ภูมิดีมีชัยไปกว่าครึ่ง! 10 วิธีสร้างภูมิคุ้มกัน ติดโควิด-19 ก็หายได้ ถ้าภูมิคุ้มกันดี
มีภูมิคุ้มกันที่ดี บอกเลยว่ามีโรคน้อยไปกว่าครึ่งค่ะ โดยเฉพาะในช่วงที่โรคระบาด COVID-19 รุนแรงเช่นนี้ การดูแลสุขภาพร่างกาย ให้มีภูมิคุ้มกันที่ดีอยู่เสมอย่อมเป็นสิ่งที่ควรทำมากๆ ค่ะ ทำไมเราถึงต้องสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย... นั่นก็เป็นเพราะเมื่อร่างกายเรามีภูมิคุ้มกันที่แข็งแกร่ง ร่างกายก็จะมีศักยภาพในการป้องกันการติดเชื้อไวรัสได้ดี หรือหากติดเชื้อก็อาจช่วยลดความเสี่ยงที่จะมีอาการรุนแรงได้นั่นเองค่ะ ว่าแล้วก็มาสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายด้วย 10 วิธีนี้กันเลย!
1. เลิกสูบบุหรี่ หรือหลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีควันบุหรี่
เนื่องจากการสูบบุหรี่หรือการได้รับควันบุหรี่เข้าร่างกายบ่อยๆ อาจทำให้เกิดความผิดปกติเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจได้ ทั้งยังก่อให้เกิดโรคเรื้อรัง อย่างเช่น โรคมะเร็งปอด โรคถุงลมโป่งพอง โรคหัวใจและหลอดเลือด เห็นได้เลยว่าการสูบบุหรี่หรือการได้รับควันบุหรี่บ่อยๆ เป็นการทำลายปอดอย่างหนัก ซึ่งถ้าเรามีปอดที่แข็งแรงก็จะช่วยต้านไม่ให้ไวรัสทำลายปอดได้ง่ายขึ้นค่ะ
องค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า การสูบบุหรี่ทำให้มีความเสี่ยงปอดติดเชื้อมากกว่าผู้ที่ไม่สูบ ซึ่งเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 ได้ง่ายกว่าถึง 14 เท่า
2. กินผักและผลไม้ให้มาก
ในผักและผลไม้หลายๆ ชนิดมีสารอาหารสำคัญที่ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกัน ป้องกันการทำลายเซลล์ในร่างกายได้ดีค่ะ หากเรากินผักและผลไม้ให้มากขึ้นในแต่ละวันก็ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายของเราแข็งแรงขึ้น ทั้งนี้ในสมุนไพรไทยบางชนิดยังมีสารที่ช่วยยับยั้งเชื้อไวรัสที่ก่อโรคในทางเดินหายใจได้อีกด้วย ซึ่งหากติดโรคขึ้นมาก็อาจช่วยให้โรครุนแรงน้อยลงได้ค่ะ
- 60 อาหารช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงให้ร่างกาย พร้อมเผชิญกับโรคร้าย!
- 9 ผักผลไม้ บำรุงปอด ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน สู้โรคร้าย ต้านมลภาวะ!
- รวมลิสต์! ผัก ผลไม้ สมุนไพร อาหารไทยต้านไวรัส เสริมภูมิ สู้ COVID-19
3. ออกกำลังกายเป็นประจำ
ออกกำลังกายเป็นประจำนั้น ไม่ได้หมายความว่าต้องออกกำลังกายอย่างหนักหรือนานเกินไปในแต่ละวันนะคะ แต่เป็นการออกกำลังกายอย่างพอดี และทำอย่างต่อเนื่องในทุกวัน หรือในทุกสัปดาห์ เพราะการไม่ออกกำลังกายหรือออกกำลังกายหนักเกินไปจะทำให้ภูมิต้านทานโรคของเราลดลง ทั้งนี้การออกกำลังกายเป็นประจำจะช่วยให้โอกาสติดเชื้อทางเดินหายใจลดลงด้วย
- 14 ท่า ออกกำลังกายง่ายๆ ที่บ้าน เบิร์นดี แถมแข็งแรงสู้โรค!
- 8 คลาสออกกำลังกายออนไลน์ฟรี อยู่บ้านแบบหุ่นดี ไปไหนไม่ได้ แต่ออกกำลังกายที่บ้านได้!
