4 อาการโรคกรดไหลย้อน เป็นแล้วอันตราย กลายเป็นโรคเรื้อรัง
ชีวิตในปจจุบันของคนเราทุกวันนี้มีความเร่งรีบมากขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบในหลายๆ อย่าง ทั้งความเครียดจากที่ทำงานหรือจากชีวิตประจำวัน พฤติกรรมการกินอาหารที่ผิดปกติไป ทั้งการรีบกินหรือการกินอาหารที่ไม่มีประโยชน์เน้นเพียงแค่ให้อิ่มท้องไว้ก็พอ พฤติกรรมเหล่านี้ส่งผลกับสุขภาพของเราโดยตรง มีหลายโรคเกิดขึ้น อย่างเช่นโรคที่เราจะพูดถึงในวันนี้ โรคกรดไหลย้อน นั่นเองค่ะ
โรคกรดไหลย้อน คือภาวะที่น้ำย่อยจากกระเพาะอาหารไหลย้อนกลับขึ้นไปยังหลอดอาหาร อาการเหล่านี้มักเป็นมากขึ้นจากการกินอาหารมื้อหนัก การนอนหงาย การยกของหนัก สามารถพบได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ และสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเวลาแม้ไม่ได้อยู่ในเวลากินอาหารก็ตาม ซึ่งโรคกรดไหลย้อนยังสามารถเกิดขึ้นได้จากพฤติกรรมการกินของเราที่ผิดปกติไป เช่น การกินแล้วนอน การกินอาหารที่มีไขมันสูง การกินมื้อดึก เป็นต้น ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้ส่งผลให้เกิดโรคกรดไหลย้อนขึ้นมาได้ ผู้ป่วยที่เป็นโรคกรดไหลย้อนจะรู้สึกเจ็บแสบบริเวณลิ้นปี่และทรวงอก แต่นอกจากนั้นยังมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วยอีก ดังนี้ค่ะ
อาการของโรคกรดไหลย้อน
1. รู้สึกแสบร้อนบริเวณลิ้นปี่เรื่อยขึ้นมาที่อกและคอ
2. มีน้ำรสเปรี้ยวหรือรสขมไหลย้อนขึ้นมาที่ปาก
3. ท้องอืด แน่นท้อง คลื่นไส้ เจ็บหรือจุกบริเวณหน้าอกและรู้สึกเหมือนมีอะไรมาขวางอยู่ที่บริเวณคอ
4. หืดหอบ ไอแห้งๆ เสียงแหบ เจ็บคอ ซึ่งเกิดมาจากการที่กรดไหลย้อนขึ้นมาที่คอและกล่องเสียงทำให้อักเสบเรื้อรัง
การดูแลตัวเองหลังจากเป็นโรคกรดไหลย้อน
1.เลี่ยงการสูบบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
2. เลี่ยงการดื่มน้ำชา กาแฟ น้ำอัดลม น้ำผลไม้ และเลี่ยงการกินอาหารรสจัด อาหารที่มีไขมันสูง
3. ไม่กินอาหารมากเกินไปและควรกินมื้อเย็นให้เสร็จอย่างน้อย 3 ชั่วโมงก่อนเข้านอน รวมถึงไม่กินมื้อดึก
4. กินอาหารน้อยๆ แต่กินให้บ่อยครั้ง
ในปัจจุบันการกินยาก็เป็นวิธีที่ช่วยรักษา โรคกรดไหลย้อน ได้ แต่เมื่อหยุดยาก็มีโอกาสที่จะกลับมาเป็นได้ใหม่ ซึ่งในขั้นตอนนี้เราแนะนำให้ไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินถึงขั้นตอนการรักษาต่อไปค่ะ
บทความที่คุณอาจสนใจ
7 วิธีแก้สะอึก ทำแล้วหายในเวลาไม่นาน
6 อาการ ปวดหัว แต่ละประเภท สาเหตุจากไหน เป็นโรคอะไรได้บ้าง