รีเซต

15 เทคนิค ลดน้ำหนักเร่งด่วน ใน 2 อาทิตย์ ไม่อันตราย ไม่โยโย่!

15 เทคนิค ลดน้ำหนักเร่งด่วน ใน 2 อาทิตย์ ไม่อันตราย ไม่โยโย่!
Faii_Natnista
19 มกราคม 2567 ( 14:00 )
3.3M
135

     อยาก ลดน้ำหนักเร่งด่วน อยากผอมในเวลาไม่กี่วัน ใครว่าทำไม่ได้ ทำได้ค่ะสาวๆ แต่จะต้องทำอย่างถูกวิธี เพราะ การลดน้ำหนักอย่างถูกวิธี จะทำให้น้ำหนักเราไม่โยโย่ และไม่เสียสุขภาพค่ะ และวันนี้เราก็มีเทคนิค ลดน้ำหนักเร่งด่วน ใน 14 วัน ลดน้ำหนักได้เร็ว ลดได้ภายใน 2 อาทิตย์มาฝากกันค่าา เป็นวิธีที่รับรองเลยว่า ไม่อันตราย และไม่ทำให้ระบบเผาผลาญพังแน่นอนค่า

 

 

 

1. เปลี่ยนพฤติกรรมการกินอาหารเช้า

     อาหารเช้าสำคัญก็จริง แต่ถ้าอยากลดน้ำหนักใช่ว่าเราจะกินอะไรก็ได้ค่ะ แนะนำว่าให้กินธัญพืช 1 ถ้วยคู่กับนมอัลมอนด์ หรือโยเกิร์ตกับผลไม้ประเภทเบอร์รี่ แทนที่จะเลือกกินข้าวเหนียวหมูปิ้งหรืออาหารไขมันสูง เพราะจะช่วยให้ย่อยง่ายขึ้น

 

 

2. มื้อกลางวันให้เน้นอาหารโปรตีนสูง

     สำหรับมื้อกลางวันแนะนำให้กินอาหารที่แคลอรีต่ำ แต่ให้โปรตีนสูงเป็นหลักค่ะ เช่น อกไก่ อาจจะกินคู่กับแตงกวาและมะเขือเทศ หรือจะเพิ่มไข่ต้ม 2 ฟอง และแครอทต้มอีกสักนิดก็ได้เช่นกัน อกไก่เป็นอาหารที่ไขมันน้อย แถมแคลอรีต่ำ อีกทั้งยังย่อยง่ายอีกด้วย ซึ่งเหมาะกับคนที่ต้องการลดน้ำหนักแบบสุดๆ 

 

 

     สำหรับใครที่ไม่มีเวลาเตรียมมื้ออาหาร แต่ก็ยังอยากลดน้ำหนัก จะเลือกกินผลิตภัณฑ์ทดแทนมื้ออาหารที่ให้สารอาหารที่เหมาะสมอย่างบอดี้คีย์ ก็อิ่มอร่อย แถมยังช่วยควบคุมน้ำหนักได้ด้วย! ที่สำคัญยังอร่อยได้ไม่ซ้ำค่ะ เพราะเค้ามีด้วยกันถึง 5 รสชาติ ทั้งกาแฟ โกโก้ มิลค์ที บานาน่า และใหม่ล่าสุด รสเบอร์รี! เพียงฉีกบอดี้คีย์ 1 ซอง เชคกับน้ำ ก็ดื่มแทนมื้ออาหารได้เลยค่ะ

 

 

3. กินของว่าง 2 มื้อต่อวัน

     การกินของว่างระหว่างวันจะช่วยให้ระบบย่อยอาหารได้ทำงานอย่างเต็มที่ค่ะ แต่ของว่างที่ว่านี่ไม่ใช่ขนมขบเคี้ยวที่แคลอรีสูงนะคะสาวๆ ควรเน้นกินเป็นผลไม้ เช่น เบอร์รี่ทั้งหลาย หรือถ้าอยากหวาน อยากกินขนม ควรเลือกเป็นเจลาตินที่เป็นแบบ Sugar-Free, ธัญพืชอบกรอบ หรืออัลมอนด์ แทนค่ะ เพราะช่วยให้อิ่มอยู่ท้อง แถมไม่อ้วนด้วย!

