5 เทคนิคดื่มกาแฟ ช่วยลดน้ำหนัก ช่วยเร่งการเผาผลาญแคลอรีส่วนเกิน
หลายคนทำงานไม่ได้หากไม่ได้ดื่มกาแฟเป็นอย่างแรกในตอนเช้า แต่พอได้ดื่มกาแฟสักถ้วยแล้วกลับทำให้เรามีพลังงานเหลือเฟือถึงแม้จะเป็นเพียงการดื่มกาแฟแค่อย่างเดียวโดยที่ไม่มีอาหารอื่น ๆ เลย เพราะปริมาณคาเฟอีนในกาแฟทำหน้าที่เป็นตัวกระตุ้น ระงับความอยากอาหาร และยังเป็นที่รู้จักในเรื่องการช่วยกระตุ้นการเผาผลาญแคลอรี่และไขมัน นอกจากนี้คาเฟอีนยังมีคุณสมบัติในการทำให้เกิดความร้อน ซึ่งหมายความว่าจะสามารถช่วยเผาผลาญแคลอรีในร่างกายได้
กาแฟยังอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและแร่ธาตุอย่างโพแทสเซียมและแมกนีเซียม และด้วยประโยชน์มากมายที่มีอยู่ในกาแฟ เราจึงสามารถดื่มกาแฟเพื่อช่วยเผาผลาญพลังงานส่วนเกินได้ แต่เดี๋ยวก่อนหากเราดื่มกาแฟผิดวิธีก็อาจเปลี่ยนเป็นการทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นแทน ดังนั้นวันนี้เราจึงมี 5 เทคนิคในการดื่มกาแฟเพื่อช่วยลดน้ำหนัก เราควรจะดื่มอย่างไรให้เหมาะสมและได้รับประโยชน์สูงสุดจากเครื่องดื่มยอดนิยม ตามไปดูวิธีของเรากันเลยค่ะ
คาเฟอีนมีผลต่อการลดน้ำหนักอย่างไร?
คาเฟอีนช่วยเพิ่มการเผาผลาญและช่วยเร่งให้ร่างกายสามารถเผาผลาญแคลอรีได้มากขึ้น นอกจากนี้ยังทำหน้าที่เป็นยาระงับความอยากอาหาร หมายความว่าหลังจากดื่มกาแฟ เราจะรู้สึกหิวเพียงเล็กน้อยตลอดทั้งวัน นอกจากนี้คาเฟอีนในกาแฟยังช่วยลดอาการปวดกล้ามเนื้อและตะคริวหลังออกกำลังกายได้ จึงเหมาะเป็นเครื่องดื่มก่อนออกกำลังกายที่ยอดเยี่ยม สามารถให้พลังงานในการออกกำลังกายได้เป็นอย่างดี
5 เทคนิคดื่มกาแฟ ช่วยลดน้ำหนัก
1. ดื่มกาแฟดำ
หลีกเลี่ยงการเติมน้ำตาล นม และสิ่งอื่น ๆ ลงในกาแฟเพียงเท่านี้ก็จะได้กาแฟดำที่มีแคลอรีเป็น 0 คาเฟอีนและกรดคลอโรจีนิกในกาแฟดำช่วยกระตุ้นการเผาผลาญและช่วยเร่งการลดน้ำหนัก กลับกันหากเราตื่มสารปรุงแต่งรสลงในกาแฟ อาจเป็นการเพิ่มแคลอรี่โดยไม่จำเป็นและทำให้เราลดน้ำหนักได้ช้าลงด้วย
2. หลีกเลี่ยงครีมเทียมและครีม
อย่างที่รู้กันว่ากาแฟจะมีรสชาติดีขึ้นมากเมื่อเราเติมครีมหรือครีมเทียม แต่การเพิ่มของอร่อย ๆ แบบนั้นก็เป็นการเพิ่มไขมันและแคลอรี่ด้วย และเมื่อแคลอรี่ของกาแฟเพิ่มขึ้น มันก็จะไม่ช่วยเราลดน้ำหนักอีกต่อไป
3. ดื่มกาแฟคู่อาหารเช้า
งานวิจัยบอกว่าควรดื่มกาแฟควบคู่ไปกับอาหารเช้า เพราะกาแฟมีแนวโน้มที่จะกระตุ้นการผลิตกรดในกระเพาะ แต่หากเราดื่มกาแฟโดยไม่มีอาหาร กรดส่วนเกินนี้จะทำลายเยื่อบุของท้อง และอาจส่งผลให้ระดับฮอร์โมนคอร์ติซอลหรือฮอร์โมนเครียดเพิ่มมากขึ้น
4. จำกัดการบริโภคไม่เกิน 2 - 3 ถ้วย
ปริมาณคาเฟอีนในกาแฟทำหน้าที่เป็นยาขับปัสสาวะที่ไม่รุนแรง แต่นั่นก็เป็นสาเหตุที่การดื่มกาแฟมากเกินไปอาจทำให้ร่างกายขาดน้ำได้ ดังนั้นควรจำกัดการบริโภคคาเฟอีนให้เหลือเพียง 2 - 3 ถ้วยต่อวัน
5. ดื่มอย่างน้อย 6 ชั่วโมงก่อนนอน
การวิจัยกล่าวว่า ปริมาณคาเฟอีนจากกาแฟ 1 ถ้วยสามารถทำให้คนตื่นตัวได้นานถึง 6 ชั่วโมง หากต้องการลดน้ำหนักให้ประสบความสำเร็จ การปฏิบัติตามสุขอนามัยในการนอนหลับที่เหมาะสมถือเป็นสิ่งสำคัญ และการนอนหลับอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 7 ชั่วโมงก็ถือเป็นเรื่องจำเป็น ซึ่งคาเฟอีนทำให้เราตื่นได้นานถึง 6 ชั่วโมง ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เรานอนไม่หลับ จึงควรดื่มกาแฟแก้วสุดท้ายก่อนเวลา 16.00 น. หรือหากใครที่เข้านอนตอนช่วง 20.00 น. ก็ควรดื่มกาแฟแก้วสุดท้ายในช่วงเที่ยงวัน
บทความที่คุณอาจสนใจ
- แจก! 5 สูตรกาแฟ สำหรับคนลดน้ำหนัก น้ำตาลน้อย แคลอรี่ต่ำ ทำเองที่บ้านได้
- เคล็ด ไม่ ลับ! 5 วิธีดื่มกาแฟ ให้ดีกับสุขภาพ คอกาแฟห้ามพลาด