4. ควบคุมน้ำหนัก
นอกจากการออกกำลังกายแล้ว การควบคุมน้ำหนัก ไม่ว่าจะเป็นการเลือกกินอาหาร การลดอาหารที่มีแต่ไขมัน ก็ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันและช่วยให้ปอดทำงานได้ดีขึ้นค่ะ ทั้งนี้แพทย์พบว่า นอกจากผู้สูงอายุแล้ว อีกหนึ่งกลุ่มที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่ายก็คือ คนอ้วนนั่นเองค่ะ เนื่องจากคนอ้วนมีความหนาของชั้นไขมันที่หน้าอก จะทำให้กดการทำงานของปอด เมื่อปอดทำงานได้น้อยลง ประสิทธิภาพในการทำงานก็จะน้อยลง ดังนั้นหากติดเชื้อจะทำให้ปอดยิ่งแย่ลง
5. ลดการดื่มแอลกอฮอล์
เนื่องจากการศึกษาพบว่า การดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมากจะทำให้ร่างกายเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่ายเช่นกัน เนื่องจากเกิดภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง และเมื่อภูมิคุ้มกันบกพร่องแล้วก็อาจก่อให้เกิดโรคต่างๆ ตามมาได้ ไม่ว่าจะเป็นอาการแพ้ภูมิตัวเอง โรคปอดบวม วัณโรค เยื่อบุช่องท้องอักเสบในปอด
6. นอนพักผ่อนให้เพียงพอ
การนอนพักผ่อนให้เพียงพอ จะช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายและช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยจากงานวิจัยที่เปรียบเทียบความเสี่ยงในการติดเชื้อไข้หวัดของผู้ที่นอนน้อยกว่า 7 ชั่วโมง กับผู้ที่นอนหลับ 8 ชั่วโมงขึ้นไป พบว่ากลุ่มที่นอนน้อยกว่าเสี่ยงเป็นหวัดสูงกว่ากลุ่มผู้ที่นอนมากกว่าถึง 3 เท่า
7. ออกไปรับแสงแดดในตอนเช้า
ต้องบอกว่า แสงแดดคือแหล่งสร้างวิตามินดีได้มากและง่ายที่สุดเลยล่ะ! ซึ่งวิตามินดี มีส่วนในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกายให้มากขึ้นนั่นเองค่ะ โดยเราควรเดินออกไปรับวิตามินดีจากแสงแดดในช่วงเช้าๆ เพราะแสงแดดที่เหมาะสมต่อการสังเคราะห์วิตามินดี ควรเป็นแสงแดดอ่อนๆ ที่ไม่แสบร้อนจนทำร้ายผิวในระยะยาว ส่วนระยะเวลาในการรับแสงแดดที่เหมาะสมก็อยู่ที่ประมาณ 10-15 นาทีค่ะ
8. ลดความเครียด ผ่อนคลายให้มากขึ้น
รู้ไหมคะทุกคน ว่าความเครียดส่งผลต่อต่อระบบภูมิคุ้มกันโดยตรง! เพราะเมื่อร่างกายมีความเครียดสูงขึ้น ฮอร์โมนความเครียดจะไปกดภูมิคุ้มกันให้อ่อนแอลงจนร่างกายเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่ายขึ้น ฉะนั้นช่วงนี้การเสพข่าวเครียดๆ อาจจะต้องพักก่อนและหาอย่างอื่นทำให้ผ่อนคลายมากขึ้นจะดีกว่านะคะ
9. ฉีดวัคซีนที่จำเป็นตามกำหนด
ไม่เพียงแค่เด็กตัวเล็กๆ เท่านั้นนะคะที่จำเป็นต้องฉีดวัคซีนเป็นประจำ แต่ทุกคนโดยเฉพาะผู้สูงอายุที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป ควรวัคซีนไข้หวัดใหญ่ (Influenza vaccine) ทุกปี ปีละ 1 ครั้ง เนื่องจากเชื้อไข้หวัดใหญ่มีการเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์ทุกปี นอกจากวัคซีนไข้หวัดใหญ่แล้ว วัคซีนป้องกันโรคปอดอักเสบ (Pneumococcal vaccine) ก็จำเป็นเช่นกันค่ะ เพราะจะช่วยป้องกันการติดเชื้อแบคทีเรีย นิวโมคอคคัส ซึ่งเป็นสาเหตุสําคัญของการติดเชื้อ ปอดอักเสบ และอาจก่อให้เกิดการติดเชื้อรุนแรงนำไปสู่การเสียชีวิตได้
10. ล้างมือให้สะอาด
การล้างมือให้สะอาด โดยเฉพาะก่อนสัมผัสที่ปาก จมูก หรือตา หรือหลังจากการสัมผัสสิ่งต่างๆ ที่อยู่ในที่สาธารณะเป็นสิ่งจำเป็นมากๆ ค่ะ เพราะการล้างมือจะช่วยชำระล้างสิ่งสกปรก แบคทีเรีย รวมถึงไวรัส ที่อาจปนเปื้อนเข้าสู่ร่างกายและไปทำลายระบบภูมิต้านทานของเราได้ โดยแนะนำว่าควรล้างมือด้วยสบู่เหลว แล้วขัดถูมือเป็นเวลา 20 วินาที จากนั้นล้างออกด้วยน้ำ และเช็ดให้แห้งด้วยกระดาษใช้แล้วทิ้ง หรือหากไม่มีสบู่เหลว ควรล้างมือด้วยเจลล้างมือที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ 70 ถึง 80%
- รวม DIY วิธีทำเจล สเปรย์แอลกอฮอล์ล้างมือใช้เอง ปลอดภัย ใช้ป้องกันเชื้อโรค!
- มือสะอาดช่วยลดติดเชื้อ...6 ขั้นตอนล้างมือ ล้างมืออย่างไรให้ไกลจากโควิด19