 

 

4. กินอาหารเย็นที่มีแคลอรีต่ำ

     อาหารเย็นถือเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้อ้วนได้ง่ายๆ เลยค่ะ เพราะฉะนั้นควรเลือกกินอาหารเย็นที่มีแคลอรีต่ำ โดยปริมาณแคลอรีของอาหารมื้อเย็นควรน้อยที่สุดรองจากมื้อเช้า และมื้อกลางวัน คิดง่ายๆ คือ มื้อเช้าควรจะได้รับพลังงานประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์ (ประมาณ 700 กิโลแคลอรี) มื้อเที่ยง 35 เปอร์เซ็นต์ (ประมาณ 600 กิโลแคลอรี) และมื้อเย็น 25 เปอร์เซ็นต์ (ประมาณ 500 หรือ 400 กิโลแคลอรี) และที่สำคัญควรกินมื้อเย็นก่อนเข้านอน 4-6 ชั่วโมงนะคะ

 

 

 

5. ลดการกินโซเดียมให้น้อยลง

     แม้ว่าเกลือและน้ำปลา หรือเครื่องปรุงทั้งหลายจะทำให้รสชาติอาหารอร่อยขึ้น แต่การกินโซเดียมมากเกินไป จะทำให้เราตัวบวมได้ง่ายๆ ! ฉะนั้นอาหารที่เราปรุงเองควรลดเกลือหรือโซเดียมให้น้อยลงค่ะ 

 

 

6. ลดการกินน้ำตาล

     เหล่าเครื่องดื่มทั้งหลายที่มีน้ำตาล ไม่ว่าะเป็นน้ำอัดลม ชานมไข่มุก หรือกาแฟ/ชาใส่น้ำตาล หรือแม้กระทั่งสารแทนความหวานต่างๆ ควรกินให้น้อยลงค่ะ เพราะน้ำตาลคือคาร์โบไฮเดรตชนิดหนึ่ง ซึ่งจะถูกแปรเปลี่ยนไปเป็นไขมันสะสมในที่สุด น้ำตาลจึงเป็นอีกหนึ่งสาเหตุของความอ้วนที่เห็นผลชัดมากๆ !

 

 

7. เพิ่มผักในทุกมื้อ

     การมีระบบย่อยอาหาร การขับถ่ายที่ดี จะช่วยให้การลดน้ำหนักได้ผลเร็วมากขึ้นค่ะ ซึ่งการเพิ่มผักใบเขียวหรือไฟเบอร์เข้าไปในทุกมื้ออาหารจะช่วยให้ระบบย่อยอาหารของเราดีขึ้น ทั้งยังช่วยให้ระบบการขับถ่ายทำงานได้เป็นระบบมากขึ้นด้วย ถ้าระบบย่อยดีขับถ่ายคล่อง รับรองว่าพุงแบนๆ อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมค่า

 

 

8. กินอาหารที่มีเส้นใยให้มากขึ้น

     นอกจากอาหารโปรตีนสูงจะช่วยให้เราลดน้ำหนักได้เร็ว และช่วยให้ร่างกายเผาผลาญได้ดีขึ้นแล้ว การกินอาหารที่มีเส้นใยจากธรรมชาติอย่างผักและผลไม้ ก็สามารถช่วยให้เราได้รับทั้งพลังงานและสารอาหารที่จำเป็น และยังช่วยให้เราอิ่มท้องได้นานมากยิ่งขึ้นด้วย นอกจากนี้การกินผลไม้ทดแทนการกินขนมหวานๆ หรือขนมขบเคี้ยว ก็ช่วยลดปริมาณแคลอรี่ไปได้เยอะเลยทีเดียวค่ะ แต่อย่าลืมเลือกกินผลไม้ที่มีน้ำตาลต่ำเป็นหลักนะคะ

 

 

9. เลือกกินคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน

     แม้จะรีบเร่งลดน้ำหนักขนาดไหน แต่ร่างกายก็ต้องการสารอาหารที่ครบถ้วน ซึ่งคาร์โบไฮเดรตก็เป็นสารอาหารที่ให้พลังงานและจำเป็นต่อร่างกายค่ะ แนะนำให้เลือกรับกินคาร์โบไฮเดรตที่เป็นแบบเชิงซ้อน เช่น ข้าวกล้อง ข้าวซ้อมมือ ขนมปังโฮลวีทบ้าง เพื่อเพิ่มพลังงาน ซึ่งคาร์บเชิงซ้อนจะช่วยให้ระดับน้ำตาลในร่างกายไม่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและทำให้รู้สึกอิ่มได้นาน ช่วยลดความอยากอาหารได้

