5 วิธีรักษาตกขาว ด้วยตัวเอง ดูแลจุดซ่อนเร้นแบบอ่อนโยน ไม่ต้องใช้ยา ไม่ต้องหาหมอ

     เรื่องของสุขภาพบริเวณจุดซ่อนเร้น เป็นเรื่องที่สาวๆ จะต้องให้ความสนใจแล้วก็ใส่ใจเป็นพิเศษค่ะ เพราะว่าถึงแม้ว่าจะเกิดความผิดปกติเล็กๆ น้อยๆ ขึ้นมาก็ตาม แต่สุดท้ายก็อาจจะส่งผลให้กลายเป็นปัญหาใหญ่และลุกลามจนสุดท้ายก็จะกระทบกับสุขภาพของเราได้ค่ะ 

     โดยปกติภายในช่องคลอดของเรา ก็จะมีกลิ่นคาวอ่อนๆ อยู่แล้ว แต่ถ้าเมื่อไหร่ก็ตามที่เรารู้สึกว่ามีกลิ่นแรงมากเกินไป ก็อาจจะเป็นสัญญาณเตือนเบื้องต้นว่าเริ่มมีความผิดปกติแล้ว โดยสาเหตุที่ทำให้ช่องคลอดของเรามีกลิ่นได้ก็อาจจะมาจากอาหาร เช่น กระเทียม ปลาร้า ปูดอง อาหารหมักดองต่างๆ รวมไปถึงอาหารทะเล นอกจากนี้ยังมีเรื่องของเสื้อผ้าที่รัดมากๆ  ก็อาจจะทำให้น้องสาวของเราไม่ค่อยระบายอากาศ ทำให้เกิดการอับชื้น และเป็นสาเหตุที่ทำให้น้องสาวมีกลิ่นได้ และอีกสาเหตุที่ทำให้ช่องคลอดมีกลิ่นก็คืออาการตกขาวผิดปกติ โดยมาจากการที่ช่องคลอดอักเสบค่ะ

     แต่สิ่งที่เราจะต้องทำความเข้าใจกันก่อนก็คือ การตกขาวถือเป็นเรื่องปกติที่สามารถเกิดขึ้นได้ โดยปกติช่องคลอดของผู้หญิงจะมีค่า pH อยู่ที่ประมาณ 3.8-4.5 ซึ่งถือว่าเป็นกรดอ่อนๆ ค่ะ การที่มีค่า pH ประมาณนี้ จะเป็นการช่วยป้องกันเชื้อราและเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งเป็นสาเหตุของโรค ตกขาวแบบปกติของคนเราก็จะมีสีขาวหรือใส ขึ้นอยู่กับช่วงเวลานั้นของรอบเดือน แต่ถ้าเกิดว่าตกขาวมีสีเปลี่ยน มีกลิ่นเปลี่ยน หรือว่ามีอาการคันร่วมด้วย เช่น ตกขาวมีสีเขียว มีฟอง มีสีเหลืองหรือสีน้ำตาลแบบนี้แสดงว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้นแล้ว ซึ่งวันนี้เราก็ได้รวบรวม 5 วิธีดูแลจุดซ่อนเร้น ช่วยลดอาการตกขาวให้หายขาดได้ด้วยตัวเอง มีวิธีอะไรบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ

ตกขาวปกติ เป็นอย่างไร?

     ตกขาวปกติควรมีสีใสหรือขาว ไม่ควรมีกลิ่นเหม็น ตกขาวอาจเกิดขึ้นได้ขช่วงใกล้รอบเดือนและตลอดการมีรอบเดือน โดยลักษณะอื่น ๆ ของตกขาวปกติ ได้แก่:

• ลักษณะของตกขาว

     เป็นเรื่องปกติที่ตกขาวจะมีลักษณะเป็นน้ำและเป็นเมือกเหนียว ตกขาวมักเกิดจากฮอร์โมนในร่างกายของเราเปลี่ยนแปลง แต่ปัจจัยต่าง ๆ เช่น การติดเชื้อก็สามารถทำให้การตกขาวของเราเปลี่ยนแปลงได้เช่นกัน โดยตกขาวที่มีลักษณะเป็นก้อน เป็นฟอง หรือมีอาการคันและมีสีเปลี่ยนไป อาจเป็นสัญญานบ่งบอกถึงการติดเชื้อได้

• สีของตกขาว

     ตกขาวที่ไม่กระทบต่อสุขภาพควรมีสีใสหรือขาวขุ่น การตกขาวที่มีสีเหลืองเข้ม น้ำตาล เขียว หรือเทา อาจบ่งบอกถึงการติดเชื้อหรือมีปัญหาอื่น ๆ ได้

