7 อาหารบำรุงตับ ช่วยฟื้นฟูตับ ลดความเสี่ยงโรค ลดตับอักเสบ
ตับเป็นอวัยวะสำคัญอย่างหนึ่งในร่างกายมนุษย์ที่มีบทบาทสำคัญ การใช้ชีวิตที่เร่งรีบในปัจจุบันส่งผลเสียต่อตับในหลาย ๆ ด้าน ซึ่งบ่อยครั้งที่เมื่อตับเกิดความเสียหายขึ้นมาแล้วไม่สามารถย้อนกลับไปแก้ไขได้ ดังนั้นการดูแลและบำรุงตับให้แข็งแรงจึงเป็นการช่วยให้เราลดความเสี่ยงในการเกิดโรคได้
อาหารบางชนิดมีฤทธิ์ในการช่วยป้องกันโรคตับ และยังช่วยส่งเสริมการทำงาน ช่วยบำรุงให้ตับแข็งแรง อาหารช่วยบำรุงตับบางอย่างก็มาในรูปของสมุนไพรที่อยู่ติดครัว เช่น กระเทียม ขมิ้น แต่นอกจากนี้ก็ยังมีอาหารอีกหลายชนิดที่เราควรกินเป็นประจำเพื่อช่วยกระตุ้นการทำงานของตับและลดความเสียหายต่ออวัยวะสำคัญชิ้นนี้ได้ค่ะ
หน้าที่ของตับ
ตับเป็นอวัยวะที่ใหญ่ที่สุดในร่างกาย อวัยวะชนิดนี้ทำหน้าที่หลายอย่าง ตั้งแต่การล้างพิษ ช่วยในการสังเคราะห์โปรตีน เมทาบอลิซึม และผลิตสารเคมีบางประเภทที่จำเป็นสำหรับกระบวนการย่อยอาหาร นอกจากนี้ยังทำหน้าที่ในการช่วยเก็บไกลโคเจนและมีบทบาทในการผลิตน้ำดี การหลั่งฮอร์โมน และการสลายตัวของเซลล์เม็ดเลือดแดง หากเกิดความผิดปกติของตับ ก็อาจส่งผลไปถึงการทำงานของเมตาบอลิซึมทั้งหมดในร่างกายได้
อาการของตับที่อ่อนแอ
หากพบอาการตามรายการด้านล่างนี้ แนะนำให้รีบปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุ เนื่องจากอาการดังกล่าวอาจเป็นอาการเตือนของโรคที่เกี่ยวกับตับหรือโรคอื่น ๆ ได้ :
- ไม่สามารถลดน้ำหนักได้
- ท้องอืดเป็นประจำ
- ปัสสาวะสีเข้ม
- เบื่ออาหาร
- ภูมิคุ้มกันบกพร่อง
- ท้องผูก
- ปวดศีรษะ
- กรดไหลย้อน
- ภาวะซึมเศร้า วิตกกังวล
- เหนื่อยล้าเรื้อรัง
- เหงื่อออกมากเกินไป
- ความดันโลหิตสูง
- ผิวช้ำโดยไม่มีสาเหตุ
- ผิวและตาเหลือง
7 อาหารช่วยบำรุงตับ ลดความเสี่ยงโรค
1. มะนาว
น้ำมะนาวสามารถช่วยบำรุงตับได้ เนื่องจากวิตามินและแร่ธาตุ โดยเฉพาะวิตามินซีในน้ำมะนาวนั้นสามารถช่วยลดอาการบาดเจ็บที่ตับ ซึ่งมีสาเหตุมาจากการดื่มแอลกอฮอล์ และยังช่วยลดระดับของเอนไซม์ตับ ซึ่งอาจเป็นสาเหตุของโรคที่เกี่ยวกับตับได้
2. แครอท
แครอทสามารถลดความเสี่ยงของโรคไขมันพอกตับ และลดความเป็นพิษของตับที่เกิดจากการดื่มแอลกอฮอล์ได้ โดยผลการทดลองของสถาบันโภชนาการแห่งชาติ Jamia Osmania เมืองไฮเดอราบัด ประเทศอินเดีย พบว่าการรับประทานแครอทหรือดื่มน้ำแครอท สามารถช่วยลดระดับไตรกลีเซอไรด์และลดกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวในตับได้
3. ส้มโอ
ส้มโอเป็นแหล่งอาหารที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งสามารถช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันได้ การรับประทานส้มโอเป็นประจำสามารถช่วยลดไขมันในร่างกาย และยังส่งผลไปถึงการช่วยลดเอนไซม์ในตับ ซึ่งช่วยในการล้างพิษในร่างกายได้
4. บีทรูท
บีทรูทมีสารต้านอนุมูลอิสระที่เรียกว่าเบตาเลน ซึ่งมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ มีฤทธิ์ในการต้านการอักเสบ และช่วยลดความเครียดจากปฏิกิริยาออกซิเดชัน การกินอาหารที่มีส่วนผสมของบีทรูทหรือกินน้ำบีทรูท สามารถช่วยลดความเสียหายของดีเอ็นเอและลดการบาดเจ็บของตับที่เกิดจากความเครียดของปฏิกิริยาออกซิเดชันในร่างกาย
5. หน่อไม้ฝรั่ง
หน่อไม้ฝรั่งเป็นแหล่งวิตามินที่สำคัญ ไม่ว่าจะเป็นวิตามินเอ วิตามินซี วิตามินอี วิตามินเค โฟเลต โคลีน และแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย เช่น แคลเซียม แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม และใยอาหาร หน่อไม้ฝรั่งสามารถช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งในตับ และลดความเครียดจากปฏิกิริยาออกซิเดชันได้ด้วย
6. วอลนัท
วอลนัทอุดมไปด้วยไขมันที่มีประโยชน์ต่อร่างกายซึ่งมีคุณสมบัติในการช่วยต้านการอักเสบ สำหรับคนที่มีปัญหาไขมันพอกตับจากการกินอาหารที่ไม่ถูกโภชนาการ การกินวอลนัทสามารถช่วยลดระดับไตรกลีเซอไรด์ในตับ ลดระดับของเอนไซม์ที่เกี่ยวข้องกับสภาวะสมดุลของตับ และยับยั้งยีนที่เกี่ยวข้องกับการอักเสบของตับ
7. มะเขือเทศ
มะเขือเทศสีแดงฉ่ำก็เป็นอาหารที่ดีต่อตับของเราค่ะ มะเขือเทศมีสารต้านอนุมูลอิสระจำนวนมากที่ช่วยลดการอักเสบและการบาดเจ็บของตับ รวมถึงช่วยป้องกันมะเร็งตับได้ด้วย ไม่เพียงแค่การกินมะเขือเทศสด แต่การกินสารสกัดจากมะเขือเทศหรือน้ำมะเขือเทศก็สามารถช่วยลดความเสียหายของตับได้ค่ะ
บทความที่คุณอาจสนใจ
- 5 อาหารลดไขมันเกาะตับ ช่วยล้างสารพิษ ร่างกายสะอาด ลดความเสี่ยงโรค
- 5 เครื่องดื่ม ดีท็อกซ์ตับ ล้างพิษตับ บำรุงตับให้สุขภาพดีขึ้น