รีเซต

7 ประโยชน์ของแมงกานีส บำรุงกระดูก สมอง ต้านอนุมูลอิสระ ลดน้ำตาลในเลือด

7 ประโยชน์ของแมงกานีส บำรุงกระดูก สมอง ต้านอนุมูลอิสระ ลดน้ำตาลในเลือด
pommypom
1 เมษายน 2566 ( 18:00 )
6.8K

แมงกานีส (Manganese) แร่ธาตุที่หลายๆ คนอาจจะมองข้าม แท้จริงแล้วแมงกานีสมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากกว่าที่คิด ร่างกายไม่ควรขาดเลย ซึ่ง 7 ประโยชน์ของแมงกานีสที่เด่นๆ นั้นจะมีอะไรบ้าง ไปเช็คกัน!

 

ประโยชน์ของแมงกานีส

1. ดีต่อสุขภาพกระดูก

     แมงกานีสดีต่อสุขภาพกระดูก ช่วยบำรุงรักษากระดูก โดยเฉพาะเมื่อได้รับแมงกานีสพร้อมกับแคลเซียม ซิงค์ และทองแดง ซึ่งมีการศึกษาพบว่าอาจมีส่วนช่วยลดการสูญเสียกระดูกไขสันหลังในหญิงสูงอายุ เพราะเมื่ออายุมากขึ้น ไม่ว่าจะหญิงหรือชายก็มักประสบกับภาวะกระดูกพรุนหรือกระดูกหักได้ง่าย อีกทั้งการได้รับแมงกานีสกับวิตามินดี แมกนีเซียม และโบรอน (boron) ก็ยังดีต่อมวลกระดูกด้วยเช่นกัน นอกจากนั้นแมงกานีสก็ยังอาจมีส่วนช่วยป้องกันโรคข้ออักเสบและข้อเข่าเสื่อมได้อีกด้วย

2. ต้านอนุมูลอิสระ

     แมงกานีสถือเป็นส่วนหนึ่งของเอนไซม์ซุปเปอร์ออกไซด์ดิสมิวเทส (Superoxide Dismutase; SOD) ซึ่งถือเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญที่สุดชนิดหนึ่งในร่างกายของเรา มีส่วนช่วยปกป้องอนุมูลอิสระไม่ให้มาทำร้ายเซลล์ในร่างกาย เพราะอนุมูลอิสระนั้นมีส่วนทำให้แก่ก่อนวัย เสี่ยงโรคหัวใจ และมะเร็งบางชนิดได้ โดยเฉพาะผู้ที่เป็นโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ก็จะยิ่งมี SOD ที่ต่ำกว่าคนทั่วไป

3. ลดการอักเสบ 

     แมงกานีสมีส่วนช่วยลดการอักเสบในร่างกายได้ ยิ่งถ้าได้รับคู่กับกลูโคซามีน (glucosamine) และคอนดรอยติน (chondroitin) ก็จะช่วยลดอาการปวดข้อเข่าเสื่อมเล็กน้อยได้ และเนื่องด้วยแมงกานีสเองก็เป็นส่วนหนึ่งของสารต้านอนุมูลอิสระอย่างซุปเปอร์ออกไซด์ดิสมิวเทส (Superoxide Dismutase; SOD) จึงมีส่วนช่วยลดการอักเสบได้ด้วยเช่นกัน

4. ควบคุมน้ำตาลในเลือด

     นักวิจัยยังคงพยายามศึกษาความเกี่ยวข้องว่า แมงกานีสในระดับที่ต่ำนั้นมีส่วนทำให้เกิดโรคเบาหวานได้หรือไม่ หรือสภาวะที่ป่วยเป็นโรคเบาหวานจะทำให้ระดับแมงกานีสลดลงหรือไม่? ซึ่งมีการศึกษาในสัตว์บางสายพันธุ์พบว่า การขาดธาตุแมงกานีสสามารถนำไปสู่การเป็นโรคเบาหวานได้ อีกทั้งยังมีการวิจัยพบว่าแมงกานีสนั้นจะเข้มข้นมากในตับอ่อน และมีส่วนเกี่ยวข้องกับการผลิตอินซูลินซึ่งจะกำจัดน้ำตาลออกจากเลือด ดังนั้นแมงกานีสอาจมีส่วนช่วยในการหลั่งอินซูลินที่เหมาะสมและช่วยให้น้ำตาลในเลือดคงที่ได้นั่นเอง

