7 เคล็ดลับ ลดน้ำหนักให้ถูกวิธี ไม่แก่ ไม่เหี่ยว ไม่โยโย่

     ปี 2023 อยู่ห่างออกไปเพียงไม่กี่วันแล้วค่ะ ในขณะที่บางคนกำลังเริ่มตั้งปณิธานปีใหม่ แต่ก็มีบางคนที่พยายามทำสิ่งที่เคยทำอยู่แล้วให้สำเร็จ โดยเฉพาะเรื่องของการลดน้ำหนักที่หลายคนก็ทำมาสักพักแล้วแต่ก็ยังไม่ถึงเป้าหมายสักที

     มีเคล็ดลับบางอย่างที่คุณสามารถนำไปต่อยอดจากปีนี้ไปสู่ปีหน้าได้ เพื่อทำให้ปี 2023 เป็นปีที่ดีที่จะทำให้การลดน้ำหนักประสบความสำเร็จสักที แทนที่จะเริ่มใหม่ เราสามารถนำเคล็ดลับการลดน้ำหนักที่เคยทำในปี 2022 มาใช้ได้ แต่จะมีเคล็ดลับอะไรที่ดีและช่วยให้เราประสบความสำเร็จได้จริง วันนี้เรามีแผนการลดน้ำหนักและวิธีเปลี่ยนแปลงตัวเองมาให้ค่ะ

7 เคล็ดลับการลดน้ำหนักให้ถูกวิธี

1. กินอาหารเพื่อสุขภาพ

     แน่นอนว่าการกินอาหารที่เหมาะสมและกินเพื่อสุขภาพนั้นย่อมส่งผลดีต่อการลดน้ำหนักและสุขภาพโดยรวม การกินเพื่อสุขภาพทำให้เราได้รับสารอาหารที่หลากหลายและร่างกายสามารถนำไปใช้ได้ ซึ่งสารอาหารเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นสารอาหารหลักอย่าง โปรตีน ไขมันและคาร์โบไฮเดรต รวมถึงสารอาหารรองอย่างวิตามินและเกลือแร่ ก็ล้วนมีความสำคัญต่อการลดน้ำหนักทั้งสิ้น

2. ฝึกการควบคุมสัดส่วนอาหาร

     การควบคุมสัดส่วนอาหารเป็นสิ่งสำคัญในการเข้าสู่การควบคุมแคลอรีได้แบบง่าย ๆ และเพื่อการลดน้ำหนักส่วนเกิน การขาดแคลอรีหรือกินแคลอรี่เกินสามารถเกิดขึ้นได้ ซึ่งเมื่อเกิดขึ้นแล้วก็ย่อมจะส่งผลกระทบต่อระบบเผาผลาญในร่างกาย การควบคุมปริมาณอาหารจะช่วยให้คุณไม่กินมากเกินไปหรือน้อยเกินไป และยังทำให้เราได้รับสารอาหารในปริมาณที่ร่างกายต้องการอย่างเพียงพอต่อวัน

3. เคลื่อนไหวร่างกาย

     การออกกำลังกายควรเป็นส่วนหนึ่งของกิจวัตรประจำวันของเรา โดยควรออกกำลังให้ได้อย่างน้อย 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมง เราไม่จำเป็นต้องออกกำลังกายทุกวันในสัปดาห์ แค่ออกกำลังกาย 4 - 5 วันก็เพียงพอแล้วการออกกำลังสามารถที่จะช่วยเผาผลาญชั้นไขมันส่วนเกินและช่วยให้น้ำหนักลดลงได้ การเพิ่มเวลาการออกกำลังกายและขยับเขยื้อนร่างกายให้มากขึ้นจะช่วยเผาผลาญแคลอรีได้เป็นจำนวนมาก และแม้แต่การทำงานบ้านทั่วไปอย่างการกวาด ถูพื้น ปัดฝุ่นก็สามารถช่วยลดน้ำหนักได้เช่นกัน

