3 วิธีลดภาวะไขมันพอกตับ โดยไม่ต้องใช้ยา ไม่ต้องหาหมอ

     ในปัจจุบันพบว่าคนไทยหลายคนมีภาวะไขมันพอกตับเพิ่มมากขึ้นค่ะ ซึ่งสาเหตุของภาวะนี้ก็มาได้จากหลายอย่าง ทั้งการกินอาหารที่ผิดสุขลักษณะ ผู้ที่เป็นโรคอ้วน โรคเบาหวาน รวมถึงผู้ที่ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เป็นประจำ ก็สามารถเกิดภาวะไขมันพอกตับหรือไขมันเกาะตับนี้ได้ค่ะ

     ไขมันพอตับเป็นภาวะที่มักไม่แสดงอาการ ผู้ที่เป็นโรคนี้มักจะรู้ตัวตอนที่ตรวจสุขภาพประจำปี ซึ่งหากใครที่ไม่ได้ตรวจสุขภาพก็มักจะไม่รู้ตัวจนกว่าจะเกิดโรคร้ายแรง ไม่ว่าจะเป็นโรคตับอักเสบ โรคมะเร็งตับอละโรคตับวาย ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่าภาวะไขมันพอกตับเป็นภัยเงียบที่อันตรายถึงชีวิต และหากเราปล่อยปละละเลย ไม่ให้ความสนใจที่จะรักษาก็อาจนำไปสู่โรคร้ายได้ วันนี้เราจึงจะมาแนะนำ 3 วิธีในการรักษาไขมันพอกตับด้วยตัวเองแบบไม่ต้องใช้ยาจะต้องปฏิบัติตัวอย่างไรบ้าง เรามาดูกันเลยค่ะ

3 วิธี ลดภาวะไขมันพอกตับด้วยตัวเอง

1. ลดน้ำหนัก

     สาเหตุหลักของภาวะไขมันพอกตับคือการที่เรามีน้ำหนักเกินค่ะ ดังนั้นจึงแนะนำว่าหากใครที่มีน้ำหนักเกินเกณฑ์ก็ให้พยายามลดน้ำหนักลงมาให้ได้ โดยใครที่มีค่า BMI หรือว่าดัชนีมวลกายมากกว่า 25 ในผู้ชายที่มีรอบเอวมากกว่า 90 cm และผู้หญิงที่มีรอบเอวมากกว่า 80 cm แสดงว่าเรามีภาวะอ้วนลงพุง ซึ่งเสี่ยงที่จะเกิดภาวะไขมันเกาะตับได้ ดังนั้นแนะนำว่าให้รีบลดน้ำหนักลงมาค่ะ

     ซึ่งการลดน้ำหนักให้ตัวเองยังมีสุขภาพดีอยู่นั้น อันดับแรกนั่นก็คือเราจำเป็นที่จะต้องควบคุมอาหาร โดยการลดแป้งขาว ลดน้ำตาลและอาหารที่มีไขมันสูง รวมถึงควรต้องมีการออกกำลังควบคู่ ก็จะช่วยทำให้น้ำหนักของเราลดลงได้ค่ะ

2. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

     แน่นอนว่าหากอยากที่จะลดภาวะไขมันเกาะตับ เราก็ควรต้องออกกำลังกายเพื่อให้ร่างกายได้เผาผลาญไขมันที่สะสมไว้ออกไป แต่นอกเหนือจากนั้นหากเราเปรียบเทียบระหว่างคนที่ออกกำลังอย่างสม่ำเสมอกับคนที่ไม่ค่อยได้ออกกำลังหรือไม่เคยออกกำลังกายเลย คนกลุ่มหลังจะมีความเสี่ยงต่อภาวะไขมันพอกตับมากกว่า ดังนั้นการรักษาไขมันพอกตับด้วยตัวเองให้ได้ผลดีและไม่มีผลข้างเคียง สิ่งหนึ่งที่เราควรทำให้ได้นั่นก็คือการหันมาเริ่มออกกำลังกายนั่นเองค่ะ 

     ซึ่งการออกกำลังเพื่อการลดภาวะไขมันพอกตับนั้น เราไม่จำเป็นจะต้องออกกำลังกายหนักหรือรุนแรง โดยเราอาจจะเริ่มจากการที่เดิน ปั่นจักรยาน วิ่งเหยาะ ๆ ก็ได้ และอาจจะทำให้ได้ประมาณวันละ 20 - 30 นาทีก็เพียงพอ 

3. เลี่ยงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทุกชนิด

     ไม่ว่าจะเป็นเหล้า เบียร์ ไวน์ต่าง ๆ เพราะเครื่องดื่มเหล่านี้เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดภาวะไขมันพอกตับได้ ยิ่งในคนที่มีภาวะไขมันพอกตับเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ยิ่งแนะนำว่าให้งดหรือหลีกเลี่ยงให้ได้อย่างเด็ดขาด เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ส่งผลโดยตรงต่อโรคนี้ และความรุนแรงของโรคก็จะขึ้นกับปริมาณและระยะเวลาในการดื่มด้วย ยิ่งเราดื่มมากและดื่มมานาน โรคนี้ก็จะยิ่งรุนแรงขึ้นได้ค่ะ 

บทความที่คุณอาจสนใจ

• 5 อาหารลดไขมันเกาะตับ ช่วยล้างสารพิษ ร่างกายสะอาด ลดความเสี่ยงโรค
• 4 อาหาร กินบ่อยๆ เสี่ยงไขมันพอกตับ ไขมันสะสมมากไม่รู้ตัว