8 วิธีดูแลสายตา บำรุงสายตา ช่วงอยู่บ้าน เพ่งแต่หน้าจอมือถือกับคอมทุกวัน ต้องดูแล!
วันนี้เรามี 7 วิธีดูแลสายตา ลดอาการตาล้า ตามัว ตาแห้ง หรืออาการเวียนหัวจากการเพ่งหน้าจอมือถือหรือคอมพิวเตอร์มากเกินไป เชื่อว่าช่วงนี้หลายๆคนคงอยู่ที่บ้านเก็บตัวให้ห่างไกลจากเชื้อไวรัส COVID-19 และหนึ่งในกิจกรรมที่คนยุคใหม่ชอบทำกันก็คือการเล่นสมาร์ทโฟนนั่นเอง อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ว่าจะเป็นจอมือถือ หรือจอคอมพิวเตอร์จะมีแสงสีฟ้า (Blue light) ที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพดวงตาของเรา ดังนั้นใครที่รู้สึกใช้สายตามากเกินไปช่วงนี้ ต้องรีบมาดูแลสุขภาพดวงตาของเราก่อนสายเกินแก้นะคะ
วิธีดูแลสายตา 1 : พักสายตาจากหน้าจอ
การเพ่งหน้าจออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เป็นเวลานานทำให้เราตาล้า ตามัว ตาแห้ง รวมถึงอาการเวียนหัว ปวดหัวเนื่องจากปัญหาในการปรับโฟกัสของการมองเห็นได้ ดังนั้นเราจึงควรแก้ไขปัญหาจากต้นตอค่ะ เราควรพักสายตาจากหน้าจอบ้างทุกๆ 20 นาที เป็นเวลา 20 วินาที แนะนำให้พักสายตาด้วยการมองออกไปไกลๆประมาณ 20 ฟุต อีกทั้งยังไม่ควรนั่งแช่ตลอดทั้งวันนะคะ ให้ปรับเปลี่ยนอิริยาบถหรือลุกเดินบ้างเพื่อลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อส่วนอื่นๆของร่างกายด้วย
นอกจากนั้นเราควรที่จะปรับหน้าจอให้อยู่ในระดับที่พอดีกับสายตาของเรา และให้ห่างจากสายตาประมาณ 25 นิ้วนะคะ อีกวิธีคือการปรับขนาดฟอนต์ให้เหมาะสมกับการมองเห็นของเรา ไม่ทำให้ต้องเพ่งมากเกินไป และควรปรับแสงจากหน้าจอไม่ให้จ้าเกินไปด้วย เพราะจะทำให้สายตาทำงานหนักได้ค่ะ
วิธีดูแลสายตา 2 : หมั่นทำความสะอาดคอนแทคเลนส์หรือแว่นตา
คอนแทคเลนส์เป็นสิ่งที่สัมผัสกับดวงตาของเราโดยตรง ถ้าเราไม่ทำความสะอาดแล้วล่ะก็ จะทำให้เกิดการติดเชื้อที่ดวงตาของเราได้ค่ะ เราควรที่จะทำความสะอาดคอนแทคเลนส์รวมถึงตลับใส่ด้วย ทุกๆ 2-3 เดือน จากนั้นควรที่จะเปลี่ยนตลับใหม่ด้วยนะคะ ที่สำคัญ ไม่ควรใส่คอนแทคเลนส์เกินระยะเวลาที่กำหนด รวมถึงห้ามใส่ข้ามวันโดยไม่ถอดออกด้วยค่ะ เพื่อเลี่ยงการระคายเคืองและการติดเชื้อของดวงตานั่นเอง
วิธีดูแลสายตา 3 : ทานอาหารบำรุงสายตา
- วิตามินเอ : ช่วยในการทำงานของจอประสาทตาและการมองเห็นในเวลากลางคืน พบใน ชะอม คะน้า ยอดกระถิน ตำลึง ผักโขม ฟักทอง
- วิตามินบี 1 และ บี 12 : ช่วยชะลอการเกิดต้อกระจก พบใน ตับ ไข่ เนื้อสัตว์ นมสด
- วิตามินซี : ช่วยชะลอการเกิดต้อกระจก พบใน ฝรั่ง ส้ม สับปะรด มะขามป้อม กะหล่ำดอก บร็อคโคลี่
- วิตามินอี : ช่วยชะลอการเกิดต้อกระจก พบใน น้ำมันธัญพืช น้ำมันดอกคำฝอย ข้าวโพด ถั่วเหลือง
- เบต้าแคโรทีน : ช่วยในการมองเห็นในเวลากลางคืน พบใน แครอท มะละกอ ข้าวโพดอ่อน หน่อไม้ฝรั่ง ผักบุ้ง
- ลูทีน และ ซีแซนทิน : ชะลอการเกิดต้อกระจกและโรคจอประสาทตาเสื่อม พบใน ผักโขม ไข่แดง ข้าวโพด บร็อคโครี่
