รีเซต

3 วิธีกำจัดไขมันในช่องท้อง แก้ท้องป่อง พุงแข็ง สำหรับคนผอมแต่มีพุง

3 วิธีกำจัดไขมันในช่องท้อง แก้ท้องป่อง พุงแข็ง สำหรับคนผอมแต่มีพุง
Beau_Monde
4 มีนาคม 2562 ( 09:05 )
44K
20

     จากที่เคยได้ยินเรื่องไขมันกันมามากว่าไขมันนั้นไม่ดีกับร่างกาย แต่สาวๆ รู้หรือไม่คะว่าไขมันที่อยู่ในตัวเรามีหลายประเภท บางประเภทก็ส่งผลดีกับร่างกาย แต่บางประเภทก็ไม่ใช่แบบนั้น โรคที่เกี่ยวกับไขมันในร่างกายที่เราได้ยินอยู่บ่อยๆ เช่น โรคไขมันอุดตันในเส้นเลือด หรือ ภาวะไขมันในช่องท้อง (Visceral Fat) ซึ่งไขมันชนิดนี้เปรียบเสมือนระเบิดเวลา หากเรามีไขมันชนิดนี้มาก จะทำให้ร่างกายเกิดโรคที่ถึงแก่ชีวิตได้เลยทีเดียวค่ะ ซึ่งเจ้าไขมันชนิดนี้แม้แต่คนที่ผอมๆ น้ำหนักไม่เกินเกณฑ์มาตรฐานก็สามารถเกิดภาวะไขมันในช่องท้องได้เช่นเดียวกัน


credit: Mahidol Channel มหิดล แชนแนล

     ชื่อก็บอกอยู่แล้ว่า ไขมันในช่องท้อง นั่นหมายความว่าเจ้าไขมันชนิดนี้อาศัยอยู่ในช่องท้องของเราป็นหลักค่ะ มันจะอาศัยอยู่ลึกลงไปในท้องของเรา คอยห่อหุ้มอวัยวะภายใน ไขมันชนิดนี้จะค่อนข้างแข็งซึ่งเป็นสาเหตุให้พุงของเราแข็ง เหมือนกับว่าเรากินลูกบอลลงไปยังไงยังงั้นเลยล่ะค่ะ นานเข้าก็จะสะสมจนทำให้หน้าท้องของเราป่อง ยื่นออกมานั่นเองค่ะ ซึ่งวิธีที่จะกำจัดเจ้าไขมันช่องท้องให้ออกไปได้ มี 3 วิธีดังนี้ค่ะ

1. เน้นการออกกำลังบริเวณหน้าท้อง
     เนื่องจากการมีไขมันในช่องท้องมาก บวกกับชั้นกล้ามเนื้อหน้าท้องที่ไม่แข็งแรง ทำให้ไขมันที่สะสมอยู่นั้นดันกล้ามเนื้อหน้าท้องให้หย่อนคล้อยลงและเป็นเหตุให้เราพุงยื่นค่ะ เมื่อรู้แบบนี้แล้วการออกกำลังโดยมุ่งเน้นไปที่การสร้างกล้ามเนื้อบริเวณหน้าท้องให้แข็งแรงก็จะช่วยลดพุงให้แบนลงมาได้ รวมถึงเมื่อเรามีกล้ามเนื้อในร่างกายที่เพิ่มขึ้นและแข็งแรงขึ้น ยังเป็นการช่วยเผาผลาญไขมันไปในตัวได้ด้วย เนื่องจากกล้ามเนื้อนั้นจะนำพลังงานจากการเผาผลาญไขมันมาใช้ค่ะ

