7 อาหาร กินต้านพิษฝุ่น PM2.5 ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน ช่วยร่างกายต้านมลพิษ

     หน้าหนาวมาเยือนแล้ว ถึงแม้ว่าอากาศเมืองไทยจะไม่ได้หนาวเย็นสุดขั้ว แต่เราก็พอจะคลายความร้อนลงไปได้บ้างค่ะ แต่หน้าหนาวสมัยนี้นั้นไม่ได้มาพร้อมลมหนาวอย่างเดียวแล้ว แต่กลับมาพร้อมกับฝุ่นด้วยค่ะ ฝุ่นที่มาพร้อมอากาศหนาวๆ นั่นก็คือเจ้าฝุ่นจิ๋ว PM 2.5 ซึ่งบอกเลยว่าถ้าใครที่ไม่ได้เตรียมตัวป้องกันให้ดี หรือวันไหนเผลอลืมใส่หน้ากากอนามัยเมื่อไหร่ อาการคันคอ ไอ จาม เจ็บคอ ไปจนถึงมีอาการผิวเป็นผื่นคัน หรือในบางคนที่มีอาการแพ้หนักๆ ก็ถึงขั้นมีอาการบวมตามใบหน้าขึ้นอย่างแน่นอน ซึ่งการป้องกันฝุ่นจิ๋วไม่ให้เข้าร่างกายก็คือการใส่หน้ากากอนามัยนั่นเองค่ะ

     แต่นอกจากการใส่หน้ากากอนามัยที่ช่วยป้องกันไม่ให้ฝุ่น PM 2.5 เข้าร่างกายได้แล้ว การเตรียมร่างกายให้แข็งแรงจากภายในก็เป็นอีกวิธีที่ช่วยให้เราสู้กับเจ้าฝุ่นชนิดนี้ได้เช่นกันค่ะ ซึ่งการเตรียมร่างกายให้แข็งแรงจากภายใน ก็คือการเลือกกินอาหารที่มีสารอาหารสำคัญที่ช่วยให้ร่างกายของเราพร้อมกับการสู้กับฝุ่นได้ ซึ่งอาหารที่เราแนะนำให้กิน มีดังนี้ค่ะ

7 อาหารกินต้านพิษฝุ่น PM2.5

1. แครอท

     อาหารชนิดแรกที่เราแนะนำให้กินเป็นประจำในช่วงนี้ นั่นก็คือแครอทค่ะ ... ทำไมต้องเป็นแครอท? นั่นก็เพราะว่าแครอทมีวิตามินเอ มีเบต้าแคโรทีนอยู่มากค่ะ เบตาแคโรทีนในแครอทนั้นต้องบอกเลยว่าเป็นสารแอนตี้ออกซิแดนท์ที่ช่วยร่างกายเราได้มาก ซึ่งไม่เพียงแค่ป้องกัน PM 2.5 ยังช่วยชะลอวัย ทำให้ใบหน้าของเราสดใสดูมีน้ำมีนวล ซึ่งนอกจากแครอทแล้ว เรายังควรกินตำลึง ผักบุ้ง ฟักทอง มะม่วง มะละกอ มะเขือเทศด้วยค่ะ แถมอีกนิดกับเทคนิคในการกินเพื่อให้เราได้รับเบต้าแคโรทีนสูงสุด ก็คือควรกินแบบปรุงสุกค่ะ

2. ฝรั่ง 

     เพราะในฝรั่งนั้นมีวิตามินซีอยู่เยอะค่ะ ซึ่งวิตามินซีก็ถือเป็นวิตามินครอบจักรวาลเลยก็ว่าได้ เพราะช่วยทั้งป้องกันหวัด เป็นสารแอนตี้ออกซิแดนท์ ช่วยลดการอักเสบ ลดความเสียหายของเซลล์ในร่างกาย ซึ่งเมื่อเซลล์ในร่างกายของเราแข็งแรงก็หมายความว่าร่างกายโดยรวมของเราก็จะแข็งแรงขึ้นด้วยค่ะ นอกจากนี้วิตามินซียังช่วยลดปัญหาภูมิแพ้ต่างๆ โดยเฉพาะการแพ้ฝุ่นค่ะ จากที่เคยคัดจมูก ไอ จาม อาการเหล่านี้จะลดได้ด้วยวิตามินซี ซึ่งนอกจากฝรั่งแล้ว ยังควรกินผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวทั้งหลาย เช่น ส้ม มะนาว ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ รวมถึงผักใบเขียว เช่น คะน้า ผักโขม ผักชี ผักบุ้ง เป็นต้น