 

 

10. ทำ IF ควบคู่ไปด้วย

     หากอยากลดน้ำหนักเร่งด่วน การทำ IF หรือ Intermittent Fasting ควบคู่ไปกับการคุมอาหาร การเลือกกินอาหาร ตามที่เรากล่าวมาข้างต้นก็จะช่วยให้การลดน้ำหนักเห็นผลเร็วขึ้น โดยแนะนำการทำ Intermittent Fasting แบบ 16/8 เพราะทั้งทำได้ง่าย ไม่เหนื่อยเกินไป และสามารถทำได้ในชีวิตประจำวันปกติได้เลยค่ะ

 

 

11. กระโดดเชือกทุกวันวันละ 20 นาที

    กระโดดเชือก เป็นวิธีออกกำลังกายที่ลดน้ำหนักได้ดีสุดๆ ค่ะ เพราะการกระโดดเชือกเพียง 15 นาที เทียบเท่ากับการวิ่งออกกำลังกาย 30 นาทีเลยล่ะ! โดยการกระโดดเชือกในแต่ละวัน แนะนำให้กระโดดครั้งละ 10 นาที วันละ 2 ครั้ง

 

 

12. คาร์ดิโอวันละ 20 นาที

     นอกจากการกระโดดเชือกแล้ว การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโออื่นๆ ยังช่วยเผาผลาญได้ดีเช่นกันค่ะ ไม่ว่าจะเป็นการวิ่งบนลู่วิ่ง หรือวิ่งบนถนน ทั้งนี้แนะนำให้วิ่งวันละ 20 นาทีค่ะ โดยการวิ่งจะช่วยเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจ ทำให้ระบบไหลเวียนเลือดมีการสูฉีด ร่างกายเกิดการเผาผลาญ เปลี่ยนน้ำตาลไปเป็นไขมัน และช่วยลดการสะสมไขมันในส่วนอื่นได้เป็นอย่างดี!

 

 

13. ดื่มน้ำมะนาวทุกเช้า

     นอกจากอาหารแล้ว น้ำก็เป็นเรื่องสำคัญที่ทำให้การลดน้ำหนักมีประสิทธิภาพมากขึ้นค่ะ โดยแนะนำว่า ให้ดื่มน้ำอุ่นโดยใส่มะนาวฝานลงไปด้วยในตอนเช้าของทุกวัน การดื่มน้ำมะนาวแบบนี้ทุกเช้า จะช่วยดีท็อกซ์และเผาผลาญไขมันได้ดีขึ้น!

 

 

14. หันมาฝึกโยคะเป็นประจำ

     โยคะไม่เพียงช่วยคลายกล้ามเนื้อ คลายอาการปวดเมื่อยเท่านั้นค่ะสาวๆ แต่โยคะยังช่วยกระชับกล้ามเนื้อไม่ว่าจะเป็นหน้าท้อง ต้นขา หรือแขนได้ดีอีกด้วย แถมโยคะบางท่ายังสามารถช่วยกระตุ้นระบบขับถ่าย ทำให้เราขับถ่ายได้เป็นปกติขึ้นอีกด้วยล่ะค่า

 

 

15. นอนให้ครบ 8 ชั่วโมง

     เป็นวิธีง่ายๆ แต่ได้ผลจริงๆ ค่ะ เพราะการอดนอนจะทำให้ฮอร์โมนในร่างกายเกิดการเปลี่ยนแปลง ซึ่งนั่นส่งผลให้เราอ้วนขึ้นได้! โดยการนอนอย่างน้อย 8 ชั่วโมงต่อวันจะช่วยควบคุมระดับน้ำตาลและควบคุมการสะสมไขมัน ส่งผลให้การลดน้ำหนักมีประสิทธิภาพมากขึ้นนั่นเอง!

 

 

บทความที่คุณอาจสนใจ

 

บทความที่เกี่ยวข้อง