2. ออกกำลังแบบคาร์ดิโอช่วยได้
     การออกกำลังแบบคาร์ดิโอคือการออกกำลังที่เน้นการเผาผลาญไขมันในร่างกายมาใช้เป็นพลังงานต่างๆ ค่ะ เนื่องจากไขมันในช่องท้องตัวนี้ เกิดจากสาเหตุที่ร่างกายของเราไม่ได้ใช้พลังงานให้หมดไป กล่าวง่ายๆ ก็คือ ไม่ยอมขยับเขยื้อนร่างกาย ไม่ออกกำลังกายนั่นเอง ยิ่งในบางคนที่เป็นประเภทกินแล้วนั่งหรือนอนเฉยๆ ยิ่งทำให้มีไขมันในช่องท้องได้ค่อนข้างมาก ซึ่งยิ่งมีไขมันสะสมมากๆ เข้าก็ยิ่งอันตราย นอกจากนี้ไขมันชนิดนี้ยังเผาผลาญได้ยากว่าไขมันในบริเวณอื่นอีกด้วยค่ะ ซึ่งหากเรายังไม่รีบสลายไขมันที่สะสมค้างไว้ เจ้าไขมันกลุ่มนี้ก็จะมีโอกาสอย่างมากที่จะไปขัดขวางทางเดินของเลือดไม่ให้ไปหล่อเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ในร่างกายของเรา ส่งผลให้เราเป็นโรคต่างๆ ตามมา ซึ่งแต่ละโรคที่มีโอกาสเป็นนั้นก็ค่อนข้างอันตรายทีเดียว เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน หรือแม้กระทั่งโรคหัวใจค่ะ

3. ควบคุมอาหารคู่ไปกับการออกกำลังกาย
     การควบคุมอาหารในที่นี้ไม่ได้ทำเพื่อลดความอ้วนนะคะ แต่เป็นการควบคุมเพื่อจำกัดไม่ให้เราได้รับพลังงานมากจนเกินกว่าที่ร่างกายต้องการและเป็นการเน้นให้ร่างกายนำพลังงานจากไขมันช่องท้องมาใช้ โดยควรหยุดกินอาหารฟาสฟู้ด ไส้กรอก แฮม เบคอน อาหารแปรรูปต่างๆ หรือหากยังหยุดไม่ได้ก็ควรกินให้น้อยลงก็ยังดีค่ะ จากนั้นหันมากินอาหารที่ไม่แปรรูป เช่น ผักสด เนื้อสัตว์ เนื้อปลา ข้าวกล้อง คู่ไปกับการออกกำลังกายที่เรากล่าวมาข้างต้น ก็จะช่วยกำจัดไขมันช่องท้องให้หมดไปได้เร็วขึ้นกว่าการมุ่งออกกำลังหรือมุ่งควบคุมอาหารเพียงอย่างใดอย่างหนึ่งค่ะ
 
     อย่างที่เห็นแล้วว่า ไขมันในช่องท้อง (Visceral Fat) เกิดจากการที่เราไม่ได้ออกกำลังกายเป็นหลักค่ะ ซึ่งวิธีที่จะทำให้ไขมันในช่องท้องหายไปนั่นก็คือการออกกำลังนั่นเอง เพราะไขมันในช่องท้องนั่นถูกสะสมเพราะการใช้ชีวิตของเราที่อยู่นิ่งๆ เป็นเวลานาน ซึ่งข้อนี้ต่อให้คุณจะมีรูปร่างผอมเพรียว ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีไขมันในช่องท้องแต่อย่างใด เพราะในปัจจุบันเราก็ยังสามารถพบเจอคนผอมที่เป็นโรคเบาหวาน โรคความดันสูงหรือแม้กระทั่งโรคหัวใจได้ ซึ่งส่วนหนึ่งของการเกิดโรคเหล่านี้ก็มีสาเหตุจากไขมันในช่องท้องนี้แหล่ะค่ะ

บทความที่คุณอาจสนใจ

ไม่อ่านถือว่าพลาด! 9 วิธีดีๆ ลดเซลลูไลท์อย่างได้ผล หุ่นดี สวยแซ่บ ไร้ผิวเปลือกส้ม!
10 วิธี ดีท็อกซ์ ลดพุงป่อง แบบไม่ต้องอดอาหาร ทำแล้วดี ขับถ่ายคล่อง!

ติดตาม women.trueid.net ได้ที่

 

 

ยอดนิยมในตอนนี้

สิทธิประโยชน์แนะนำ

แท็กยอดนิยม

บทความที่เกี่ยวข้อง