3. ถั่ว

     ถั่วจัดเป็นอาหารที่มีวิตามินอีค่ะ ซึ่งวิตามินอีมักจะอยู่ในอาหารที่มีไขมันสูง ไขมันในถั่วจัดเป็นไขมันดี ทั้งถั่วลิสงอบ วอลนัท ถั่วอัลมอนด์ ถั่วพิสตาชิโอ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ก็ควรกินค่ะ แต่ใน 1 วันไม่ควรกินเกิน 1 กำมือ ซึ่งนอกจากควรกินถั่วแล้วก็ยังควรกินธัญพืชต่างๆ และไข่ โดยเฉพาะไข่แดงค่ะ 

4. กล้วย

     วิตามินบี 6 บี 9 บี 12 แล้ววิตามินเหล่านี้มีอยู่มากในกล้วยค่ะ แล้ววิตามินบีเหล่านี้จะสามารถช่วยให้เรารอดพ้นจากฝุ่น PM2.5 ได้อย่างไร ก็ต้องบอกอย่างนี้ค่ะ ฝุ่นพวกนี้เมื่อเข้าไปในร่างกายแล้ว จะทำให้สารที่มีชื่อว่า โฮโมซีสเทอีน (Homocysteine) พุ่งสูงขึ้น ซึ่งเจ้าโฮโมซีสเทอีนนี้มีส่วนสำคัญในการทำให้เกิดความเสี่ยงเป็นโรคหัวใจขาดเลือด การกินอาหารที่มีวิตามินบีจะเข้าไปช่วยยับยั้งสารตัวนี้ไม่ให้พุ่งขึ้นสูงค่ะ ซึ่งอาหารที่มีวิตามินบีสูง คือ กลุ่มธัญพืชไม่ขัดสี กล้วย อโวคาโด ลูกพรุน เนื้อปลาทูน่าและเนื้อไก่ โดยเฉพาะเนื้ออกไก่ค่ะ

5. อาหารทะเล

     ในเนื้อสัตว์ทะเลนั้นมีเมก้าโอเมก้า-3 ค่ะ โดยเฉพาะในเนื้อปลาทะเลอย่างปลาทูน่า ปลาแซลมอนหรือแบบไทยๆ ก็ปลาทูค่ะ เนื่องจากฝุ่นจิ๋วนั้นเมื่อเข้าไปในร่างกายก็จะกระตุ้นให้เกิดการอักเสบ เกิดอนุมูลอิสระจนไปถึงเกิดภาวะอนุมูลอิสระเกิน การกินอาหารที่มีโอเมก้า-3 จะเข้าไปช่วยลดไม่ให้ร่างกายสร้างอนุมูลอิสระมากเกินไป ช่วยลดการอักเสบ ทำให้ร่างกายแข็งแรงพอที่จะสู้กับฝุ่น PM2.5 ได้ค่ะ

6. บล็อกโคลี่

     จัดเป็นอาหารที่มีสารกลุ่มซัลโฟราเฟนอยู่มาก ซึ่งสารชนิดนี้นี้มีความสามารถในการกำจัดสารพิษต่างๆ ช่วยต้านมะเร็งและสารเคมี ซึ่งนอกจากบล็อกโคลี่แล้ว ยังควรกินดอกกะหล่ำและพืชตระกูลกะหล่ำ เช่น กะหล่ำปลี คะน้า กวางตุ้ง ผักกาดขาว ซึ่งนอกจากจะช่วยขับสารพิษออกจากร่างกาย ยังช่วยลดผิวอักเสบที่เกิดจากสิว ช่วยลดอาการของโรคภูมิแพ้ ผื่นคันและช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดโรคหัวใจขาดเลือดค่ะ

7. เห็ดหอม 

     สารอาหารสำคัญในเห็ดหอมคือสารกลุ่มเบต้ากลูแคนค่ะ ซึ่งสารชนิดนี้เราอาจจะคุ้นๆ ว่ามีอยู่ในอาหารเสริมด้วย แต่หากไม่ต้องการกินอาหารเสริมก็สามารถกินเห็ดหอมได้ นอกจากนี้สารกลุ่มเบต้ากลูแคนยังมีมากในเห็ดยามาบูชิตาเกะ เห็ดมัตสึทาเกะ และข้าวโอ๊ตด้วย ซึ่งช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน ช่วยกำจัดไวรัส ช่วยลดไขมัน แถมยังมีไฟเบอร์สูงทำให้ลดความเสี่ยงการเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้ค่ะ

บทความที่คุณอาจสนใจ

7 ไอเท็ม ปกป้องผิวจากฝุ่น PM 2.5 ลดผื่นคัน หน้าไม่พัง ผิวไม่อุดตันอีกต่อไป!

6 วิธีดูแลตัวเองเบื้องต้น หลังจากโดนฝุ่น PM 2.5