่อลดอาการเหนื่อยล้าและไม่มีสมาธิ

7. เลี่ยงคาเฟอีนก่อนนอน

     หากคุณมีปัญหาในการนอนหลับ ให้หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนในช่วงบ่ายแก่ ๆ คาเฟอีนเป็นตัวกระตุ้นที่ทำให้ร่างกายรู้สึกมีพลังงาน ช่วยลดอาการง่วงเหงาหาวนอน และจะเป็นเครื่องดื่มที่ดีมากหากเราบริโภคในช่วงเช้า อย่างไรก็ตามการดื่มเครื่องดื่มคาเฟอีนในช่วงบ่ายถึงเย็นอาจรบกวนการนอนของคุณได้ เพราะร่างกายยังกำจัดคาเฟอีนออกไปได้ไม่หมด และส่งผลให้เรานอนไม่หลับ

บทความที่คุณอาจสนใจ

• 7 เคล็ดลับ เพิ่มเลือดไปเลี้ยงสมอง เพื่อป้องกันโรคสมองเสื่อม
• 4 วิธีดูแลตัวเองไม่ให้ป่วยง่าย ในช่วงอากาศเปลี่ยน เข้าสู่หน้าฝน
• 5 วิธีดูแลร่างกายช่วงอากาศเปลี่ยนแปลง สุขภาพแข็งแรง ไม่กลัวเป็นหวัด