7 วิธีแก้กรดไหลย้อนเร่งด่วน วิธีแก้กรดไหลย้อนด้วยตัวเอง ไม่ต้องพึ่งยา
ปัญหาสุขภาพเรื้อรังบางครั้งก็สามารถบรรเทาได้ด้วยการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต อยากเช่นปัญหาเสียดท้อง อาการไอเรื้อรังและเจ็บกลางหน้าอกจากโรคกรดไหลย้อน ก็ถือเป็นปัญหาเรื้อรังที่ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกไม่สบายตัว การจะทำให้อาการเหล่านี้หมดไปได้ นั่นก็คือการเปลี่ยนวิธีใช้ชีวิต อย่างเช่นการงดรับประทานอาหารมื้อใหญ่ก่อนนอน หรือการลดรับประทานอาหารรสจัด หากคุณกำลังพยายามหลีกเลี่ยงโรคกรดไหลย้อนหรือพยายามกำจัดอาการของโรคนี้ให้หายไปอย่างรวดเร็ว เรามีวิธีลดอาการกรดไหลย้อนด้วยตัวเองมาให้ค่ะ
ปัจจัยเสี่ยงของโรคกรดไหลย้อน
- มักรับประทานอาหารมื้อใหญ่
- มักนอนราบหรือเข้านอนหลังจากรับประทานอาหารไม่นาน
- การรับประทานอาหารบางประเภทมาก เช่น อาหารมัน อาหารทอด
- ดื่มเครื่องดื่มบางประเภทเป็นประจำ เช่น โซดา กาแฟ หรือแอลกอฮอล์
- ใช้ยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDS) จำนวนมาก เช่น แอสไพรินหรือไอบูโพรเฟน
- สูบบุหรี่
- น้ำหนักเกิน
- กำลังตั้งครรภ์
7 วิธีลดอาการกรดไหลย้อนด้วยตัวเอง
1. กินกล้วยสุก
ปริมาณโพแทสเซียมสูงของกล้วยทำให้เป็นผลไม้ชนิดนี้มีความเป็นด่างพอสมควร และจากข้อมูลของ Academy of Nutrition & Dietetics พบว่ากล้วยสุกสามารถช่วยต้านกรดในกระเพาะที่ระคายเคืองต่อหลอดอาหาร อย่างไรก็ตามกล้วยที่ยังไม่สุกจะมีความเป็นด่างน้อยกว่า กล้วยดิบจะมีแป้งมาก และอาจเป็นตัวกระตุ้นกรดไหลย้อนสำหรับบางคนได้ ดังนั้นเราจึงควรกินกล้วยที่สุกงอมหากมีอาการของโรคกรดไหลย้อน และนอกจากดล้วย เรายังสามารถกินอาหารที่เป็นด่างอื่นๆ ที่อาจช่วยลดอาการเสียดท้องได้อีก เช่น แตงโม กะหล่ำดอก ยี่หร่า และถั่ว
2. เคี้ยวหมากฝรั่งปราศจากน้ำตาล
การเคี้ยวหมากฝรั่งจะสามารถช่วยเพิ่มการผลิตน้ำลาย และวิธีนี้จะช่วยลดอาการเสียดท้องได้ เนื่องจากน้ำลายจะช่วยให้เรากลืนได้ง่าย ซึ่งเป็นการช่วยลดกรดลงได้ และทำให้กรดในกระเพาะอาหารเป็นกลางมากขึ้นและไม่ไหลย้อนเข้าสู่หลอดอาหาร
3. งดอาหารมื้อดึก และอาหารว่างก่อนนอน
การนอนทั้งที่มีอาหารอยู่เต็มท้องสามารถกระตุ้นกรดไหลย้อนและทำให้อาการเสียดท้องแย่ลงได้ ดังนั้นเราจึงควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารภายใน 3 ชั่วโมงก่อนเข้านอนเพื่อให้ท้องมีที่ว่าง รวมถึงหลังรับประทานอาหารแล้ว เราควรรออย่างน้อย 2 ชั่วโมงก่อนออกกำลังกาย
4. สวมเสื้อผ้าหลวมๆ
หากคุณมีอาการของโรคกรดไหลย้อนได้ง่าย การใส่เข็มขัดที่รัดมากๆ หรือใส่เสื้อผ้าที่บีบรัดหน้าท้อง อาจส่งผลต่ออาการของเรา ทำให้เราเกิดอาการได้ง่าย ดังนั้นเพื่อเลี่ยงไม่ให้อาการกำเริบ ควรใส่เสื้อผ้าหลวม ๆ โดยเฉพาะบริเวณช่วงเอวและหน้าท้อง
5. ปรับท่านอน
การยกศีรษะและหน้าอกให้สูงกว่าเท้าขณะนอนหลับสามารถช่วยป้องกันและบรรเทาอาการกรดไหลย้อนและอาการเสียดท้องได้ ซึ่งเราสามารถทำได้โดยใช้หมอนวางวางหนุนให้สูงขึ้น นอกจากนี้การนอนตะแคงซ้ายยังช่วยให้ระบบย่อยอาหารดีขึ้นและช่วยลดอาการของโรคกรดไหลย้อนได้
6. ลดความเครียด
ความเครียดเรื้อรังส่งผลเสียต่อร่างกาย รวมถึงยังส่งผลต่อการย่อยอาหารให้ช้าลงและทำให้ร่างกายไวต่อความเจ็บปวดมากขึ้น ยิ่งอาหารอยู่ในกระเพาะนานเท่าไหร่ กรดในกระเพาะอาหารก็จะไหลย้อนมากขึ้นเท่านั้น นอกจากนี้การมีความไวต่อความเจ็บปวด ก็จะทำให้เรารู้สึกปวดแสบปวดร้อนจากอาการเสียดท้องมากขึ้น การพยายามลดความเครียดสามารถช่วยป้องกันและบรรเทาผลกระทบของโรคกรดไหลย้อนและช่วยลดอาการเสียดท้องได้
7. หยุดสูบบุหรี่
การสูบบุหรี่จะลดปริมาณน้ำลายที่ร่างกายผลิตขึ้น และส่งผลต่อประสิทธิภาพของลิ้นเปิดปิดที่คอยป้องกันไม่ให้กรดในกระเพาะไหลเข้าสู่หลอดอาหาร ซึ่งทั้งสองอย่างนี้ทำให้เกิดอาการเสียดท้องได้ การเลิกบุหรี่สามารถลดความถี่ของอาการและลดความรุนแรงของโรคกรดไหลย้อนได้
บทความที่คุณอาจสนใจ
- 7 วิธีแก้กรดไหลย้อน บรรเทาอาการด้วยตัวเอง ไม่ต้องพึ่งยา
- 7 อาหาร ช่วยลดอาการกรดไหลย้อน ไม่แสบร้อนกลางหน้าอก