6 อาหารช่วยป้องกันโรคต้อกระจก ช่วยบำรุงสายตา ลดปัญหาตาพร่ามัว

     โรคต้อกระจกสามารถเกิดขึ้นได้จากอายุที่มากขึ้นและมาจากปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ เช่น โรคเบาหวานและความดันโลหิตที่ไม่สามารถควบคุมได้ เลนส์ตาของเราจะขุ่นขึ้นเนื่องจากการสะสมของไขมันและโปรตีนบางชนิด เมื่อเวลาผ่านไปการขุ่นมัวที่เลนส์ตานี้จะนำไปสู่ปัญหาสายตาพร่ามัวและการมองเห็น และอาจพัฒนาไปจนถึงขั้นตาบอด แม้ว่าขณะนี้การรักษาโรคต้อกระจกจะต้องทำโดยการผ่าตัดใส่เลนส์แก้วตาเทียม แต่การรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพสายตาก็สามารถช่วยลดความเสี่ยงของโรคต้อกระจกได้ 

โรคต้อกระจกคืออะไร

     ต้อกระจกเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงที่บริเวณเลนส์ตา โดยปกติเลนส์ตาของเราจะมีลักษณะใสแต่เมื่อเกิดโรคต้อกระจก เลนส์ตาจะขุ่นขึ้น ทำให้แสงไม่สามารถเข้าไปในตาได้ตามปกติ และส่งผลให้การมองเห็นไม่ชัดเจน มีอาการตาพร่ามัว โรคต้อกระจกสามารถเกิดได้พร้อมกันในดวงตาทั้ง 2 ข้างของเรา แต่โดยปกติแล้วมักจะไม่เกิดขึ้นพร้อมกัน ผู้สูงอายุมีแนวโน้มที่จะเป็นโรคต้อกระจกได้มาก 

สาเหตุของโรคต้อกระจก

• ได้รับรังสีอัลตราไวโอเลตเข้าตาเป็นเวลานานๆ
• มีโรคเกี่ยวกับตาและโรคประจำตัวบางอย่าง เช่น ม่านตาอักเสบ ตาติดเชื้อ ต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติ เบาหวานและความดันโลหิตสูงที่ควบคุมไม่ได้
• เคยการเกิดอุบัติเหตุที่ดวงตาหรือได้รับการกระทบกระเทือนที่ดวงตาบ่อย ๆ
• เคยผ่าตัดตามาก่อน
• ความผิดปกติแต่กำเนิด
• การใช้ยากลุ่มสเตียรอยด์

อาการของโรคต้อกระจก

• มองเห็นภาพซ้อน
• มองเห็นมัวเหมือนมีฝ้าหรือหมอกบัง
• มองเห็นแสงไฟกระจาย โดยเฉพาะเวลาขณะขับรถในตอนกลางคืน
• เห็นฝ้าขาวบริเวณกลางรูม่านตา ซึ่งจะเกิดขึ้นเมื่อต้อกระจกสุก หากทิ้งไว้อาจเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น โรคต้อหิน และทำให้อักเสบ  

6 อาหารช่วยป้องกันโรคต้อกระจก

1. แครอท

     ใคร ๆ ก็รู้ดีว่าแครอทนั้นดีต่อดวงตาแค่ไหน เพราะแครอทมีเบต้าแคโรทีน ลูทีนและซีแซนทีน ซึ่งร่างกายจะเปลี่ยนสารอาหารเหล่านี้เป็นวิตามินเอ และนำไปบำรุงดวงตา ทำให้สุขภาพดวงตาโดยรวมดีขึ้นและยังช่วยลดปัญหาสายตาให้น้อยลง

2. ผลไม้และผัก

     นอกจากแครอท ผักและผลไม้ที่มีเม็ดสีเหลือง สีแดง และสีส้ม เช่น แคนตาลูป มันเทศ แครอท และฟักทอง ก็ช่วยบำรุงดวงตาได้เช่นกัน เพราะมีสารแคโรทีนอยด์อยู่มาก ผักและผลไม้บางประเภทเราจะรับประทานแบบดิบ แต่เพื่อประโยชน์ต่อสุขภาพดวงตาที่ดี การนำไปปรุงให้สุกก่อนสามารถช่วยเพิ่มสารแคโรทีนอยด์ได้ 

3. ปลา

     กรดไขมันโอเมก้า 3 ที่พบในปลาสามารถลดความเสี่ยงของโรคต้อกระจกได้ เราควรบริโภคปลาอย่างน้อย  2 ครั้งต่อสัปดาห์ โดยปลาที่แนะนำ เช่น ปลาทูน่า ปลาแซลมอน และปลาซาร์ดีน หรือสามารถทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารน้ำมันปลาก็ได้เช่นกัน

4. เมล็ดพืชและถั่ว

     วิตามินอีและสารต้านอนุมูลอิสระที่พบในถั่วและเมล็ดพืช สามารถช่วยปกป้องเยื่อหุ้มเซลล์ตาจากการทำลายของอนุมูลอิสระ ถั่วหลายประเภท เช่น อัลมอนด์ วอลนัท เฮเซลนัท ถั่วลิสง และเมล็ดทานตะวันสามารถช่วยให้สุขภาพตาดีขึ้นได้

5. ธัญพืชไม่ขัดสี

     การบริโภคธัญพืชไม่ขัดสีสามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต้อกระจกได้ รวมถึงยังสามารถช่วยลดความเสี่ยงของการเสื่อมสภาพตามอายุที่มากขึ้นได้อีกด้วย โดยธัญพืชไม่ขัดสีที่เราแนะนำ เช่น คีนัว ข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ตเต็มเมล็ด พาสต้าโฮลเกรน และขนมปังโฮลวีท 

6. ผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว

     วิตามินซีในส้มและผลไม้รสเปรี้ยวอื่น ๆ เช่น ฝรั่ง มะขามป้อม สามารถช่วยรักษาหลอดเลือดให้แข็งแรง และยังมีประโยชน์ในฐานะที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระตามธรรมชาติ วิตามินซียังมีสรรพคุณในการช่วยให้ร่างกายต่อสู้กับโรคตาเสื่อมและโรคตาอักเสบได้อีกด้วย

อ้างอิง

• โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์/ต้อกระจก
• โรงพยาบาลกรุงเทพ/ต้อกระจก สาเหตุ และปัจจัยสำคัญที่ควรระวัง

บทความที่คุณอาจสนใจ

• 5 สารอาหาร ช่วยบำรุงสายตา ป้องกันตาเสื่อม จ้องจอนานๆ ต้องกินให้บ่อย!
• 9 อาหารช่วยบำรุงสายตา เพิ่มการมองเห็นให้ชัดขึ้น ช่วยลดการเกิดโรคต้อกระจก