5 สิ่งที่ไม่ควรทำหลัง 18.00 น. เมื่อกำลังลดน้ำหนัก เผาผลาญลดลง สะสมไขมันมากขึ้น
การลดน้ำหนักไม่เพียงแค่การควบคุมอาหารและออกกำลังกายเท่านั้น แต่ยังมีสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่หากทำแล้วจะช่วยเร่งกระบวนการเผาผลาญไขมันทั้งหมดในร่างกายได้ เพื่อกำจัดน้ำหนักส่วนเกินและเพื่อให้การลดน้ำหนักของเราในครั้งนี้ไม่กระทบกับสุขภาพ มีสิ่งที่เราไม่ควรทำในตอนเย็นและช่วงดึก ซึ่งวันนี้เราก็มี 5 สิ่งที่ไม่ควรทำหลัง 18.00 น. หากเรากำลังพยายามลดน้ำหนักอยู่ พยายามหลีกเลี่ยง 5 สิ่งที่ว่านี้ ร่างกายจะได้เผาผาลาญไขมันได้ดีเหมือนเดิม และช่วยให้เราลดน้ำหนักได้เร็วขึ้นด้วย
5 สิ่งที่ไม่ควรทำเมื่อลดน้ำหนัก
1. ดื่มกาแฟและเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน
คาเฟอีนจากกาแฟแค่เพียง 1 แก้ว สามารถช่วยให้เราตื่นตัวได้นานถึง 6 ชั่วโมง เพื่อการลดน้ำหนักเราจำเป็นที่จะต้องนอนให้ได้ติดต่อกัน 7 - 8 ชั่วโมง ซึ่งการรับคาเฟอีนเข้าไปในร่างกาย สามารถขัดขวางการนอนหลับและทำให้เราตื่นตลอดทั้งคืนได้
2. หลีกเลี่ยงผลไม้หลังพระอาทิตย์ตกดิน
การบริโภคผลไม้หลังพระอาทิตย์ตกดินสามารถขัดขวางกระบวนการย่อยอาหารและทำให้เลือดเพิ่มขึ้น ซึ่งโดยปกติน้ำตาลนั้นก็มีส่วนในการขัดขวางการนอนหลับอยู่แล้ว ยิ่งโดยเฉพาะผลไม้ที่มีน้ำตาลสูงและรสหวานจัด ยิ่งไม่ควรกินเป็นมื้อเย็น
3. กินมื้อเย็นมากเกินไป
การรับประทานอาหารไม่เพียงพอตลอดทั้งวัน และหลังจากนั้นก็หันไปรับประทานอาหารมื้อใหญ่ในตอนเย็น พฤติกรรมแบบนี้จะทำให้การลดน้ำหนักมีปัญหาอย่างแน่นอน เพราะร่างกายจะย่อยอาหารไม่หมด พลังงานจะสะสมในร่างกายในรูปแบบของไขมัน
4. กินคาร์โบไฮเดรตขัดสีเป็นมื้อเย็น
เนื่องจากการเผาผลาญของเราจะช้าลงในตอนเย็น การรับประทานคาร์โบไฮเดรตโดยเฉพาะอย่างยิ่งคาร์โบไฮเดรตแบบที่ผ่านการขัดสีจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดพุ่งสูงขึ้น ซึ่งนอกจากจะรบกวนการนอนหลับแล้ว ยังทำให้ร่างกายสะสมไขมันเพิ่มขึ้นได้ด้วย
5. กินของว่างในเวลากลางคืน
ของว่างยามดึกจะเพิ่มโอกาสที่แคลอรี่ส่วนเกินจะถูกสะสมเป็นไขมัน เนื่องจากการเผาผลาญของเราจะลดลงอย่างมากในตอนเย็น การกินอาหารในตอนดึกยังอาจรบกวนการนอนหลับของเรา ซึ่งแน่นอนว่าทั้งหมดนี้จะส่งผลเสียต่อการลดน้ำหนัก
บทความที่คุณอาจสนใจ
- 5 เทคนิคที่ควรทำตอนเย็น เพื่อช่วยลดน้ำหนัก ผอมอย่างปลอดภัย แถมสุขภาพดี
- 5 เทคนิคลดน้ำหนัก สำหรับพนักงานออฟฟิศ นั่งนาน ไม่มีเวลา ก็ผอมได้!