รวม 5 แพ็กเกจฉีดวัคซีน HPV จากโรงพยาบาลในกรุงเทพ เด็กก็ฉีดได้ ช่วยป้องกันมะเร็งปากมดลูก

     มะเร็งปากมดลูกถือเป็นโรคที่พบมากในหญิงไทยเป็นอันดับ 2 รองจากมะเร็งเต้านม ซึ่งจากข้อมูลระบาดวิทยาปี 2560 พบว่า มีผู้หญิงหญิงไทยป่วยเป็นมะเร็งปากมดลูกสูงถึง 8,184 คนต่อปี และมีอัตราเสียชีวิตเกิน 50% โดยผู้ป่วยส่วนใหญ่จะมีอายุระหว่าง 30-50 ปี ซึ่งสาเหตุของการเป็นโรคมะเร็งปากมดลูก มาจากเชื้อไวรัส HPV (Human Papilloma Virus) และการฉีดวัคซีน HPV คือวิธีการป้องกันที่ดีที่สุดค่ะ

     สำหรับการประสิทธิภาพของวัคซีน HPV นั้นสามารถช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งปากมดลูกได้ แต่ก็ควรฉีดตั้งแต่ยังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์และร่างกายอยู่ในวัยที่สร้างภูมิคุ้มกันได้ดี ก็จะทำให้วัคซีนเกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยสามารถฉีดได้ตั้งแต่อายุ 9 ขวบขึ้นไป ซึ่งวัคซีน HPV สามารถจะป้องกันโรคมะเร็งปากมดลูก มะเร็งช่องคลอดและปากช่องคลอด รวมถึงหูดอวัยวะเพศในผู้หญิงได้แล้ว ยังสามารถป้องกันโรคหูดหงอนไก่และมะเร็งทวารหนักในผู้ชายได้อีกด้วยค่ะ

ระยะเวลาในการฉีดวัคซีน HPV

     การฉีดวัคซีน HPV ควรจะต้องฉีดให้ครบถ้วนทั้งหมด 3 ครั้ง โดยแบ่งเป็น 3 ระยะเวลา ดังนี้
ครั้งที่ 1 : ฉีดในวันที่กำหนด โดยเราสามารถเลือกวันได้เองผ่านการนัดกับโรงพยาบาลหรือสถานพยาบาลที่มีบริการฉีดวัคซีน
ครั้งที่ 2 : ฉีดห่างจากเข็มแรก 1 – 2 เดือน
ครั้งที่ 3 : ฉีดห่างจากเข็มแรก 6 เดือน  

     สำหรับเด็กผู้หญิงที่อายุยังไม่ถึง 15 ปี จะรับวัคซีน HPV เพียง 2 ครั้ง โดยแต่ละเข็มจะห่างกัน 6 – 12 เดือนค่ะ

วัคซีน HPV มีกี่ชนิด

     วัคซีน HPV ในปัจจุบันมี 3 ชนิด คือ

1. ชนิด 2 สายพันธุ์ ชื่อ CERVARIX

     ซึ่งจะป้องกันการติดเชื้อสายพันธุ์หมายเลข 16 และ 18

2. ชนิด 4 สายพันธุ์ ชื่อ GARDASIL

     ซึ่งจะป้องกันการติดเชื้อสายพันธุ์หมายเลข 6, 11 , 16 และ 18

3. ชนิด 9 สายพันธุ์ ชื่อ Human Papillomavirus 9 – Valent Vaccine

     ซึ่งจะป้องกันการติดเชื้อสายพันธุ์หมายเลข 6, 11, 16, 18, 31, 33, 45, 52 และ 58

     ซึ่งการฉีดวัคซีน HPV แต่ละชนิดให้ผลในการป้องกันเหมือนกัน แต่สถานพยาบาลหลายแห่งให้คำแนะนำว่าควรฉีดแบบ 9 ชนิด เนื่องจากข้อมูลในปัจจุบันพบว่า เชื้อไวรัสที่พบในผู้ป่วยระยะก่อนเป็นมะเร็งปากมดลูก นอกจากสายพันธุ์หมายเลข 16, 18 จะก่อให้เกิดมะเร็งได้แล้ว เชื้อไวรัสสายพันธุ์หมายเลข 31, 45, 33, 52 และ 58 ก็สามารถก่อให้เกิดโรคมะเร็งได้เช่นกัน จึงแนะนำให้ฉีดวัคซีนที่มีประสิทธิภาพครอบคลุมเชื้อทั้ง 9 ชนิดจะดีกว่า

