4 วิธีลดอาการตาล้า หลังจ้องหน้าจอมาทั้งวัน
อาการตาล้าเป็นอาการที่พบได้บ่อยมากๆ ยิ่งโดยเฉพาะในยุคปัจจุบันที่ผู้คนมักใช้สายตาอยู่หน้าจอกันมากขึ้น โดยอาจเกิดจากการใช้สมาร์ทโฟน ดูทีวี การอ่านหนังสืออย่างหนักรวมไปถึงการนั่งทำงานอยู่หน้าจอคอมพ์ทั้งวัน สิ่งเหล่านี้สามารถส่งเสริมให้เกิดอาการตาล้าได้ค่ะ โดยเฉพาะการอ่านหนังสือในที่มืดสลัว เราก็ต้องใช้การเพ่งสายตามากขึ้น หรือแม้แต่การออกไปข้างนอกแล้วเจอแดดแรงๆ จนต้องหรี่ตา ก็เกิดอาการตาล้าได้เช่นกัน
ตาล้า มักแสดงอาการออกมาได้หลายรูปแบบ เช่น ปวดตา ปวดกระบอกตา ตาแห้ง คันตา แสบตา หรือบางคนมีน้ำตาไหล ตาแดง ตาพร่ามัวมองเห็นไม่ชัด อาการตาล้าไม่ใช่แค่เมื่อยตาหรือปวดตาเพียงอย่างเดียว และอาการตาล้าก็ยังเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดอาการปวดหัว เหนื่อยล้า เวียนศีรษะ บ้านหมุน หรือบางคนก็เป็นไมเกรนได้ ถึงแม้ว่าอาการตาล้าจะไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต แต่ทำให้ชีวิตประจำวันของเราแย่ได้ค่ะ โดยปกติการพักผ่อนให้เพียงพอถือเป็นวิธีการที่ดีที่สุดที่ช่วยให้เราสามารถลดอาการตาล้าลงได้ แต่หากยังอยู่ในช่วงเวลาทำงานหรือในเวลาที่เราไม่สามารถนอนหลับพักผ่อนได้ เราจะสามารถลดอาการตาล้าได้อย่างไร วันนี้เรามีวิธีมาฝากกันค่ะ
4 วิธีลดอาการตาล้า หลังจ้องหน้าจอมาทั้งวัน
1. ใช้เทคนิค 20
สำหรับเทคนิค 20 นั่นก็คือ ทุกๆ การทำงาน 20 นาทีให้พักสายตา 20 วินาทีค่ะ โดยการพักสายตานี้ก็คือการมองไปไกลๆ อย่างน้อยประมาณ 20 ฟุตเพื่อให้เราจะได้ผ่อนคลายกล้ามเนื้อรอบดวงตาและกล้ามเนื้อรอบกระบอกตาค่ะ
2. กระพริบตาบ่อยๆ
ทำงานไปสักพักนึงหรือมองจอคอมพิวเตอร์สักพักต้องบังคับตัวเองให้กระพริบตาบ่อยๆ ค่ะ เพราะการกระพริบตาเป็นการกระตุ้นให้เกิดน้ำหล่อเลี้ยงดวงตาออกมาเคลือบตาเรามากขึ้น ซึ่งจะช่วยป้องกันตาแห้งและทำให้กล้ามเนื้อรอบตาผ่อนคลายไม่เกร็งตลอดเวลาค่ะ
3. อย่าใช้สายตาในที่มืด
ที่มืดหรือที่แสงน้อยสามารถทำให้ตาของเราเมื่อยล้าได้มากขึ้นกว่าเดิม เราจึงควรปรับแสงให้เหมาะสมกับการทำงานค่ะ บางครั้งเราอ่านหนังสือในที่มืดเกินไปทำให้ต้องเพ่งสายตา จึงควรจะเพิ่มแสงไฟในการอ่านหนังสือค่ะ แต่ถ้าเกิดอยู่ในที่ที่มีแสงสว่างมากๆ ก็แนะนำให้ใส่แว่นตาเพื่อช่วยลดแสงที่จ้ามากเกินไปค่ะ
4. นั่งให้ห่างหน้าจอ
สำหรับคนที่ทำงานอยู่หน้าจอคอมพ์ ควรนั่งให้ห่างจากหน้าจออย่างน้อยประมาณ 20 นิ้วค่ะ ซึ่งในระยะประมาณนี้จะทำให้สายตาเราสบายและไม่ปวดเมื่อยคอ ไม่ปวดหลังและไหล่ด้วย การมองใกล้มากเกินไปจะทำให้เราต้องเพ่งสายตามาก ส่งผลให้ตาล้าและเกิดอาการปวดหลังปวดไหล่ได้ค่ะ
.........................................
อัพเดทเทรนด์เมคอัพ แฟชั่น เคล็ดลับลดน้ำหนัก และไลฟ์สไตล์ผู้หญิงใหม่ๆ ทุกวัน
ได้ที่แอปพลิเคชัน ทรูไอดี ดาวน์โหลดเลยที่นี่!!
บทความที่คุณอาจสนใจ
3 วิธีจับเม้าส์แบบถูกต้อง + 5 ท่าบริหารข้อมือ ลดอาการปวดเมื่อยและบาดเจ็บ!
4 วิธีกดจุดแก้นิ้วล็อค แก้ได้ง่ายๆ ปลอดภัย ไม่เป็นออฟฟิศซินโดรม