รีเซต

ยาธาตุแก้ท้องเสีย เลือกใช้อย่างไร? ให้ถูกต้อง

ยาธาตุแก้ท้องเสีย เลือกใช้อย่างไร? ให้ถูกต้อง
หมอดี
30 ธันวาคม 2565 ( 10:45 )
456
ยาธาตุแก้ท้องเสีย เลือกใช้อย่างไร? ให้ถูกต้อง

     ยาธาตุแก้ท้องเสียใช้รับประทานเพื่อทำลายเชื้อโรคในลำไส้ แก้ปวดท้อง แก้ท้องเสีย (อาการท้องเสียจากการติดเชื้อแบบไม่รุนแรง) แก้อาการท้องอืดท้องเฟ้อ จุกเสียดแน่นท้อง แต่ไม่ใช่ยาธาตุทุกชนิดที่ช่วยบรรเทาอาการท้องเสียได้  ดังนั้น ก่อนที่จะเลือกใช้ควรพิจารณาให้ดีก่อนว่ายาธาตุชนิดนั้นเป็นยาสำหรับแก้ท้องเสียหรือไม่?

 

 

ยาธาตุแก้ท้องเสีย เป็นแบบไหน ?

     เวลาท้องเสีย ยาที่เรามักจะนึกถึงอย่างแรกก็คือ ยาธาตุ เพราะเป็นยาที่กินง่าย ปลอดภัย และยังเป็นยาสามัญประจำบ้านที่ทุกบ้านต้องมีติดไว้ แต่หลายคนอาจไม่แน่ใจว่าต้องกินยาธาตุชนิดไหน เพราะมีทั้งยาธาตุน้ำแดงและยาธาตุน้ำขาว บางคนเข้าใจผิดว่ายาทั้งสองชนิดสามารถใช้แทนกันได้ ซึ่งจริง ๆ แล้ว ยาธาตุทั้ง 2 ชนิดมีคุณสมบัติแตกต่างกัน แล้วถ้าท้องเสียต้องใช้ยาธาตุชนิดไหนกันแน่ ? แอปฯ หมอดี มีข้อมูลของยาธาตุมาฝากกันค่ะ
 

1. ยาธาตุน้ำแดง

     ใช้เป็นยาขับลมในกระเพาะและลำไส้ ช่วยรักษาอาการท้องอืดท้องเฟ้อ จุกเสียด แน่นเฟ้อ เรอเหม็นเปรี้ยว อาเจียน เนื่องจากมีกรดในกระเพาะ ช่วยบรรเทาอาการปวดท้องเนื่องจากจุกเสียด ท้องอืด ท้องเฟ้อ นอกจากนี้ยัง มีผลกระตุ้นความอยากอาหารได้บ้าง

 

2. ยาธาตุน้ำขาว

     สรรพคุณของยาธาตุน้ำขาว ใช้รับประทานเพื่อทำลายเชื้อโรคในลำไส้ รักษาอาการอักเสบของลำไส้ แก้ปวดท้อง แก้ท้องเสีย (อาการท้องเสียจากการติดเชื้อแบบไม่รุนแรง) แก้อาการท้องอืดท้องเฟ้อ จุกเสียดแน่นท้อง ช่วยขับลม นอกจากนี้ยังช่วยเคลือบกระเพาะอาหารเพื่อการทำลายเชื้อโรคในลำไส้ หรือควบคุมเชื้อแบคทีเรียในกระเพาะอาหารที่เป็นต้นเหตุทำให้กระเพาะอาหารมีกรดมาก (แต่ยานี้ไม่ได้มีส่วนช่วยในการลดกรด)

     จะเห็นได้ว่าการเลือกใช้ยาธาตุทั้ง 2 ชนิดขึ้นอยู่กับสาเหตุของอาการปวดท้องที่เป็นอยู่ ไม่สามารถรักษาอาการปวดท้องได้ในทุกกรณี และสำหรับในกรณีที่ท้องเสีย ควรกิน “ยาธาตุน้ำขาว” เพราะยาธาตุน้ำแดงไม่มีส่วนช่วยในการแก้ท้องเสีย และที่สำคัญก่อนใช้ยาทุกครั้งแนะนำให้ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเพื่อความปลอดภัยต่อร่างกายนะคะ

