รวม 4 สูตรลดน้ำหนักพร้อมข้อดี ข้อเสีย ลดแบบไหนอันตรายน้อยที่สุด

     สาวๆ ที่กำลังอยู่ในช่วงลดน้ำหนักนั้น มีหลายๆ คนทีเดียวที่ลดน้ำหนักได้สำเร็จและบางรายก็ไม่สำเร็จค่ะ แต่ละคนก็มีวิธีลดน้ำหนักที่ต่างกัน บางรายก็เลือกทำตาม สูตรลดน้ำหนัก ค่ะ ซึ่งสูตรลดน้ำหนักหรือทฤษฏีลดน้ำหนักนั้นมีหลายชนิดหลายแบบ แต่ละแบบก็มีรายละเอียดแตกต่างกันไป เราสามารถเลือกทำตามได้ตามความสะดวกของตัวเองค่ะ

     ซึ่งนอกจากจะเลือกทำตามความสะดวกของตัวเองแล้ว สูตรลดน้ำหนัก แต่ละสูตรก็ยังมีข้อดีและข้อเสียค่ะ สาวๆ ที่กำลังลดน้ำหนักอยู่จึงควรศึกษารายละเอียดให้ดี เพื่อที่จะได้ลองทบทวนดูว่าสูตรการลดน้ำหนักแต่ละประเภทนั้นแบบไหนที่เหมาะกับเราที่สุดค่ะ

สูตรลดน้ำหนัก: Atkins

     Atkins diet เป็นสูตรลดน้ำหนักที่เน้นการกินอาหารโปรตีนสูงและคาร์โบไฮเดรตต่ำค่ะ โดย Atkins นั้นเชื่อว่าการกินอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูงจะเป็นการกระตุ้นการหลั่งอินซูลินซึ่งมีผลต่อระดับความหิวและน้ำหนักตัว เมื่อกินอาหารที่มีคาร์บต่ำจึงทำให้เราสามารถลดความอยากอาหารและลดน้ำหนักลงได้ในที่สุด

ข้อดีของการลดน้ำหนักแบบ Atkins

     - ลดน้ำหนักลงได้เร็วในช่วง 3-6 เดือนแรก
     - สามารถลดระดับไขมัน LDL, ลดคอเลสเตอรอลและน้ำตาลในเลือดได้

ข้อเสียของการลดน้ำหนักแบบ Atkins

     - ไม่เหมาะกับผู้ป่วยโรคเบาหวาน
     - ไม่เหมาะกับการทำติดต่อกันในระยะยาว

สูตรลดน้ำหนัก: Ketogenic

     Ketogenic Diet หรือ Keto (คีโต) คือการลดน้ำหนักที่มุ่งให้กินอาหารประเภทไขมันประมาณ 75% โปรตีน 20% และคาร์โบไฮเดรตอีก 5% โดยต้องการให้ร่างกายเข้าสู่กระบวนการ Ketosis ซึ่งเป็นกระบวนการที่ร่างกายดึงไขมันมาใช้เป็นพลังงานหลักแต่จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อร่างกายไม่ได้รับคาร์โบไฮเดรตค่ะ อ่านเพิ่มเติมได้ที่ >> OMG! ลดหุ่นแบบ Ketogenic Diet กินไขมัน ก็ผอมได้ จริงเหรอ?  

ข้อดีของการลดน้ำหนักแบบ Ketogenic

     - สามารถเผาผลาญพลังงานจากไขมันได้
     - น้ำหนักลดลงเร็วในระยะแรก

ข้อเสียของการลดน้ำหนักแบบ Ketogenic

     - อาจเป็นการเพิ่มไขมันเลวในเลือดได้
     - ไม่เหมาะกับผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน, ผู้ที่เป็นโรคความดันโลหิตต่ำ

สูตรลดน้ำหนัก: Paleo

     Paleo Diet คือแนวทางการลดน้ำหนักโดยมุ่งกินอาหารตามแบบมนุษย์โบราณ โดย Paleo Diet จะเน้นไปที่การกินอาหารประเภทเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ปลา ผักและผลไม้ ถั่วและเมล็ดพืชต่าง ๆ เสมือนกับมนุษย์ยุคโบราณที่ออกไปหาอาหารค่ะ อาหารใน สูตรลดน้ำหนัก แบบนี้จะเน้นการกินอาหารที่ส่งตรงจากธรรมชาติ คาร์โบไฮเดรตต่ำและอาหารที่มีโปรตีนสูง ไม่แปรรูป ไม่ขัดสีและไม่ปรุงรสค่ะ

ข้อดีของการลดน้ำหนักแบบ Paleo

     - กินปกติ ไม่ต้องนับแคลอรี่
     - ช่วยลดไขมัน LDL, ลดไตรกลีเซอร์ไรด์, ลดน้ำตาลและความดันเลือดได้

ข้อเสียของการลดน้ำหนักแบบ Paleo

     - ไม่เหมาะกับผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวาน
     - ต้องใช้ความพิถีพิถันอย่างมากในการเลือกอาหาร จึงอาจจะทำให้กระทบกับชีวิตประจำวันได้

สูตรลดน้ำหนัก: Intermittent Fasting

     Intermittent Fasting หรือ IF คือการกินอาหารแบบจำกัดช่วงเวลา โดยจะมีช่วงอด (Fasting) และช่วงกิน (Feeding) ซึ่งการลดน้ำหนักแบบ IF นี้จะมีการอดอาหารและกินอาหารโดยการนับชั่วโมง ยกตัวอย่างเช่น 16/8 คือการอดอาหาร 16 ชั่วโมงและกินให้เสร็จภายใน 8 ชั่วโมงค่ะ ซึ่งสาวๆ สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ >> เทคนิคการกินลดหุ่น แบบ Intermittent Fasting (IF) ลดไขมันแบบรวดเร็ว ทำยังไงนะ?!

ข้อดีของการลดน้ำหนักแบบ Intermittent Fasting

     - ช่วยลดไขมันในร่างกายได้ เนื่องจากในช่วงอดอาหาร ร่างกายจะดึงพลังงานจากไขมันที่สะสมไว้มาใช้
     - ช่วยควบคุมโรคเบาหวาน, โรคความดันและคอเลสเตอรอล

ข้อเสียของการลดน้ำหนักแบบ Intermittent Fasting

     - ในระยะแรกอาจจะรู้สึกทรมานจากการอดอาหาร
     - นำไปสู่ปัญหาสุขภาพอื่นๆ ได้ เช่น ประจำเดือนมาไม่ปกติ, ฮอร์โมนไม่สมดุล, นอนไม่หลับ, เกิดความเครียดและอาจจะมีปัญหากับต่อมไทรอยด์

บทความที่คุณอาจสนใจ


15 วิธีลดความอ้วน สุดง่าย แบบฉบับสาวขี้เกียจ


8 ทริค ลดหุ่นง่ายๆ และได้ผล สำหรับสาววัย 30, 40 ขึ้นไป