Energy Gel เจลให้พลังงาน สำหรับสายวิ่ง ดีอย่างไร? นักวิ่งต้องกินจริงไหม

เติมพลังทันใจ ไม่ต้องจุก! Energy Gel เจลให้พลังงาน สำหรับสายวิ่ง ดีอย่างไร? หลายคนบอกว่าเป็นตัวช่วยเพิ่มขีดจำกัดนักกีฬา จริงหรือไม่? วันนี้เรามาหาคำตอบกันค่ะ
ในโลกของการวิ่งมาราธอน ไตรกีฬา หรือการออกกำลังกายที่ใช้ความอดทนสูง ไอเทมเล็กๆ ที่กลายเป็น เคล็ดลับที่ขาดไม่ได้ สำหรับนักกีฬา คือ "Energy Gel" หรือเจลให้พลังงาน ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความสนใจสูงใน Google Trends สำหรับกลุ่มผู้รักสุขภาพและนักวิ่ง เพราะนี่คือตัวช่วยสำคัญในการก้าวข้ามกำแพงความเหนื่อยล้า และทำสถิติใหม่ได้! วันนี้เราจะมาเจาะลึกว่า Energy Gel ดีอย่างไร ทำไมจึงสำคัญต่อนักวิ่ง และควรกินตอนไหนถึงจะเห็นผลสูงสุดค่ะ
Energy Gel คืออะไร? และทำไม "ไกลโคเจน" ถึงไม่พอ?
Energy Gel คือ อาหารในรูปแบบเจลที่มีส่วนประกอบหลักคือ คาร์โบไฮเดรตความเข้มข้นสูง (เช่น มอลโตเดกซ์ตริน, กลูโคส, ฟรุกโตส) พร้อมวิตามินและเกลือแร่ (Sodium, Potassium) ในบางยี่ห้อ
ความจำเป็นของ Energy Gel
เมื่อเราวิ่งหรือออกกำลังกายหนักต่อเนื่องเป็นเวลานานเกิน 60 - 90 นาที ร่างกายจะดึง ไกลโคเจน (Glycogen) ที่สะสมอยู่ในกล้ามเนื้อและตับมาใช้เป็นพลังงานหลัก แต่แหล่งพลังงานนี้มีจำกัด (ประมาณ 90 นาทีของการวิ่งหนัก)
- ปัญหา : เมื่อไกลโคเจนหมดลง จะเกิดภาวะที่เรียกว่า "หมดแรง" (Hitting the Wall) ซึ่งทำให้รู้สึกอ่อนเพลียรุนแรง สมองมึนงง และไม่สามารถวิ่งต่อด้วยความเร็วเดิมได้
- Energy Gel แก้ปัญหา : เจลให้พลังงานถูกออกแบบมาให้มีคาร์โบไฮเดรตที่ร่างกายสามารถดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดและนำไปใช้เป็นพลังงานได้ ทันที โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการย่อยที่ซับซ้อนเหมือนอาหารทั่วไป
4 เหตุผลสำคัญที่ Energy Gel "ดีต่อสายวิ่ง"
1. พลังงานรวดเร็ว ไม่ต้องผ่านการย่อย
Energy Gel มีลักษณะเป็นเจลลี่เหลว ทำให้คาร์โบไฮเดรตถูกดูดซึมผ่านเยื่อบุกระเพาะอาหารและลำไส้เล็กเข้าสู่กระแสเลือดได้อย่างรวดเร็วภายในเวลาเพียง 5 - 15 นาที ซึ่งรวดเร็วกว่าการทานกล้วยหรือขนมปัง ช่วยให้พลังงานต่อเนื่องและรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่
2. ป้องกันตะคริวและภาวะขาดน้ำ (Hydration)
Energy Gel ส่วนใหญ่มักมี เกลือแร่ (Electrolytes) เช่น โซเดียมและโพแทสเซียม เพื่อทดแทนการสูญเสียเกลือแร่ผ่านเหงื่อ การรักษาสมดุลเกลือแร่ในร่างกายเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการป้องกันการเกิดตะคริวระหว่างการวิ่งระยะทางไกล
3. ขนาดกะทัดรัด พกพาสะดวก ไม่จุกท้อง
Energy Gel ถูกบรรจุในซองเล็กๆ ที่ง่ายต่อการพกพาในเข็มขัดวิ่งหรือกางเกงวิ่ง เมื่อกินเข้าไปก็มีโอกาสเกิดอาการจุกเสียดหรือท้องอืดน้อยกว่าการกินอาหารแข็งๆ ระหว่างวิ่ง ทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้เบาที่สุด
4. รักษาความสดชื่นของสมอง (Brain Function)
สมองของเราใช้กลูโคส (น้ำตาล) เป็นเชื้อเพลิงหลัก เมื่อวิ่งนานๆ สมองจะเริ่มขาดกลูโคส ทำให้เกิดอาการมึน งง หรือ "สมองล้า" เจลให้พลังงานช่วยเติมกลูโคสในเลือดให้สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้สมองกลับมาทำงานได้ดี และคุณสามารถโฟกัสกับ Pace และเทคนิคการวิ่งต่อไปได้
วิธีใช้ Energy Gel ให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด
การใช้เจลอย่างถูกต้องคือหัวใจสำคัญของการวิ่งระยะไกล:
กินพร้อมน้ำเปล่าเสมอ : ควรกินเจลพร้อมกับน้ำเปล่าประมาณ 100 - 200 มิลลิลิตร เพื่อช่วยในการย่อยและดูดซึมคาร์โบไฮเดรตเข้าสู่ร่างกายให้เร็วที่สุด หากไม่มีน้ำตาม เจลจะถูกดูดซึมช้าลง
กินครั้งแรกเมื่อไหร่? : สำหรับการวิ่งที่นานกว่า 90 นาที ควรเริ่มกินเจลซองแรกในช่วง 45 - 60 นาที แรกของการวิ่ง
ความถี่ในการกิน : โดยทั่วไป แนะนำให้กินเจล 1 ซอง ทุกๆ 45 - 60 นาที หลังจากซองแรก (ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความเข้มข้นของคาร์โบไฮเดรตในเจลแต่ละยี่ห้อ)
ห้ามลองในวันแข่ง : สิ่งสำคัญที่สุดคือ ห้ามลองเจลยี่ห้อหรือรสชาติใหม่ในวันแข่งขันจริงเด็ดขาด ควรซ้อมกินเจลในปริมาณและเวลาเดียวกับที่วางแผนไว้ในวันแข่งขัน เพื่อให้ร่างกายได้ปรับตัวและรู้ว่าเจลชนิดนั้นเข้ากับระบบย่อยอาหารของเราหรือไม่
คำแนะนำ: Energy Gel ไม่ใช่อาหารเสริม แต่เป็นเชื้อเพลิงที่จำเป็นสำหรับการวิ่งแบบ Endurance การวางแผนโภชนาการที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณปลดล็อกศักยภาพสูงสุดในการวิ่งได้อย่างแน่นอน!
บทความที่คุณอาจสนใจ
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้![]()
สิทธิประโยชน์แนะนำ
