9 อาหารช่วยบำรุงสายตา เพิ่มการมองเห็นให้ชัดขึ้น ช่วยลดการเกิดโรคต้อกระจก
ดวงตาเป็นอวัยวะที่สำคัญอวัยวะเดียวที่ช่วยให้เรามองเห็นสิ่งต่าง ๆ ดังนั้นการดูแลดวงตาและสายตาจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก สายตาที่แย่ลงอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นกรรมพันธุ์ อายุ และการใช้อุปกรณ์ต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน แต่อาหารบางชนิดที่เราเลือกรับประทานสามารถช่วยลดความเสียหายของดวงตาได้ และนอกจากนี้อาหารบางอย่างยังมีสารอาหารสำคัญที่ช่วยรักษาเรตินาและกระจกตาของเราให้แข็งแรง
แม้ว่าสุขภาพการมองเห็นจะลดลงตามอายุ แต่อย่างไรก็ตามเราก็จำเป็นที่จะต้องรักษาและบำรุงสายตา ซึ่งเราสามารถทำได้ด้วยการรับประทานอาหารที่ช่วยบำรุงสายตาตามธรรมชาติ อาหารเหล่านี้นอกจากจะมีวิตามินและแร่ธาตุที่สำคัญต่อดวงตาแล้ว ยังมีกรดไขมันโอเมก้า 3 และสารอาหารอื่นๆ ที่ช่วยส่งเสริมการมองเห็นได้อีกด้วย
วิธีดูแลดวงตาเพื่อป้องกันปัญหาสายตา
1. ออกกำลังกายดวงตา
การออกกำลังกายดวงตาเป็นการช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อรอบดวงตาได้ โดยให้เราเปลี่ยนโฟกัสสายตาจากจุดเดิม เช่น จากมองใกล้ๆ ก็ให้เปลี่ยนไปมองไกล กลอกตาไปทางซ้ายขวาและขึ้นลง ทำซ้ำ 2 - 3 รอบ
2. หลับตา
การจ้องมองหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือเป็นเวลานาน ๆ สามารถทำให้ดวงตาของเราอ่อนล้าและส่งผลกระทบต่อสายตาของเราในระยะยาวได้ ดังนั้นให้พักสายตาด้วยการหลับตาสัก 2-3 นาทีและทำทุก ๆ 30 นาทีค่ะ
3. ใส่แว่นกันแดด
เราจำเป็นที่จพต้องปกป้องสายตาจากแสงแดดจ้า หากเรากำลังจะออกไปข้างนอกในขณะที่กำลังมีแดดจัด ให้สวมแว่นกันแดดเพื่อป้องกันความเสียหายจากแสงและรังสียูวี
4. ตัดแว่น
นอกจากการตรวจสุขภาพประจำปีที่เราควรทำ การไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจสุขภาพตาก็เป็นเรื่องจำเป็นค่ะ เพราะแพทย์สามารถวิเคราะห์ปัญหาดวงตาที่อาจเกิดขึ้นได้ก่อนที่อาการจะหนัก และหากเป็นปัญหาแค่สายตาสั้นหรือยาวจากอายุที่เปลี่ยนไป เราก็จะได้สั่งตัดแว่นตาที่เหมาะสมสำหรับเราได้ทัน
นอกจากการดูแลดวงตาตามวิธีดังกล่าว อาหารก็มีส่วนช่วยอย่างมากที่ทำให้การดูแลดวงตาของเราทำได้ง่ายขึ้น ซึ่งวันนี้เราก็ได้รวบรวมรายการอาหารที่ควรรับประทานเป็นประจำเพื่อปกป้องและช่วยบำรุงสายตา จะมีอาหารชนิดไหนบ้าง ดูได้ด้านล่างนี้เลย !!
อาหารช่วยบำรุงสายตา
1. ถั่ว
ถั่วเป็นแหล่งของไขมันและวิตามินอีที่ดีต่อสุขภาพ ซึ่งช่วยลดการอักเสบในร่างกาย และที่สำคัญวิตามินอีสามารถช่วยป้องกันการเกิดโรคต้อกระจกที่มักเกิดพร้อมกับอายุที่มากขึ้น นอกจากนี้ถั่วและพืชตระกูลถั่วยังเป็นอาหารสำคัญที่มีทั้งสังกะสีและไบโอฟลาโวนอยด์ สารอาหารเหล่านี้สามารถช่วยปกป้องเรตินาและป้องกันความเสี่ยงของการเกิดโรคต้อกระจกและโรคเกี่ยวกับดวงตาอื่น ๆ ได้
2. หอยนางรม
หอยนางรมอุดมไปด้วยสังกะสีที่ช่วยบำรุงสุขภาพดวงตา นอกจากนี้ในหอยนางรมยังมีกรดไขมันโอเมก้า 3 ในปริมาณสูงซึ่งช่วยป้องกันการเสื่อมสภาพของดวงตาที่มีสาเหตุมาจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น
3. เมล็ดทานตะวัน
เมล็ดทานตะวันนั้นดีต่อสุขภาพโดยรวมเป็นอย่างมาก เพราะเต็มไปด้วยวิตามินอี โปรตีน และไขมันที่ดีต่อสุขภาพ สารอาหารเหล่านี้สามารถช่วยลดการอักเสบ ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเกี่ยวกับดวงตา และยังสามารถช่วยขจัดอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นในร่างกายได้อีกด้วย