 

 

ข้อควรระวังของการใช้ยาธาตุแก้ท้องเสีย

1. ห้ามใช้กับผู้ที่แพ้ยาแอสไพริน ถ้ามีประวัติแพ้ยาแอสไพรินก็อาจแพ้ยาธาตุแก้ท้องเสียได้เช่นกัน เพราะมีโครงสร้างยาคล้ายกัน
2. ผู้ที่แพ้สารซาลิไซเลต (Salicylate) ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานยาชนิดนี้
3. หญิงมีครรภ์หรือกำลังให้นมบุตรควรปรึกษาแพทย์ก่อนการใช้ยา เนื่องจากตัวยามีแอลกอฮอล์เป็นส่วนผสมอยู่ จึงควรใช้ยาด้วยความระมัดระวัง
4. ไม่ควรรับประทานยาธาตุแก้ท้องเสียพร้อมกับยาชนิดอื่นภายใน 2-4 ชั่วโมง เพราะอาจดูดซึมฤทธิ์ยาตัวอื่นจนทำให้ยาออกฤทธิ์ได้ไม่เต็มที่
5. ยามีส่วนผสมของเมนทอล (Menthol) อาจทำให้เกิดอาการปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียนได้  

 

     (จากรายงานอาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยาประจำปี พ.ศ.2550 ซึ่งได้รวบรวมข้อมูลไว้ตั้งแต่ปี พ.ศ.2525-2550 พบรายงานอาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยาที่ประกอบด้วย Salol + Anise oil + Menthol โดยอาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยาที่พบคือ ปากชา หน้าบวม ปากบวม ตัวบวม ผื่นชนิด Erythematous อย่างละ 1 รายงาน พบอาการคัน (Pruritus) และผื่น (Rash) อย่างละ 2 รายงาน และพบรายงานการเกิดผื่นชนิด Maculopapular rash และผื่นลมพิษ (Urticaria) อย่างละ 3 รายงาน)

สาระสุขภาพโดย พญ.ปวิตร วาสุเทพรังสรรค์

แพทย์แผนกอายุกรรม บนอป หมอดี

 


     หากคุณมีอาการท้องเสีย ปวดท้อง ไม่แน่ใจว่าต้องกินยาอะไร ไม่สะดวกเดินทางไป รพ.

สามารถปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรผ่านแอปฯ หมอดี ได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องไป รพ. พร้อมมีบริการจัดส่งยาถึงบ้าน

5 ขั้นตอนง่ายๆ ในการใช้แอปฯ หมอดี

  1. ดาวน์โหลดแอปฯ คลิก>>  https://mordee.app.link/mordee จากนั้นเลือกเมนูโปรไฟล์ เพื่อลงทะเบียนเข้าใช้งาน
  2. ไปที่หน้าแรกของแอปฯ กดแถบค้นหา  แล้วเลือกแผนกโรคทั่วไป หรือแผนกเภสัชกรรม
  3. เลือกแพทย์ที่ต้องการปรึกษา แล้วทำนัดหมาย โดยเลือกวันและเวลาที่ต้องการ แล้วเลือกรูปแบบการปรึกษาเป็น วิดีโอคอล โทร หรือ แชต จากนั้นทำการชำระเงิน หรือกรอกโค้ดส่วนลด (ถ้ามี)
  4. เข้าห้องสนทนาในแอปฯ เพื่อทำการปรึกษาแพทย์ เมื่อถึงเวลานัดหมาย
  5. รอสรุปผลการปรึกษาจากแพทย์ พร้อมใบสั่งยา(หากมี) โดยสามารถสั่งซื้อยา แล้วรอรับยาที่บ้านได้

💬 สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Line ID: @mordeeapp

👉👉 อ่านสาระสุขภาพจากอป หมอดี เพิ่มเติม คลิก >> https://mordeeapp.com/th/article

 

 

บทความที่คุณอาจสนใจ

 

บทความที่เกี่ยวข้อง