4. ลดมื้อของว่าง

     หากเรากินอาหารในมื้อได้อิ่มพอดี มื้อของว่างก็ไม่จำเป็น เพราะของว่างสามารถทำให้เกิดแคลอรีส่วนเกินและเป็นพฤติกรรมการกินโดยไม่จำเป็นตลอดทั้งวัน สิ่งแรกที่คุณควรทำในขณะที่กำลังลดน้ำหนักคือการกำหนดตารางเวลาอาหารและของว่าง พยายามอย่ากินนอกตารางเวลา และจัดสัดส่วนอาหารให้ดี

5. อย่าหมกมุ่นอยู่กับเครื่องชั่งน้ำหนัก

     เครื่องชั่งน้ำหนักสามารถเป็นเพื่อนที่ดีหรือเป็นศัตรูตัวร้ายของเราก็ได้ ไม่มีอะไรน่าหงุดหงิดไปกว่าการเห็นตัวเลขขยับขึ้นบนตาชั่ง ถึงแม้ว่าเราจะชั่งน้ำหนักหลังจากที่ทำ IF มาอย่างเข้มงวด เพราะมีหลายปัจจัยมากที่ทำให้ตัวเลขบนตาชั่งขึ้นหรือลง เช่น การดื่มน้ำก่อนชั่งน้ำหนัก ร่างกายมีกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้น หรือแม้แต่การอดนอนก็สามารถทำให้ตัวเลขบนตาชั่งเพิ่มขึ้นได้

6. ลดน้ำตาลให้มาก

     การลดน้ำตาลเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะน้ำตาลที่เราเติมเข้าไปในอาหาร เพราะโดยปกติก็มักจะมีน้ำตาลอยู่ในอาหารต่าง ๆ อยู่แล้ว การเติมน้ำตาลลงไปอีก จึงทำให้เราเสี่ยงที่จะรับน้ำตาลเกินกว่าความต้องการของร่างกาย การกำจัดน้ำตาลเป็นสิ่งสำคัญในการลดน้ำหนักและช่วยปรับสุขภาพโดยรวมให้ดีขึ้น เพราะน้ำตาลจะเพิ่มการอักเสบในร่างกายและนำไปสู่การเป็นโรคหัวใจ เบาหวาน และโดรคที่อันตรายถึงชีวิตอื่น ๆ แต่ผลลัพธ์ที่ใหญ่ที่สุดของการเลิกกินน้ำตาลก็คือการลดน้ำหนัก ดังนั้นเราจึงควรพยายามลดน้ำตาลให้ได้มากที่สุด

7. เปลี่ยนแปลงชีวิตในเชิงบวก

     หลายคนที่พอเริ่มลดน้ำหนักก็จะเกิดความเครียดและวิตกกังวล เพราะกลัวว่าจะไม่ประสบความสำเร็จ แต่หากเราเพียงแค่ลดความเครียด เคลื่อนไหวร่างกายบ่อย ๆ ดื่มน้ำให้มากขึ้น และให้ความสำคัญกับการนอนให้มากขึ้น ก็สามารถช่วยให้เราลดน้ำหนักได้ เพราะการใช้ชีวิตแบบนั่งนิ่ง การนอนหลับไม่ดี ความเครียดสะสม อาจทำให้การเผาผลาญพลังงานลดลง เพิ่มความอยากอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ และทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้น และปัจจัยเหล่านี้ยังส่งผลต่อสุขภาพร่างกายและจิตใจในทางลบด้วย ดังนั้น พยายามอย่าเครียดและเปลี่ยนแปลงชีวิตไปในเชิงบวกแทน

บทความที่คุณอาจสนใจ

• 6 วิธีลดน้ำหนัก 10 วัน ลดได้ 2-3 กิโล ออกกำลังกายยังไง กินแบบไหน?
• 10 เทคนิคลดน้ำหนัก 1 เดือน ลดได้ 6 กิโลกรัม วิธีลดความอ้วนได้ผลเร็ว!