- ซีลีเนียม : ช่วยชะลอการเกิดต้อกระจก พบใน หอยนางรม หอยลาย ตับไก่ เมล็ดทานตะวัน
- สังกะสี : ช่วยลดความเสี่ยงจอประสาทตาเสื่อม พบใน หอยนางรม ตับ เนื้อสัตว์
- สารสกัดจากใบแปะก๊วย : รักษาสายตาที่ผิดปกติในต้อหินบางชนิด
- โอเมก้า 3 : รักษาภาวะตาแห้ง พบใน ปลาแซลมอน ปลาซาร์ดีน ผลกีวี่
ที่มา : สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
วิธีดูแลสายตา 4 : ออกกำลังกาย
การออกกำลังกายจะช่วยทำให้ร่างกายแข็งแรง มีภูมิต้านทานโรค และห่างไกลจากโรคต่างๆ โดยเฉพาะ โรคอ้วน โรคเบาหวาน หรือไขมันสูง เพราะโรคเหล่านี้ อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนต่อดวงตา หรือมีปัญหาสายตาในอนาคตได้นั่นเองค่ะ
วิธีดูแลสายตา 5 : เลี่ยงการสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์จัด
การดื่มแอลกอฮอล์มากๆ มีโอกาสเสี่ยงต่อโรคทางสายตาอย่างโรคจอประสาทตาเสื่อมจากอายุได้ค่ะ ส่วนการสูบบุหรี่ทำให้เสี่ยงต่อโรคจอประสาทตาเสื่อมจากอายุ โรคต้อกระจก รวมถึงอาจจะทำลายเส้นประสาทตา มีโอกาสทำให้ตาบอดได้ในอนาคตเลยล่ะค่ะ
วิธีดูแลสายตา 6 : พักผ่อนให้เพียงพอ
การใช้สายตาทั้งวันเพ่งหน้าจออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีแสงสีฟ้า หรือ Blue light จะทำให้ตาของเราล้าได้ และส่งผลเสียต่อสายตาตามมา การพักผ่อนให้เพียงพอจะทำให้เราได้พักสายตาจากการทำงานหนัก ทำให้ตาของเราสดใสขึ้น และการมองเห็นชัดเจนขึ้นได้ค่ะ
วิธีดูแลสายตา 7 : บริหารดวงตาให้แข็งแรง
- กะพริบตาทุกๆ 4 วินาที
- ละสายตาไปมองอย่างอื่นทุกชั่วโมง แนะนำการมองสีโทนเย็น อย่างสีเขียวค่ะ
- กวาดสายตาด้วยการมองในระยะไกลประมาณ 20 ฟุต
- ซิทอัพดวงตา ด้วยการหลับตาแล้วเหลือบขึ้นลงสักพัก จากนั้นให้ลืมตาแล้วกวาดสายตามองผ่านๆ 1 นาที เสร็จแล้วให้หลับตาอีกครั้งและเหลือบไปทางด้านซ้ายและขวา 1 นาที จากนั้นให้ลืมตาแล้วกวาดสายตามองผ่านๆอีกรอบหนึ่ง ให้บริหารตาแบบนี้ไปเรื่อยๆจนกว่าจะรู้สึกดีขึ้นนะคะ และควรเว้นระยะห่างการบริหารตาแต่ละครั้งสัก 2-3 นาทีด้วยค่ะ
วิธีดูแลสายตา 8 : จิบน้ำบ่อยๆ
การจิบน้ำบ่อยๆจะช่วยป้องกันการตาแห้งได้ดีค่ะ ส่วนมากแล้วคนที่ใส่คอนแทคเลนส์มักจะหยอดน้ำตาเทียม แต่บางครั้งน้ำตาเทียมก็อาจจะส่งผลเสียต่อดวงตาได้ถ้าไม่มีคุณภาพ วิธีที่ง่ายมากๆ แถมยังประหยัด และเป็นวิธีธรรมชาติเลยก็คือให้จิบน้ำเปล่าบ่อยๆนั่นเอง แต่ไม่ควรดื่มน้ำครั้งละมากๆนะคะ เพราะร่างกายดูดซึมไม่ทันและจะขับถ่ายออกมาเป็นปัสสาวะแทน เพื่อให้ร่างกายได้ดูดซึมน้ำ ควรใช้วิธีจิบน้อยๆ แต่จิบบ่อยๆค่ะ
บทความที่คุณอาจสนใจ
- 7 กันแดด ช่วยกันแสงสีฟ้า ทำงานหน้าจอต้องมี Work from Home ยิ่งต้องใช้!
- 5 กิจกรรมทำที่บ้าน ไม่น่าเบื่อ! ไม่อยากออกไปไหน...ทำอะไรที่บ้านดี?
- 10 วิธีแก้เบื่อ สำหรับช่วงถูกกักตัวจาก COVID-19 อยู่บ้านทำอะไรดี?