4. ผลไม้รสเปรี้ยว
ดวงตาเป็นอวัยวะที่ต้องการสารต้านอนุมูลอิสระอย่างต่อเนื่อง เพื่อล้างสารพิษที่เกิดจากปฏิกิริยาต่าง ๆ ในร่างกาย ผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว อย่างเช่น ส้ม เบอร์รี่ และกีวีนั้นเต็มไปด้วยวิตามินซี ซึ่งเป็นสารที่ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกัน รวมถึงยังเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยขจัดอนุมูลอิสระที่เป็นอันตราย สามารถช่วยปกป้องกล้ามเนื้อตาของเราไม่ให้เกิดความเสียหาย อีกทั้งวิตามินซียังช่วยบำรุงสุขภาพของหลอดเลือดในดวงตาด้วย
5. มันเทศ
มันเทศทั้งแบบที่เป็นเนื้อสีส้ม สีเหลืองหรือมันเทศสีม่วง ก็สามารถช่วยปรับปรุงการมองเห็นให้ดีขึ้นได้ เนื่องจากเม็ดสีในมันเทศนั้นมาจากสารซีแซนทีนและลูทีน ซึ่งเป็นสารที่มีประโยชน์ต่อดวงตา นอกจากนี้มันเทศยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดการอักเสบและล้างสารพิษได้อีกด้วย
6. แครอท
แครอทเป็นผักที่มีประโยชน์อย่างมาก แครอทเต็มไปด้วยเบต้าแคโรทีน สารต้านอนุมูลอิสระและสารตั้งต้นของวิตามินเอ การบริโภคแครอทช่วยเพิ่มการมองเห็นในเวลากลางคืนและสามารถป้องกันการเสื่อมสภาพของสายตา นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันความเสียหายจากปฏิกิริยาออกซิเดชันและการอักเสบ ซึ่งเป็น 2 สาเหตุหลักของปัญหาสายตา อย่างไรก็ตามการกินแครอทที่มากเกินไปก็อาจไม่ส่งผลดี เพราะวิตามินเออาจเป็นพิษได้หากรับประทานในปริมาณมากเกิน
7. ปลา
ปลาที่มีไขมันสูงมักเป็นแหล่งที่อุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 และโอเมก้า 6 ซึ่งสามารถช่วยลดการอักเสบ เมื่อร่างกายมีระดับการอักเสบต่ำ การทำงานของระบบต่าง ๆ และสมองก็จะดีขึ้น ซึ่งจะทำให้ภูมิคุ้มกันแข็งแรงขึ้นตามได้วย นอกจากนี้ บริเวณใกล้เรตินายังเต็มไปด้วย DHA ซึ่งเป็นกรดไขมันโอเมก้า 3 ดังนั้นการบริโภคปลา เช่น ปลาแซลมอน ทูน่า และปลาแมคเคอเรล จึงมีประโยชน์อย่างมากต่อสุขภาพดวงตาของเรา และนอกจากการรับประทานเนื้อปลา เราก็สามารถรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารน้ำมันปลาได้ด้วย สำหรับใครที่อยากรับประทานอาหารเสริม เราแนะนำให้พูดคุยกับแพทย์ก่อนที่จะซื้อค่ะ
8. ผักปวยเล้ง
ผักปวยเล้งอุดมไปด้วยวิตามินอี วิตามินเอ วิตามินบี และวิตามินซี รวมถึงยังมีแร่ธาตุ เช่น ธาตุเหล็กและสังกะสี รวมถึงสารอาหารจากพืช เช่น ลูทีน ซีแซนทีน และแคโรทีนอยด์ โดยเฉพาะลูทีนและซีแซนทีน ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยต้านอนุมูลอิสระและต้านการอักเสบ การบริโภคผักปวยเล้งในปริมาณที่เพียงพอทุกวันสามารถช่วยป้องกันความเสื่อมของเม็ดสีและต้อกระจกได้ และเนื่องจากมีสังกะสี ผักปวยเล้งจึงสามารถช่วยให้กระจกตาแข็งแรงได้ด้วยค่ะ
9. ไข่
ไข่เต็มไปด้วยกรดอะมิโนที่จำเป็น รวมถึงยังมีวิตามินที่ละลายในน้ำและละลายในไขมัน ไข่แดงแม้ว่าจะมีโคเลสเตอรอลสูง แต่ก็เป็นแหล่งที่ดีของลูทีนและซีแซนทีน การกินไข่เป็นประขำทุกวัน วันละ 1 - 2 ฟอง สามารถช่วยให้ดวงตาของเราแข็งแรงได้ หากกลัวว่าจะเป็นการเพิ่มคอเลสเตอรอลและไขมันในร่างกาย เราก็แนะนำให้รับประทานเป็นไข่ต้ม ลวก หรือตุ๋น หรือจะนำไข่ไปใส่ในอาหารอื่น ๆ เพื่อเพิ่มรสชาติก็ได้ค่ะ
บทความที่คุณอาจสนใจ
- 6 เครื่องดื่มที่ช่วยบำรุงสายตา มีวิตามินบำรุงสายตา ลดตาเสื่อม ต้อกระจก
- 5 สารอาหาร ช่วยบำรุงสายตา ป้องกันตาเสื่อม จ้องจอนานๆ ต้องกินให้บ่อย!