รวม วิธีแก้เสียวฟัน เคล็ดลับยอดฮิตดูแลสุขภาพฟัน เสียวฟัน แก้ยังไง มาดู!

เรื่องเสียวฟันไม่ต้องทน วันนี้เรารวม วิธีแก้เสียวฟัน มาฝากทุกคนกันค่ะ รวบรวมหลากหลายวิธีแก้อาการเสียวฟันที่มีประสิทธิภาพ ทั้งจากที่บ้านและทางทันตกรรม ให้คุณกลับมาอร่อยกับทุกเมนูได้อย่างสบายใจ!
เคยไหม? แค่จิบน้ำเย็นจัด ไอศกรีมหวานฉ่ำ หรือแม้แต่ลมหายใจที่ผ่านเข้ามา ก็ทำให้เกิดอาการจี๊ดขึ้นมาอย่างรวดเร็วที่ฟัน นั่นแหละค่ะ คือ "อาการเสียวฟัน" ปัญหาที่หลายคนมองข้าม แต่สร้างความทรมานและลดคุณภาพชีวิตในการรับประทานอาหารได้อย่างมาก ถ้าพร้อมแล้วจะพาทุกคนไปทำความเข้าใจถึงสาเหตุของอาการเสียวฟันกันค่ะ
เสียวฟัน คืออะไร? และทำไมเราถึงเสียวฟัน?
อาการเสียวฟัน เกิดขึ้นเมื่อเนื้อฟันส่วนที่เป็นชั้นอ่อนนุ่ม ซึ่งมีท่อขนาดเล็กจำนวนมากที่เชื่อมต่อไปยังโพรงประสาทฟัน เกิดการเผยตัวขึ้น ทำให้สิ่งกระตุ้นภายนอก เช่น อุณหภูมิ ร้อนหรือเย็น , ความหวาน, ความเปรี้ยว หรือแม้แต่การสัมผัส ไปกระตุ้นเส้นประสาทในโพรงฟันโดยตรง และส่งสัญญาณความเจ็บปวดออกมาอย่างรวดเร็ว
สาเหตุของอาการเสียวฟัน
เหงือกร่น : สาเหตุของอาการเสียวฟันเป็นจำนวนมาก แต่เหงือกร่นเป็นสาเหตุอันดับต้นๆ เมื่อเหงือกร่นลง รากฟันที่ไม่มีเคลือบฟันหุ้มก็จะเผยตัวออก ทำให้เกิดอาการเสียวฟันได้ง่าย
ฟันสึก : การแปรงฟันที่รุนแรงเกินไป การบดเคี้ยวอาหารที่แข็งมาก หรือภาวะฟันกัดกร่อนจากกรด อาจทำให้เคลือบฟันสึกกร่อนลง
ฟันผุ : เมื่อฟันผุเป็นรูลึกถึงชั้นเนื้อฟัน อาการเสียวฟันก็จะตามมา
ฟันร้าว/ฟันแตก : รอยร้าวเล็กๆ ที่มองไม่เห็นก็สามารถทำให้เกิดอาการเสียวฟันได้
การอักเสบในช่องปาก : เช่น เหงือกอักเสบ หรือโรคปริทันต์
การรักษาทางทันตกรรมบางชนิด เช่น หลังการขูดหินปูน อุดฟัน หรือฟอกสีฟัน อาจมีอาการเสียวฟันชั่วคราวได้
การใช้ยาสีฟันที่มีสารขัดฟันสูง : อาจทำให้เคลือบฟันบางลงเมื่อใช้เป็นเวลานาน
รวม วิธีแก้อาการเสียวฟัน ที่มีประสิทธิภาพ
เมื่อเราทราบสาเหตุแล้ว มาดูวิธีการแก้ไขและบรรเทาอาการเสียวฟันกันบ้าง ซึ่งมีตั้งแต่การดูแลตัวเองที่บ้าน ไปจนถึงการรักษาโดยทันตแพทย์กันค่ะ
1. การดูแลตนเองที่บ้าน - จุดเริ่มต้นของการแก้ปัญหา
เลือกใช้ยาสีฟันลดอาการเสียวฟัน เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมสูง ยาสีฟันเหล่านี้มีส่วนผสมของ โปแตสเซียมไนเตรต หรือ สตรอนเชียมคลอไรด์ ที่ช่วยปิดกั้นท่อเนื้อฟันที่เผยตัว หรือช่วยทำให้เส้นประสาทในโพรงฟันชาลง ควรใช้อย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกวันอย่างน้อย 2-4 สัปดาห์จึงจะเห็นผล
