รีเซต

5 วิธีรักษาอาการนอนกรนด้วยตัวเอง หยุดอาการง่ายๆ หลับสนิทได้ตลอดคืน

5 วิธีรักษาอาการนอนกรนด้วยตัวเอง หยุดอาการง่ายๆ หลับสนิทได้ตลอดคืน
Beau_Monde
4 ธันวาคม 2563 ( 14:20 )
1.9K

    ถือเป็นปัญหาที่เจอได้บ่อยมากในคนไทย โดยเฉพาะผู้สูงอายุสำหรับอาการนอนกรน โดยสาเหตุการนอนกรนมาจากหลายสาเหตุมากค่ะ หากเรากำลังประสบปัญหาเรื่องการนอนกรน หรือว่าคนข้างกายนอนกรน จะต้องทำอย่างไรเพื่อให้อาการนี้หายไป วันนี้ต้องมาดูวิธีแก้อาการนอนกรนของเราค่ะ 

 

 

สาเหตุของการนอนกรน

1. อายุ

     เพราะเมื่ออายุเยอะขึ้น กล้ามเนื้อบริเวณลำคอของเราจะมีการหย่อนตัวลง ทำให้อากาศเดินทางได้ลำบาก เปรียบได้กับสายยางที่ถูกบีบ ทำให้น้ำไหลยากนั่นเอง เพราะลมไม่สามารถที่จะไหลไปตามทางปกติของมันได้ และจึงเกิดการสั่นสะเทือนในลำคอ ทำให้เกิดเสียงกรนขึ้นมานั้นเองค่ะ

 

2. อุดตัน

     มีอะไรบางอย่างไปอุดตันทางเดินหายใจของเรา เช่น บางคนต่อมทอนซิลโต บางคนน้ำหนักตัวมาก บางคนเป็นเนื้องอก ถุงน้ำที่บริเวณทางเดินหายใจ ทำให้เกิดเสียงกรนตามมาได้เหมือนกันค่ะ



5 วิธีรักษาอาการนอนกรนด้วยตัวเอง

     การนอนกรนจะถูกแบ่งออกเป็นแบบอันตรายกับแบบไม่อันตราย แบบไม่อันตรายก็คือ เราอาจจะกรนนิดหน่อยเสียงไม่ดังมาก ไม่มีอาการเหนื่อยระหว่างวัน รู้สึกว่านอนเต็มอิ่มดี ไม่ได้มีปัญหาอะไรเลย เพียงแต่เสียงกรนของเราอาจจะส่งเสียงรบกวนคนนอนด้วยนิดหน่อยแค่นั้น แบบนี้เรียกว่าการนอนกรนแบบไม่อันตรายค่ะ ซึ่งการนอนกรนแบบไม่อันตรายแบบนี้ เราสามารถรักษาได้ด้วยตัวเองเพียง 5 วิธี ดังนี้ค่ะ

 

1. นอนตะแคง

     ปรับพฤติกรรมโดยการนอนตะแคงและนอนให้ศีรษะสูงประมาณ 30 องศา หรือศีรษะสูงเล็กน้อย เพราะการนอนหงายจะทำให้กล้ามเนื้อของเรารวมถึงลิ้นสามารถตกไปขวางทางเดินอากาศ และทำให้เกิดเสียงกรนขึ้นมา เราจึงควรปรับเป็นการนอนตะแคง กล้ามเนื้อจะได้ไม่ตกไปตามแรงโน้มถ่วง ทำให้ไม่มีเสียงกรนตามมาค่ะ ส่วนใครที่อาจจะสงสัยว่ากำลังติดการนอนหงาย จะทำอย่างไรดี ก็ขอแนะนำให้เราเอาหมอนข้างมาช่วยฝึกการนอนตะแคง โดยการที่เรากอดหมอนข้างไว้ จะทำให้เรานอนตะแคงได้ง่ายขึ้น 

 

2. เลือกหมอน 

     เลือกหมอนที่ไม่นิ่มจนเกินไปและไม่แข็งจนเกินไป ซึ่งหมอนเพื่อสุขภาพก็มีหลายยี่ห้อในตลาด อาจจะลองซื้อมาใช้งานดูได้ เพราะว่าการที่เราใช้หมอนที่นิ่มเกินไป จะทำให้ศีรษะของเราไม่ยกสูงขึ้นมา แต่ถ้าเกิดหมอนแข็งจนเกินไป จะทำให้หลอดทางเดินหายใจของเรางอ เหมือนหลอดดูดน้ำที่มันงอไว้ และอาจจะทำให้เกิดเสียงกรนตามมาได้ค่ะ

