รีเซต

10 อาหารมีแอนโทไซยานิน ต้านอนุมูลอิสระ ลดเสี่ยงโรคมะเร็ง โรคหัวใจ

10 อาหารมีแอนโทไซยานิน ต้านอนุมูลอิสระ ลดเสี่ยงโรคมะเร็ง โรคหัวใจ
pommypom
5 เมษายน 2565 ( 14:00 )
10.9K

     อยากมีสุขภาพดี ห่างไกลโรคร้าย โดยเฉพาะโรคมะเร็ง โรคหัวใจ โรคเบาหวาน และโรคอื่นๆ อีกมากมาย แนะนำให้กินอาหารมีแอนโทไซยานินเลยค่ะ เพราะแอนโทไซยานินถือเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ที่มีส่วนช่วยต่อสู้กับอนุมูลอิสระได้ดี เนื่องจากหากร่างกายมีอนุมูลอิสระสะสมอยู่เป็นจำนวนมาก อาจส่งผลให้เกิดอาการอักเสบและเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคเรื้อรังต่างๆ ตามมาได้นั่นเอง

 

 

แอนโทไซยานิน คือ

     แอนโทไซยานิน (Anthocyanin) คือ สารในกลุ่มของสารประกอบฟลาโวนอยด์ (Flavonoid) ซึ่งถือเป็นกลุ่มสารต้านอนุมูลอิสระกลุ่มใหญ่ที่เรียกว่าสารประกอบโพลีฟีนอล (Polyphenol) มักจะพบได้ในผักและผลไม้สีแดง ม่วง หรือน้ำเงิน มีฤทธิ์ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ลดอาการอักเสบ ไปจนถึงลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งและโรคหัวใจ โดยแนะนำให้กินอาหารที่มีแอนโทไซยานินแบบดิบหรือตอนสุกเต็มที่ ก็จะทำให้ได้รับปริมาณแอนโทไซยานินที่สูงค่ะ

 

แอนโทไซยานิน สรรพคุณ

1. ต้านอนุมูลอิสระ 

     แอนโทไซยานิน มีส่วนช่วยต่อสู้กับสารอันตรายที่เรียกว่า อนุมูลอิสระ (Free radical) เพราะเมื่ออนุมูลอิสระสะสมในร่างกายเป็นจำนวนมาก อาจส่งผลให้เกิดอาการอักเสบและเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคเรื้อรัง อย่างเช่น โรคมะเร็งและโรคหัวใจ ได้

2. ต้านการอักเสบ

     มีการศึกษาในผู้ที่มีระดับคอเลสเตอรอลในร่างกายสูงพบว่า แอนโทไซยานินมีส่วนช่วยลดอาการอักเสบต่างๆ ในร่างกายได้ดี รวมถึงช่วยลดระดับการอักเสบในเลือด อีกทั้งยังช่วยลดการอักเสบและความเจ็บปวดในผู้ที่เป็นโรคข้ออักเสบ นอกจากนั้นการอักเสบเรื้อรังอาจนำไปสู่โรคเรื้อรังต่างๆ ได้ เช่น โรคเบาหวานชนิดที่ 2 และโรคหัวใจ ดังนั้นการกินอาหารที่มีแอนโทไซยานินที่จะช่วยป้องกันอาการอักเสบได้ดีค่ะ

3. ป้องกันโรคเบาหวานชนิดที่ 2

     มีการศึกษาพบว่า แอนโทไซยานินมีส่วนช่วยลดการอักเสบ เพิ่มความทนต่อน้ำตาลผิดปกติ ซึ่งเป็นความสามารถของร่างกายในการจัดการกับระดับน้ำตาลในเลือดที่สูง จึงส่งผลให้สามารถลดความเสี่ยงต่อโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ได้นั่นเอง อีกทั้งยังมีการศึกษาพบว่า แอนโทไซยานินช่วยเพิ่มความสามารถของร่างกายในการจดจำและการใช้อินซูลิน ซึ่งจะช่วยป้องกันไม่ให้ระดับน้ำตาลในเลือดพุ่งสูงขึ้นได้ค่ะ

6. ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็ง

     แอนโทไซยานิน จัดเป็นสารในกลุ่มของสารประกอบฟลาโวนอยด์ (Flavonoid) ซึ่งเป็นกลุ่มของสารต้านอนุมูลอิสระที่เชื่อว่ามีความสามารถในการต่อสู้กับมะเร็งได้ดี ช่วยป้องกันเซลล์มะเร็งไม่ให้ขยายตัวและแพร่กระจาย รวมถึงยังมีการศึกษาพบว่าอาจช่วยกระตุ้นยีนบางตัวที่สามารถฆ่าเซลล์มะเร็งต่อมลูกหมากได้ นอกจากนั้นยังช่วยป้องกันมะเร็งเม็ดเลือดขาวหรือลูคีเมีย (Leukemia) มะเร็งรังไข่ และมะเร็งผิวหนังได้ อีกทั้งยังช่วยลดการอักเสบ และป้องกันความเสียหายของ DNA ส่งผลให้สามารถช่วยป้องกันการก่อตัวของเนื้องอกได้ อย่างไรก็ตาม อาจจะต้องมีการศึกษาวิจัยเพิ่มเติมต่อไปค่ะ

7. บำรุงสุขภาพหัวใจ

     แอนโทไซยานิน มีส่วนช่วยควบคุมความดันโลหิตและป้องกันไม่ให้ความดันโลหิตสูงขึ้น รวมถึงยังช่วยลดระดับไตรกลีเซอร์ไร คอเลสเตอรอลชนิดไม่ดีหรือไขมันเลว และเพิ่มระดับคอเลสเตอรอลชนิดดีหรือไขมันดีได้ อีกทั้งยังมีส่วนช่วยเพิ่มการไหลเวียนเลือดให้ดีขึ้นอีกด้วยค่ะ

8. บำรุงสมอง

     แอนโทไซยานิน มีส่วนช่วยเพิ่มความจำ สมาธิ ความเร็วในการประมวลผลของสมอง และความบกพร่องทางสติปัญญา ทั้งในวัยเด็ก ผู้ใหญ่ และวัยสูงอายุ อีกทั้งยังอาจช่วยชะลอการลุกลามของโรคอัลไซเมอร์ได้อีกด้วยค่ะ

9. ต้านจุลชีพ

     แอนโทไซยานินอาจมีส่วนช่วยต้านจุลชีพได้ โดยมีการศึกษาพบว่า สารเดลฟินิดิน (Delphinidin) ในแอนโทไซยานินอาจมีส่วนช่วยต่อสู้กับการติดเชื้อจากแบคทีเรีย สตาฟิโลคอคคัส ออเรียส (Staphylococcus aureus) ได้ค่ะ

10. สรรพคุณอื่นๆ 

     นอกจากประโยชน์ด้านสุขภาพที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น ยังมีการศึกษาพบว่า แอนโทไซยานินอาจมีส่วนช่วยปกป้องผิวจากรังสี UVB และมีส่วนช่วยลดน้ำหนักได้ เพราะมีการศึกษาพบว่า ผู้หญิงที่กินอาหารมีแอนโทไซยานินมากจะมีไขมันสะสมตามร่างกายและหน้าท้องน้อยกว่าผู้ที่กินอาหารมีแอนโทไซยานินต่ำ อย่างไรก็ตาม ต้องมีการศึกษาต่อไปค่ะ

 

อาหารมีแอนโทไซยานิน

 

 

(มิลลิกรัม ต่อ 100 กรัม)

  • มัลเบอร์รี่ 1.4 - 704 มก.
  • เชอร์รี่หวาน 7 - 143 มก.
  • แบล็คเบอร์รี่ 10 - 139 มก.
  • สตรอว์เบอร์รี่ 4 - 48 มก.
  • เชอร์รี่เปรี้ยว 3 - 44 มก.
  • ราสเบอร์รี่ 5 - 38 มก.
  • องุ่นดำ 3 - 39 มก.
  • ลูกพลัม 5 - 34 มก.
  • บลูเบอร์รี่ 11 - 26 มก.
  • ถั่วดำ 1 - 15 มก.

 

 

บทความที่คุณอาจสนใจ

ยอดนิยมในตอนนี้

สิทธิประโยชน์แนะนำ

แท็กยอดนิยม

บทความที่เกี่ยวข้อง