3 อาการของภาวะตับอักเสบ ต้นเหตุของมะเร็งตับและการเสียชีวิต
ตับถือเป็นอวัยวะที่ใหญ่ที่สุดในร่างกายของเรา มีหน้าที่ในการช่วยขับสารพิษต่าง ๆ นอกจากนี้ยังทำหน้าที่ในการช่วยผลิตน้ำย่อย น้ำดีและเอนไซม์ต่าง ๆ หากตับของเราทำงานผิดปกติ แน่นอนว่าก็จะทำให้ร่างกายผิดปกติไปด้วยและทำให้เกิดผลเสียต่อร่างกายอย่างร้ายแรงค่ะ โรคที่เกิดกับตับของเรามีหลายโรค ไม่ว่าจะเป็นภาวะไขมันพอกตับ โรคตับแข็ง โรคตับอักเสบ โรคมะเร็งตับ ซึ่งสาเหตุของโรคเหล่านี้เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นการดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมากและติดต่อกันเป็นระยะเวลายาวนาน เกิดจากไวรัสที่เป็นตัวก่อโรคตับอักเสบ เกิดจากการที่มีน้ำหนักตัวมาก มีไขมันในร่างกายมาก ซึ่งสาเหตุเหล่านี้มักจะทำให้เรามีภาวะตับอักเสบ หากไม่รีบพบแพทย์ ภาวะตับอักเสบนี้ก็สามารถพัฒนาไปเป็นภาวะตับวายได้ และส่งผลให้เสียชีวิตได้เลยทีเดียวค่ะ
การหมั่นสังเกตตัวเองถือเป็นสิ่งจำเป็นและสำคัญมาก ๆ โดยเฉพาะในผู้ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงทั้งหลาย วันนี้เราได้รวบรวมแต่ละอาการของภาวะตับอักเสบเฉียบพลันว่ามีอะไรบ้างที่จะเป็นสัญญาณเตือน ใครที่มีอาการแบบนี้ต้องรีบไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการตรวจอย่างละเอียดค่ะ
3 อาการของภาวะตับอักเสบ
1. ตัวเหลืองตาเหลือง
โดยปกติแล้วตับมีหน้าที่ในการผลิตน้ำดี เพื่อทำหน้าที่ในการย่อยไขมันต่าง ๆ บริเวณลำไส้ค่ะ หากตับของเรามีอาการผิดปกติ โดยอาจจะมีอาการอุดตันหรือมีการอักเสบ น้ำดีก็จะไม่สามารถไหลไปที่บริเวณลำไส้ได้ และทำให้น้ำดีล้นออกมาที่บริเวณผิวหนังและดวงตาของเรา ดังนั้นใครที่มีอาการตัวเหลือง ตาเหลือง โดยเฉพาะบริเวณตาขาวของเราจะมีสีเหลืองเพิ่มากขึ้น ก็แนะนำว่าให้รีบไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจรักษาค่ะ
2. คลื่นไส้อาเจียน
เนื่องจากตับมีหน้าที่ในการช่วยดีท็อกซ์ ช่วยขับของเสียและสารพิษต่าง ๆ ออกจากร่างกาย เมื่อตับของเรามีอาการอักเสบ ทำงานได้ไม่เต็มที่ สารพิษเหล่านี้ก็จะถูกสะสมอยู่ในร่างกายและส่งผลให้เรารู้สึกคลื่นไส้ อาเจียน และอาจจะมีอาการเบื่ออาหารร่วมด้วยค่ะ
3. มีไข้
เมื่อมีอวัยวะภายในเกิดการอักเสบ ร่างกายของเราก็มักจะมีไข้สูงค่ะ เช่นเดียวกับตับของเรา หากอักเสบขึ้นมา ร่างกายก็มักจะแสดงอาการด้วยการที่อุณหภูมิก็จะสูงขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งหากใครที่วัดไข้แล้วได้มากกว่า 38-39 องศา ร่วมกับมีอาการอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นตัวเหลืองตาเหลือง คลื่นไส้อาเจียน เบื่ออาหาร แบบนี้ก็แนะนำว่าให้รีบไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุดค่ะ
หลายครั้งที่ผู้มีความผิดปกติเกี่ยวกับตับ อาจจะไม่มีอาการใด ๆ หรืออาจจะมีอาการเพียงเล็กน้อย เช่น อ่อนเพลีย ปัสสาวะสีเข้ม โดยอาการที่แสดงออกมามักจะขึ้นอยู่กับความรุนแรง ชนิดของโรค และระยะของโรคที่เกิดขึ้น ดังนั้นการหมั่นสังเกตอาการของตัวเองจึงเป็นการช่วยป้องกันไม่ให้เกิดโรคร้ายจนยากแก่การรักษาค่ะ
อ้างอิง
บทความที่คุณอาจสนใจ
- 7 อาหารที่ไม่ดีต่อตับ ทำร้ายตับ เสี่ยงไขมันพอกตับ ไม่อยากตับพังต้องเลี่ยง!
- 9 อาหารบำรุงตับ ช่วยดูแลรักษาตับ กินปกป้องตับ ลดเสี่ยงโรคเกี่ยวกับตับ