 

3. เลี่ยงยานอนหลับและเครื่องดื่มมึนเมา

     เพราะว่ายานอนหลับกับเครื่องดื่มมึนเมา จะส่งผลต่อกลไกการนอนกรนค่ะ ซึ่งเกิดจากการที่กล้ามเนื้อหย่อนตัวผิดปกติอยู่แล้ว ยิ่งเราไปใช้ยาหรือว่าดื่มเครื่องดื่มเหล่านี้ก็จะยิ่งทำให้กล้ามเนื้อยิ่งหย่อนตัวไปมากกว่าเดิม จะทำให้อาการนอนกรนแย่ลงกว่าเดิมค่ะ 

 

4. ออกกำลังกาย

     การออกกำลังกายจะช่วยทำให้กล้ามเนื้อของเราแข็งแรงขึ้น กล้ามเนื้อบริเวณคอที่เคยหย่อนก็จะตึงขึ้น และช่วยลดอาการนอนกรนอย่างเป็นธรรมชาติ โดยการออกกำลังกาย ควรจะออกอย่างน้อย 30 นาที ทั้งหมด 5 วันต่อสัปดาห์นั่นเองค่ะ

 

5. ลดน้ำหนัก

     วิธีสุดท้ายสำหรับคนที่มีภาวะน้ำหนักเกิน ถ้าเรารู้สึกว่าตัวเองเป็นคนมีน้ำหนักเยอะก็ต้องลดน้ำหนักลงค่ะ เพราะผู้ที่มีน้ำหนักมากก็จะมีไขมันมาก และไขมันก็จะพอกไปตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย และทำให้เกิดการขัดขวางการหายใจซึ่งเป็นสาเหตุของการนอนกรนค่ะ

 

     และนี่คือสาเหตุและการแก้ปัญหาของคนนอนกรนที่มีความเสี่ยงต่ำหรือการนอนกรนที่ไม่อันตรายค่ะ แต่หากว่าเราเป็นผู้ที่มีภาวะนอนกรนแบบอันตราย ก็ควรจะต้องไปโรงพยาบาลเพื่อทำการรักษาโดยด่วนค่ะ โดยภาวะการนอนกรนแบบอันตราย อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อน และหากปล่อยทิ้งไว้จะเกิดอันตรายต่อร่างกายได้ เช่น เกิดโรคหัวใจขาดเลือด โรคความดันโลหิตสูง โรคเส้นเลือดสมองแตกหรือตีบ

     โดยผู้ที่มีภาวะนอนกรนแบบอันตรายคือ มีอาการนอนกรนเสียงดังมาก แม้ปิดประตูห้องแล้ว คนภายนอกห้องก็ยังได้ยิน อย่างนี้ต้องรีบไปตรวจที่โรงพยาบาลเพื่อหาวิธีรักษาต่อไป ซึ่งบางทีอาจจะมีสาเหตุจากต่อมทอนซิลโตผิดปกติ หรือว่ามีอะไรบางอย่างมาขวางทางเดินหายใจของเราค่ะ อาการต่อมาคือเหนื่อยระหว่างวัน มีอาการหยุดหายใจระหว่างการนอน อาการทั้งหมดที่บอกไว้คืออาการที่มีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นโรคนอนกรนแบบอันตราย ถ้ามีอาการแบบนี้แม้เพียงข้อเดียว เราแนะนำว่าควรที่จะต้องไปโรงพยาบาลเพื่อปรึกษาแพทย์เฉพาะทางโดยด่วนค่ะ

 

บทความที่คุณอาจสนใจ

4 วิธีแก้อาการนอนกรน ช่วยให้หลับสนิทตลอดคืน

4 สมุนไพรช่วยลดอาการนอนกรน นอนหลับสบาย คนข้างกายไม่รำคาญ

ยอดนิยมในตอนนี้

สิทธิประโยชน์แนะนำ

แท็กยอดนิยม

บทความที่เกี่ยวข้อง