• กลิ่นของตกขาว

     ตกขาวอาจมีกลิ่นบ้างเล็กน้อย แต่ไม่ควรมีกลิ่นรุนแรงและไม่ควรมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ หากเราได้กลิ่นคาวมากหรือมีกลิ่นเหม็น และมาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงทั้งของลักษณะและสี อาจหมายถึงการติดเชื้อในช่องคลอด

• ปริมาณของตกขาว

     บางคนมีตกขาวในปริมาณมาก ในขณะที่บางคนมีน้อย ทั้งนี้อาจมีปัจจัยบางอย่างที่ทำให้ปริมาณตกขาวมากหรือน้อยต่างกันไป เช่น การตั้งครรภ์ การใช้ยาคุมกำเนิด หรือการตกไข่ก็อาจส่งผลต่อปริมาณตกขาวของเรา อย่างไรก็ตามหากเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันของปริมาณการตกขาว อาจหมายถึงมีบางอย่างผิดปกติ

5 วิธีรักษาตกขาว

1. ใส่เสื้อผ้าระบายอากาศ

     เลือกกางเกงชั้นในแบบที่ทำมาจากผ้าฝ้าย ก็ช่วยลดอาการกลิ่นอับชื้นได้ เพราะเนื้อผ้าแบบนี้สามารถระบายอากาศได้ดี ทำให้จุดซ่อนเร้นไม่อับชื้น ทำให้ไม่เกิดความเสี่ยงที่จะเป็นเชื้อราหรือติดเชื้อแบคทีเรีย รวมถึงต้องเลือกขนาดให้พอดี อย่ารัดมากเกินไป เพราะขนาดของกางเกงชั้นในก็มีผลในเรื่องของการช่วยระบายอากาศเช่นเดียวกันค่ะ

2. งดอาหารหมักดองและอาหารรสจัด

     อาหารหมักดองและอาหารรสจัด สามารถส่งผลให้น้องสาวของเรามีกลิ่นและตกขาวได้ รวมถึงอาหารทะเลด้วยค่ะ เพราะในอาหารทะเลอาจจะมีเชื้อแบคทีเรียที่ส่งผลให้เรามีตกขาวมากกว่าเดิม สาวๆ คนไหนที่ตอนนี้กำลังมีปัญหาตกขาวอยู่ก็ให้เลี่ยงอาหารเหล่านี้ไปก่อน นานๆ ค่อยกินสักทีจะดีกว่าค่ะ

3. ใส่ถุงยางขณะมีเพศสัมพันธ์

อาการตกขาวในบางครั้งก็เกิดจากปรสิตที่ชื่อว่า Trichomonas Vaginalis ซึ่งเป็นเชื้อที่ได้จากการมีเพศสัมพันธ์ โดยจะมาพร้อมกับสารคัดหลั่งและเป็นสาเหตุทำให้ตกขาวของเรามีกลิ่น เวลาปัสสาวะก็จะเจ็บ รวมถึงมีอาการคันร่วมด้วยค่ะ การใส่ถุงยางอนามัยขณะมีเพศสัมพันธ์จึงเป็นการป้องกันไม่ให้เรารับปรสิตตัวนี้เข้าไปค่ะ

4. ทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นให้ถูกวิธี

     สำหรับสาวๆ การทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นให้ถูกวิธีเป็นเรื่องที่สำคัญและช่วยป้องกันการตกขาวไได้ค่ะ โดยจะต้องล้างจากหน้าไปหลัง ไม่ควรล้างกลับไปกลับมา เพราะว่าอาจจะทำให้เชื้อ Ecoli ซึ่งเป็นเชื้อที่มากับอุจจาระเข้ามาที่ช่องคลอดได้ และก็จะเป็นสาเหตุทำให้ช่องคลอดของเรามีกลิ่นได้ค่ะ

5. เลือกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่เหมาะสม

     เราจำเป็นที่จะต้องเลือกผลิตภัณฑ์ทําความสะอาดจุดซ่อนเร้นหรือว่าผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดน้องสาวอย่างพิถีพิถันนะคะ เพราะว่าเป็นบริเวณที่อ่อนไหวได้ง่าย จึงจำเป็นต้องใช้ผลิตภัณฑ์ที่ความอ่อนโยน ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง ซึ่งการเลือกผลิตภัณฑ์เหล่านี้ให้เรามองหาส่วนผสมที่ชื่อว่า Lastic Acid ซึ่งเป็นเชื้อจุลินทรีย์ชนิดดี ที่ช่วยทำให้ภายในช่องคลอดของเรามีค่า pH ที่เหมาะสม นอกจากนี้ยังควรมองหาส่วนผสมที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื่น รวมถึงต้องไม่มีส่วนผสมของน้ำหอมและแอลกอฮอล์ค่ะ