7 อาหารควรเลี่ยงช่วงมีประจำเดือน ไม่อยากปวดประจำเดือน ควรงดกินอะไร
อาการในช่วงที่มีประจำเดือนของสาวๆ แต่ละคนอาจแตกต่างกันไป บางคนก็แทบจะไม่มีอาการใดๆ เลย ในขณะที่บางคนก็มีอาการปวดท้องจนแทบลุกจากเตียงไม่ไหว หรือนอกจากนี้ก็ยังเป็นตะคริว ปวดศีรษะ เจ็บปวดกล้ามเนื้อ หรือมีอาการคลื่นไส้ ในขณะที่บางคนอาการเจ็บป่วยทางร่างกายไม่มี แต่มีอาการบวม ท้องอืดและอารมณ์แปรปรวนแทน
การรับประทานอาหารบางอย่างในขณะที่มีประจำเดือนอย่างผลไม้และผักใบเขียวทั้งหลายอาจช่วยลดอาการไม่สบายตัวต่างๆ ได้ ในขณะที่อาหารอื่นๆ เช่น อาหารรสเผ็ดและอาหารไขมันสูง อาจทำให้อาการรุนแรงขึ้น หากสาวๆ เป็นคนที่มักมีอาการไม่สบายตัวในช่วงใกล้มีรอบเดือนนี้ ลองเพิ่มการรับประทานอาหารบางอย่างและลดการรับประทานอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพอาจสามารถช่วยให้คุณรู้สึกดีขึ้นได้
7 อาหารที่ควรเลี่ยงในช่วงมีประจำเดือน
1. เกลือ
การบริโภคเกลือหรืออาหารที่เค็มจัด อาจนำไปสู่การกักเก็บน้ำในร่างกายซึ่งอาจทำให้ท้องอืดและทำให้ตัวบวมได้ ดังนั้นเพื่อลดอาการท้องอืดและอาการบวม พยายามอย่าใส่เกลือลงในอาหารและควรหลีกเลี่ยงอาหารแปรรูปที่มีโซเดียมมาก
2. น้ำตาล
เป็นเรื่องที่ทำได้หากเรารับประทานน้ำตาลในปริมาณที่พอเหมาะ แต่การรับประทานน้ำตาลมากเกินไปอาจทำให้พลังงานพุ่งสูงและตามมาด้วยการตกลงต่ำอย่างรวดเร็ว เหตุนี้อาจทำให้อารมณ์ของเราแย่ลง โดยเราอาจจะรู้สึกอารมณ์แปรปรวน หดหู่ หรือวิตกกังวล ดังนั้นให้ระวังปริมาณน้ำตาลที่รับประทานเข้าไปอย่าให้มากเกิน
3. กาแฟ
คาเฟอีนอาจทำให้เกิดการกักเก็บน้ำในร่างกายและท้องอืด นอกจากนี้ยังสามารถทำให้เกิดอาการปวดหัวอย่างรุนแรงได้ แต่อย่างไรก็ตาม หากคุณเป็นคนที่ดื่มกาแฟเป็นประจำ การถอนคาเฟอีนก็อาจทำให้เกิดอาการปวดหัวได้เช่นกัน ดังนั้นอย่าเลิกดื่มกาแฟไปเลยทันทีหากคุณเคยชินกับการดื่มกาแฟ แต่ก็ไม่ควรดื่มเกินวันละ 2 - 3 แก้ว เพราะกาแฟอาจทำให้เกิดปัญหาที่ระบบทางเดินอาหาร หากสาวๆ มักจะท้องเสียระหว่างมีประจำเดือน การลดปริมาณกาแฟลงอาจหยุดช่วยปัญหานี้ไม่ให้เกิดขึ้นได้
4. แอลกอฮอล์
แอลกอฮอล์สามารถส่งผลเสียหลายอย่างต่อร่างกาย และอาจทำให้อาการช่วงมีประจำเดือนของคุณรุนแรงขึ้น ตัวอย่างเช่น แอลกอฮอล์อาจทำให้คุณขาดน้ำ ซึ่งอาจส่งผลทำให้อาการปวดหัวแย่ลงและทำให้ท้องอืดได้ รวมถึงยังสามารถนำไปสู่ปัญหาทางเดินอาหาร เช่น ท้องร่วงและคลื่นไส้ นอกจากนี้ อาการเมาค้างยังสามารถทำให้เกิดอาการคล้ายกันกับช่วงมีประจำเดือนได้ เช่น ปวดหัว คลื่นไส้ อาเจียน อ่อนเพลียและเหนื่อยล้า
5. อาหารรสจัด
หลายคนพบว่าการรับประทานอาหารรสเผ็ดทำให้ปวดท้อง ท้องเสีย และคลื่นไส้ หากท้องของเรามีปัญหา ไม่สามารถทนต่ออาหารรสเผ็ดหรือหากคุณไม่คุ้นเคยกับการรับประทานอาหารลักษณะนี้ ก็ควรหลีกเลี่ยงอาหารรสเผ็ดๆ ในช่วงที่มีประจำเดือนจะดีกว่า
6. เนื้อแดง
ในช่วงที่มีประจำเดือน ร่างกายจะผลิตสารพรอสตาแกลนดิน ซึ่งเป็นสารประกอบที่ช่วยให้มดลูกหดตัวและช่วยกำจัดเยื่อบุมดลูกให้หลุดลอกออกมา และส่งผลให้ประจำเดือนไหลออกมาได้ อย่างไรก็ตามระดับของสารพรอสตาแกลนดินที่สูงเกินไปก็อาจทำให้เกิดตะคริวได้ ซึ่งเนื้อแดงส่วนมากมักมีสารพรอสตาแกลนดินสูงเช่นกัน จึงทให้ควรหลีกเลี่ยงในช่วงมีประจำเดือน
7. อาหารที่อาจก่อให้เกิดอาการแพ้
อาหารที่อาจทำให้เกิดอาการแพ้นั่นมีอยู่หลายอย่าง และหากคุณเป็นคนที่มีความไวต่อการแพ้อาหาร ก็ให้ระมัดระวังเป็นพิเศษ โดยเฉพาะในช่วงที่มีประจำเดือน อย่างเช่นปัญหาแพ้แลคโตสและแพ้อาหารทะเล ยิ่งในช่วงที่มีประจำเดือน ยิ่งต้องหลีกเลี่ยงอาหารที่กระตุ้นให้ร่างกายเกิดปัญหา เพราะการรับประทานอาหารเหล่านี้อาจทำให้คลื่นไส้ ท้องผูก หรือท้องเสียได้ และจะทำให้อาการในช่วงมีประจำเดือนมีมากขึ้น
บทความที่คุณอาจสนใจ
