รีเซต

7 อาหารที่มีกรดอัลฟาไลโนเลนิก ALA แหล่งโอเมก้า 3 จากพืช ดีต่อหัวใจ

7 อาหารที่มีกรดอัลฟาไลโนเลนิก ALA แหล่งโอเมก้า 3 จากพืช ดีต่อหัวใจ
pommypom
15 ธันวาคม 2565 ( 16:35 )
10.8K

กรดอัลฟาไลโนเลนิก (ALA หรือ Alpha-Linolenic Acid) ถือเป็นกรดไขมันโอเมก้า 3 ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ถือเป็นไขมันดี ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและโรคอื่นๆ ได้ ใครอยากเติมโอเมก้า 3 แนะนำ 7 แหล่งอาหารจากพืชตามนี้เลย!

 

 

อาหารที่มีกรดอัลฟาไลโนเลนิก

1. เมล็ดแฟลกซ์

 

 

     เมล็ดแฟลกซ์ นอกจากจะเป็นแหล่งของโอเมก้า 3 หรือกรดอัลฟาไลโนเลนิกแล้ว ยังอุดมไปด้วยไฟเบอร์ โปรตีน ไทอะมีน ทองแดง แมงกานีส แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส ซีลีเนียม ซิงค์ วิตามินบี 6 ธาตุเหล็ก และโฟเลตที่ดีต่อสุขภาพ กินเมล็ดแฟลกซ์แล้วสามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็ง ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล ช่วยลดความดันโลหิต และช่วยให้ระดับน้ำตาลในเลือดคงที่ได้อีกด้วย

 

2. งาขี้ม้อน

 

 

     งาขี้ม้อน ก็อุดมไปด้วยกรดอัลฟาไลโนเลนิกเช่นเดียวกัน ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกแหล่งโอเมก้า 3 ที่ดีจากพืช ซึ่งนอกไปจากงาขี้ม้อนจะมีโอเมก้า 3 แล้ว ก็ยังมีส่วนช่วยลดคอเลสเตอรอล ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและมะเร็งได้อีกด้วย

 

3. ถั่วดาวอินคา

 

 

     ถั่วดาวอินคา อุดมไปด้วยโอเมก้า 3 หรือกรดอัลฟาไลโนเลนิก ยิ่งถ้าเป็นน้ำมันดาวอินคาด้วยแล้วก็จะยิ่งมีกรดอัลฟาไลโนเลนิกที่สูงกว่าแบบเมล็ด นอกจากนั้นก็ยังอุดมไปด้วยฟอสฟอรัส โพแทสเซียม แมกนีเซียม แคลเซียม ซิงค์ พร้อมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ กินแล้วช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ ลดระดับคอเลสเตอรอล และดีต่อสุขภาพลำไส้อีกด้วย

 

4. เมล็ดเจีย

 

 

     เมล็ดเจีย เป็นแหล่งของกรดอัลฟาไลโนเลนิกหรือโอเมก้า 3 พร้อมด้วยโปรตีน ไฟเบอร์ แคลเซียม ธาตุเหล็ก แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส ซิงค์ วิตามินบี 1 วิตามินบี 3 และสารต้านอนุมูลอิสระ กินแล้วมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ แถมยังช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้อีกด้วย

 

5. เมล็ดกัญชง

 

 

     เมล็ดกัญชง เป็นอีกหนึ่งแหล่งของกรดอัลฟาไลโนเลนิกหรือโอเมก้า 3 อีกทั้งยังมีโอเมก้า 6 อีกด้วย นอกจากนั้นก็ยังอุดมไปด้วยโปรตีน วิตามินอี ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม โซเดียม แมกนีเซียม ซัลเฟอร์ แคลเซียม ธาตุเหล็ก และซิงค์ กินแล้วมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ ลดอาการผิดปกติก่อนมีประจำเดือน แถมยังช่วยย่อยอาหารได้อีกด้วย

 

6. ถั่ววอลนัท

 

 

     ถั่ววอลนัท อุดมไปด้วยกรดอัลฟาไลโนเลนิกหรือโอเมก้า 3 อีกทั้งยังมีไฟเบอร์มาช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล มีโพแทสเซียมมาช่วยควบคุมความดันโลหิต พร้อมด้วยวิตามินอีมาช่วยต้านอนุมูลอิสระ นอกจากนั้นในถั่ววอลนัทก็ยังมีโปรตีนอีกด้วย

 

7. ถั่วพีแคน

 

 

     ถั่วพีแคน มีกรดอัลฟาไลโนเลนิกหรือโอเมก้า 3 พร้อมด้วยวิตามินเอ วิตามินอี และซิงค์ที่มีส่วนช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน มีแคลเซียม แมกนีเซียม และโพแทสเซียมมาช่วยลดความดันโลหิต อีกทั้งยังมีโฟเลตและสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ แถมยังช่วยบรรเทาอาการข้ออักเสบได้อีกด้วย

 

 

บทความที่คุณอาจสนใจ

บทความที่เกี่ยวข้อง