5 แพ็กเกจฉีดวัคซีน HPV ป้องกันมะเร็งปากมดลูก

1. แพ็กเกจฉีดวัคซีน HPV - โรงพยาบาลวิภาวดี

     โรงพยาบาลวิภาวดีมีบริการฉีดวัคซีน HPV ทั้งแบบ 2 สายพันธุ์, 4 สายพันธุ์ และ 9 สายพันธุ์ โดยราคาของการฉีดวัคซีน HPV แบบ 9 สายพันธุ์ คือ
สำหรับผู้ที่อายุ 9 - 14 ปี มีค่าใช้จ่ายที่ 13,500 บาท/ 2 เข็ม
สำหรับผู้ที่อายุ 15 ปี ขึ้นไป มีค่าใช้จ่ายที่ 19,500 บาท/ 3 เข็ม
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : www.vibhavadi.com

2. แพ็กเกจฉีดวัคซีน HPV - โรงพยาบาลธนบุรี

     โรงพยาบาลธนบุรีมีบริการฉีดวัคซีน HPV ทั้งแบบ 2 สายพันธุ์, 4 สายพันธุ์ และ 9 สายพันธุ์ โดยราคาของการฉีดวัคซีน HPV แบบ 9 สายพันธุ์ คือ
สำหรับผู้ที่อายุ 9 - 14 ปี มีค่าใช้จ่ายที่ 13,900 บาท/ 2 เข็ม
สำหรับผู้ที่อายุ 15 ปี ขึ้นไป มีค่าใช้จ่ายที่ 21,000 บาท/ 3 เข็ม
โดยราคาดังกล่าวไม่รวมค่าแพทย์และค่าบริการพยาบาลค่ะ
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : www.thonburihospital.com

3. แพ็กเกจฉีดวัคซีน HPV - โรงพยาบาลบางปะกอก 9

     โรงพยาบาลบางปะกอก 9 มีบริการฉีดวัคซีน HPV แบบ 4 สายพันธุ์ และ 9 สายพันธุ์ โดยราคาของการฉีดวัคซีน HPV แบบ 9 สายพันธุ์ คือ
สำหรับผู้ที่อายุ 9 - 14 ปี มีค่าใช้จ่ายที่ 12,700 บาท/ 2 เข็ม
สำหรับผู้ที่อายุ 15 ปี ขึ้นไป มีค่าใช้จ่ายที่ 19,000 บาท/ 3 เข็ม
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : www.bangpakokhospital.com

4. แพ็กเกจฉีดวัคซีน HPV - โรงพยาบาลสมิติเวช

     โรงพยาบาลสมิติเวชมีบริการฉีดวัคซีน HPV แบบ 9 สายพันธุ์ โดยมีค่าบริการคือ
สำหรับผู้ที่อายุ 9 - 14 ปี มีค่าใช้จ่ายที่ 13,500 บาท/ 2 เข็ม
สำหรับผู้ที่อายุ 15 ปี ขึ้นไป มีค่าใช้จ่ายที่ 19,000 บาท/ 3 เข็ม
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : www.samitivejhospitals.com/Valentine-vaccine

5. แพ็กเกจฉีดวัคซีน HPV - โรงพยาบาลกรุงเทพ

     โรงพยาบาลกรุงเทพมีบริการฉีดวัคซีน HPV แบบ 9 สายพันธุ์ โดยมีค่าบริการคือ
สำหรับผู้ที่อายุ 9 - 14 ปี มีค่าใช้จ่ายที่ 15,670 บาท/ 2 เข็ม
สำหรับผู้ที่อายุ 15 ปี ขึ้นไป มีค่าใช้จ่ายที่ 23,500 บาท/ 3 เข็ม
โดยราคาดังกล่าวไม่รวมค่าแพทย์ค่ะ
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : www.bangkokhospital.com/hpv-vaccine