3 กลุ่มอาการหลงเหลือหลังจากหายโควิด และวิธีดูแลตนเอง
ปัจจุบันมีผู้ที่หายจากโควิด-19 หลายรายและแพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้ว ซึ่งตามกฏระเบียบเราจำเป็นที่จะต้องกักตัวอยู่ที่บ้านอีกประมาณ 2 อาทิตย์ค่ะ โดยใน 2 อาทิตย์นี้ ผู้ป่วยอาจจะยังมีอาการหลงเหลืออยู่บ้าง แต่จะค่อยๆ หายไปได้เองภายในเวลาไม่นาน
อาการที่หลงเหลือจากโควิด-19 นี้ถึงจะสามารถหายไปได้เอง แต่อย่างไรเราก็ยังต้องมีการดูแลตัวเองเพิ่มเติมค่ะ ซึ่งหากเราไม่ดูแลตัวเองก็อาจจะเกิดอาการแทรกซ้อนจนต้องกลับไปพบแพทย์ได้เหมือนกัน วันนี้เรามาดูกันว่าหลังหายจากโควิดแล้ว อาการที่หลงเหลืออยู่จะมีอะไรบ้าง อาการแบบไหนที่ต้องระวังเป็นพิเศษและวิธีดูแลตัวเองให้หายจากอาการเหล่านี้จะสามารถทำได้อย่างไรบ้างค่ะ
3 กลุ่มอาการหลังจากหายโควิด และวิธีดูแลตนเอง
1. อาการทั่วไป
ปกติผู้ที่ป่วยจากโควิด-19 และคุณหมออนุญาตให้กลับบ้านแล้ว มักจะเป็นผู้ป่วยที่แข็งแรงแล้วและไม่มีอาการใดๆ ค่ะ แต่ในรายงานทางการแพทย์ก็ยังพบว่ามีกลุ่มคนที่ยังมีอาการทั่วไปหลงเหลืออยู่ เช่น ไอ เจ็บคอ หอบเหนื่อย พะอืดพะอม ไม่ได้กลิ่น ลิ้นชาไม่รับรส ซึ่งอาการเหล่านี้จะสามารถหายไปได้เองภายในเวลาประมาณ 4 อาทิตย์หรือ 1 เดือนค่ะ
วิธีการดูแลตัวเองของคนกลุ่มนี้จะสามารถทำได้เหมือนกับคนที่ป่วยเป็นไข้หวัดทั่วไป คือ พยายามกินอาหารที่ย่อยง่าย ดื่มน้ำเยอะๆ พักผ่อนเยอะๆ งดบุหรี่ งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และงดการออกกำลังกายหนักค่ะ
2. อาการทั่วไปแต่หายช้า
สำหรับคนที่อยู่ในกลุ่มความเสี่ยงสูง เช่น ผู้สูงอายุ ผู้ชาย ผู้ที่มีโรคประจำตัว ผู้ที่น้ำหนักเกินเกณฑ์ คนกลุ่มนี้เมื่อหายจากโควิด-19 แล้ว ก็อาจจะยังมีอาการทั่วไปหลงเหลืออยู่ และมีอาการเพิ่มเติมได้คือ ปวดเข่า อ่อนล้า อ่อนแรง อาหารไม่ย่อย ท้องเสีย ซึ่งอาการจะหายช้ากว่าคนกลุ่มแรกและมีแนวโน้มว่าอาจจะมีอาการหนักขึ้นได้ค่ะ
วิธีการดูแลตัวเองของคนกลุ่มนี้สามารถทำได้เหมือนกับข้อแรก แต่เพิ่มเติมคือต้องมีการพบแพทย์ร่วมด้วย เนทาองจากแพทย์จะจ่ายยาเพิ่มเติมเพื่อรักษาอาการแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นค่ะ
3. อาการทางจิตใจ
กลุ่มสุดท้ายคือกลุ่มผู้ที่อาจมีอาการทางจิตใจหลังจากที่หายจากโรคโควิด-19 ค่ะ แน่นอนว่าเมื่อเราผ่านเรื่องร้ายแรงมา ก็อาจจะทำให้เกิดภาวะเครียด ซึมเศร้า หรือเป็นทุกข์ใจ กังวลใจได้
ซึ่งสำหรับใครที่มีอาการเหล่านี้หรือรู้สึกว่ามีอาการเหล่านี้ ให้รีบไปพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและเข้ารับการรักษาโดยด่วน เพื่อไม่ให้มีอาการมากไปกว่าเดิมค่ะ เพราะภาวะทางจิตก็ถือเป็นโรคหนึ่งที่สามารถส่งผลกระทบถึงร่างกายของเราได้เช่นกัน
บทความที่คุณอาจสนใจ
- 5 ประเภทอาหารที่ต้องระวังเมื่อป่วยโควิด ทำให้อาการแย่ลง มีโรคแทรกซ้อน
- 9 ผักผลไม้ บำรุงปอด ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน สู้โรคร้าย ต้านมลภาวะ!