รีเซต

5 เทคนิคป้องกัน กลั้นปัสสาวะไม่อยู่ ... เรื่องใหญ่ไม่ควรมองข้าม

5 เทคนิคป้องกัน กลั้นปัสสาวะไม่อยู่ ... เรื่องใหญ่ไม่ควรมองข้าม
Beau_Monde
7 ธันวาคม 2563 ( 08:05 )
1.7K

     หลายคนอาจจะมีความเข้าใจว่า ปัญหาสุขภาพอย่างเรื่องกลั้นปัสสาวะไม่ได้เป็นเพียงปัญหาเฉพาะผู้สูงอายุหรือผู้ป่วยเท่านั้น จริงๆ แล้วผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน  โรคความดันโลหิตสูง โรคทางสมอง โรคซึมเศร้า ก็อาจทำให้เกิดภาวะ “กลั้นปัสสาวะไม่อยู่” ได้ด้วยเหมือนกัน

 

 

ปัจจัยเสี่ยงสู่ภาวะกลั้นปัสสาวะไม่ได้

     ผู้ที่มีความเสี่ยงจากภาวะเช่นนี้ สังเกตอาการเริ่มต้นได้ง่ายๆ คือ ปัสสาวะบ่อยมากกว่า 8 ครั้งต่อวัน แถมยังมีอาการปัสสาวะเล็ด เมื่อไอ จาม หัวเราะ หรือทำกิจกรรมที่ต้องเคลื่อนไหว ปวดปัสสาวะเมื่อไหร่ต้องเข้าห้องน้ำทันที และมีอาการเหมือนปัสสาวะไม่สุดอยู่เสมอจนถึงอาการหนักคือ กลั้นไม่ได้เลย ราดทันทีเมื่อปวดปัสสาวะ เรามาดูกันว่าปัจจัยเสี่ยงสู่ภาวะกลั้นปัสสาวะไม่ได้ มีอะไรบ้าง

  • อายุที่มากขึ้น ผู้ที่อายุ 60 ปีขึ้นไป พบว่ามีภาวะกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ถึง 15-35%
  • โรคอ้วน น้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น ทำให้เกิดแรงบีบต่อกระเพาะปัสสาวะมากขึ้น
  • การคลอดบุตรด้วยวิธีธรรมชาติ / การผ่าตัด เช่น การผ่าตัดมดลูก, การผ่าตัดต่อมลูกหมาก
  • โรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคพาร์กินสัน ภาวะสมองเสื่อม

 

เทคนิคป้องกัน “กลั้นปัสสาวะไม่ได้”

     อย่างไรก็ตามถึงแม้ภาวะดังกล่าวจะสร้างความกังวลใจและสร้างปัญหาในการใช้ชีวิตประจำวัน แต่เราสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อป้องกันการเกิดภาวะกลั้นปัสสาวะไม่ได้โดยการบริหารกล้ามเนื้อหูรูดให้แข็งแรง ซึ่งมีวิธีง่ายๆ ดังนี้

 

1. ฝึกขมิบกล้ามเนื้อหูรูด

     ขมิบทำเหมือนกำลังกลั้นปัสสาวะ โดยขมิบครั้งละประมาณ 5 วินาที แล้วหยุด10 วินาที ทำซ้ำแบบนี้ 10 ครั้ง เริ่มต้นอาจจะทำวันละ3 เวลาในตอนเช้า กลางวัน และเย็น ทุกวัน แล้วค่อยๆ เพิ่มจำนวนให้ถี่ขึ้น

 

2. ฝึกควบคุมการขับถ่าย

     พยายามกลั้นปัสสาวะให้นานขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย ก่อนที่จะไปปัสสาวะ ให้ยืดระยะเวลาระหว่างการเข้าห้องน้ำแต่ละครั้ง ให้นานขึ้น แต่ไม่ควรกลั้นนานเกินไป

 

3. ทานอาหารที่มีกากใย 

     เพื่อป้องกันอาการท้องผูก ลดความดันในช่องท้อง

 

4. ไม่ควรเบ่งปัสสาวะอย่างรุนแรง

     และปัสสาวะให้หมด หลีกเลี่ยง ชา กาแฟ เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ น้ำอัดลม หรือเครื่องดื่มที่กระตุ้นให้ปัสสาวะบ่อย และงดสูบบุหรี่ ไม่ดื่มน้ำมากเกินไป เพราะอาจทำให้ไตทำงานหนัก และเป็นสาเหตุทำให้เกิดอาการปัสสาวะเล็ด

5. ควบคุมน้ำหนักให้เหมาะสม

     อย่าปล่อยให้น้ำหนักมากจนเกินไป เพื่อลดแรงบีบต่อกระเพาะปัสสาวะของหน้าท้อง

 

     จะเห็นว่าอาการกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ สามารถส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน และอาจส่งผลให้สูญเสียโอกาสบางอย่างในชีวิต เช่น ไม่สามารถเดินทางไปสถานที่ไกลๆได้ เพราะมีข้อจำกัดด้านห้องน้ำ อาจนอนหลับไม่สนิทเพราะกังวลเรื่องการปัสสาวะ และอาจส่งผลให้กลายเป็นคนไม่ชอบออกไปข้างนอก และไม่กล้าเข้าสังคมไปในที่สุด

     อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันนี้ มีผลิตภัณฑ์ที่เป็นตัวช่วยสำหรับผู้ที่กำลังเผชิญกับความกังวลเรื่องปัสสาวะต่างๆ รวมถึงปัญหาการกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ นั่นก็คือ กางเกงซึมซับ ที่ช่วยให้คุณได้กลับมาใช้ชีวิตอย่างมีความสุขเหมือนเดิม โดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาปัสสาวะอีกต่อไป

 

ยอดนิยมในตอนนี้

สิทธิประโยชน์แนะนำ

แท็กยอดนิยม

บทความที่เกี่ยวข้อง