แปรงฟันอย่างถูกวิธี เลือกใช้แปรงสีฟันขนนุ่ม และแปรงฟันเบาๆ ในแนวเอียง 45 องศาไปทางเหงือก ไม่ควรแปรงแบบถูไปมาแรงๆ เพราะจะยิ่งทำให้เหงือกร่นและฟันสึก
หลีกเลี่ยงอาหารและเครื่องดื่มที่เป็นกรด เช่น น้ำอัดลม น้ำผลไม้รสเปรี้ยวจัด เพราะกรดจะกัดกร่อนเคลือบฟัน ทำให้ฟันบางลง
ลดการทานอาหารร้อนจัด เย็นจัด หรือหวานจัด หลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นชั่วคราวเพื่อลดอาการ
ใช้ไหมขัดฟันเป็นประจำ จะช่วยกำจัดเศษอาหารและคราบจุลินทรีย์ที่อาจเป็นสาเหตุของฟันผุและเหงือกอักเสบ
2. การรักษาโดยทันตแพทย์ - ทางออกสำหรับปัญหาเรื้อรัง
หากลองวิธีดูแลตัวเองแล้วอาการไม่ดีขึ้น หรือมีอาการเสียวฟันที่รุนแรง ควรปรึกษาทันตแพทย์ เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาอย่างเหมาะสม
การเคลือบฟลูออไรด์ : ทันตแพทย์จะทาฟลูออไรด์เข้มข้นลงบนฟัน เพื่อช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของเคลือบฟัน และลดอาการเสียวฟัน
การใช้วัสดุอุดฟัน : หากสาเหตุเกิดจากฟันผุ ฟันสึก หรือฟันแตก ทันตแพทย์จะทำการอุดฟันเพื่อปิดช่องว่างที่เผยออก
การปิดทับรากฟันที่เผยออก : ในกรณีที่เหงือกร่นมากจนรากฟันเผย ทันตแพทย์อาจพิจารณาการปลูกเหงือกเพื่อปกปิดรากฟันที่เปิดออก
การรักษารากฟัน : หากอาการเสียวฟันรุนแรงมาก และเกิดจากการติดเชื้อหรืออักเสบในโพรงประสาทฟัน ทันตแพทย์อาจแนะนำการรักษารากฟันเพื่อกำจัดเส้นประสาทที่เสียหายออกไป
เลเซอร์ลดอาการเสียวฟัน : เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ทันสมัย เลเซอร์บางชนิดสามารถช่วยปิดท่อเนื้อฟันที่เผยออก และลดการส่งผ่านความรู้สึกได้
ป้องกันดีกว่ารักษา เคล็ดลับห่างไกลอาการเสียวฟัน
ตรวจสุขภาพฟันเป็นประจำ พบทันตแพทย์ทุก 6 เดือน เพื่อตรวจเช็คสุขภาพช่องปากและฟัน และแก้ไขปัญหาตั้งแต่เนิ่นๆ
เลือกแปรงสีฟันที่เหมาะสม ใช้แปรงสีฟันขนนุ่ม และเปลี่ยนแปรงทุก 3-4 เดือน
ระมัดระวังการทานอาหาร หลีกเลี่ยงการเคี้ยวอาหารแข็งๆ หรือน้ำแข็ง
ใช้ไหมขัดฟัน และน้ำยาบ้วนปากที่มีฟลูออไรด์ เสริมสร้างความสะอาดและแข็งแรงให้ฟัน
หากมีพฤติกรรมนอนกัดฟัน ควรปรึกษาทันตแพทย์เพื่อทำเฝือกสบฟัน (Night Guard) เพื่อป้องกันฟันสึก
อาการเสียวฟันไม่ใช่เรื่องที่ต้องทนอีกต่อไป ด้วยวิธีแก้อาการเสียวฟันที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน หรือการปรึกษาทันตแพทย์เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม คุณก็สามารถกลับมามีความสุขกับการรับประทานอาหารได้อย่างเต็มที่อีกครั้ง อย่าปล่อยให้อาการเสียวฟันมาทำลายความสุขเล็กๆ ในแต่ละวันของคุณนะคะ
บทความที่คุณอาจสนใจ