5. ลดอาการก่อนมีประจำเดือน

     แมงกานีสอาจมีส่วนช่วยลดอาการก่อนมีประจำเดือนต่างๆ หรือ Premenstrual syndrome (PMS) โดยเฉพาะเมื่อยิ่งได้รับคู่กับแคลเซียม ซึ่งอาการก่อนมีประจำเดือนเหล่านี้ไม่ว่าจะเป็นความวิตกกังวล ปวดท้อง ความเจ็บปวด อารมณ์แปรปรวน และแม้แต่ภาวะซึมเศร้า โดยผู้ที่มีระดับแมงกานีสในเลือดต่ำจะมีอาการปวดและอาการเกี่ยวกับอารมณ์มากขึ้นในช่วงก่อนมีประจำเดือนไม่ว่าจะได้รับแคลเซียมมากน้อยเพียงใด อย่างไรก็ตามอาจจะต้องรอการศึกษาเพิ่มเติมในความเกี่ยวข้องกันระหว่างแมงกานีส แคลเซียม และอาการก่อนมีประจำเดือนต่างๆ ต่อไป

 

6. ช่วยรักษาแผล

     แมงกานีสอาจมีส่วนช่วยรักษาบาดแผลและสมานแผลได้โดยการผลิตคอลลาเจน เพราะกระบวนการรักษาบาดแผลนั้นจำเป็นที่จะต้องใช้คอลลาเจนเข้ามาช่วย ซึ่งแมงกานีสจำเป็นสำหรับการสร้างกรดอะมิโนอย่างโพรลีน (Proline) ที่สำคัญต่อการสร้างคอลลาเจนมาช่วยรักษาบาดแผลในเซลล์ผิวหนังของเรา และเมื่อยิ่งได้รับแมงกานีสควบคู่กับแคลเซียมและซิงค์ก็อาจมีส่วนช่วยรักษาแผลเรื้อรังให้ดีขึ้นได้

 

7. ดีต่อการทำงานของสมอง

     แมงกานีสจำเป็นสำหรับการทำงานของสมอง พร้อมช่วยรักษาความผิดปกติของระบบประสาท เนื่องจากแมงกานีสมีสารต้านอนุมูลอิสระอย่างซุปเปอร์ออกไซด์ดิสมิวเทส (Superoxide Dismutase; SOD) ซึ่งมีส่วนช่วยป้องกันอนุมูลอิสระที่อาจมาทำลายเซลล์สมองในทางเดินประสาทได้ นอกจากนี้แมงกานีสยังสามารถจับกับสารสื่อประสาท และส่งผลให้การทำงานของสมองดีขึ้นได้อีกด้วย

     อย่างไรก็ตาม การได้รับแมงกานีสมากจนเกินไปก็อาจจะส่งผลเสียต่อร่างกายได้ อย่างเช่นการส่งผลเสียต่อสมอง ซึ่งอาจเสี่ยงต่อการเกิดอาการคล้ายโรคพาร์กินสัน เช่น อาการสั่นได้ ดังนั้นแนะนำให้ได้รับปริมาณแมงกานีสอย่างเพียงพอ ไม่น้อยเกินไปจนขาดสารอาหารหรือมากเกินไปจนเกิดอาการข้างเคียงได้

 

บทความที่คุณอาจสนใจ

ยอดนิยมในตอนนี้

สิทธิประโยชน์แนะนำ

แท็กยอดนิยม

บทความที่เกี่ยวข้อง