7 อาหารผิวสวย กินอะไรให้ผิวเปล่งปลั่ง กระจ่างใส มีน้ำมีนวล
หากต้องการที่จะมีผิวที่เปล่งปลั่งกระจ่างใสและดูสุขภาพดี บางคนอาจจะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหรือเลือกที่จะพึ่งพาคุณหมอให้ช่วยจัดการให้ แต่นอกเหนือจากนั้นคำตอบของการมีผิวที่ดีก็ก็คือการเลือกกินอาหารที่มีประโยชน์
ความงามเริ่มต้นจากภายใน อาหารที่เรากินเข้าไปก็มีผลกระทบอย่างมากต่อผิวของเราค่ะ และเช่นเดียวกัน การกินอาหารที่ไม่เป็นประโยชน์ การดื่มมากเกินไป หรือกินอาหารที่มีน้ำตาลสูง ก็สามารถนำไปสู่การเป็นสิวที่ก่อให้เกิดปัญหาต่อผิวได้
อาหารที่เหมาะสมกับผิว สามารถเร่งการฟื้นตัวของปัญหาผิวหลายอย่างได้ นอกจากนี้การเลือกอาหารอย่างถูกต้องยังเป็นวิธีที่ยั่งยืนและค่าใช้จ่ายต่ำ และยังสามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคอื่น ๆ ได้อีกด้วย และเพื่อให้เราเริ่มต้นขั้นตอนการบำรุงผิวจากภายใน วันนี้เราก็ได้รวบรวมสุดยอดอาหารบางอย่างที่ช่วยให้ผิวกระจ่างใสและเปล่งปลั่งขึ้น
7 อาหารเพื่อผิวเปล่งปลั่ง
1. มะรุม
มีผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหลายตัวที่เลือกใช้มะรุมเป็นส่วนประกอบ ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ออร์แกนิคหรือแบรนด์เวชสำอาง มะรุมกลายเป็นหนึ่งในส่วนผสมหลักในผลิตภัณฑ์ความงาม เพราะในมะรุมมีวิตามินเอ หรือ Retinol ตามธรรมชาติ มีวิตามินซี หรือ Ascorbic Acid ที่จัดเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งในมะรุมมีวิตามินซีมากกว่าส้มถึง 7 เท่า ช่วยเพิ่มการผลิตคอลลาเจนและต่อต้านอนุมูลอิสระที่นำไปสู่การแก่ก่อนวัย ช่วยต้านรอยเหี่ยวย่นและผิวหย่อนคล้อย นอกจากนี้น้ำมันมะรุมซึ่งมีมากในเมล็ดยังอุดมด้วยสารอาหารที่มีสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพ มีคุณสมบัติต้านการอักเสบซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการเกิดสิวและช่วยรักษาความชุ่มชื้นของผิว
2. ถั่วบราซิล
ด้วยระดับซีลีเนียมที่สูง ถั่วบราซิลจึงมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ทรงพลัง สามารถช่วยปกป้องผิวจากอนุมูลอิสระที่คอยทำร้าย ช่วยป้องกันการเกิดริ้วรอย และยังช่วยบำรุงให้ผิวเปล่งปลั่งสุขภาพดี ถั่วบราซิลยังมีสารที่ช่วยทำให้ผิวนวลเนียน ช่วยป้องกันความแห้งกร้านจากโรคผิวหนังได้ อย่างโรคเรื้อนกวางและโรคสะเก็ดเงิน รวมถึงยังช่วยลดการอักเสบที่เป็นสาเหตุของสิวด้วย
3. หอยนางรม
หอยนางรมเป็นหนึ่งในแหล่งสังกะสีที่สูงที่สุด ซึ่งเป็นแร่ธาตุที่สำคัญต่อการรักษาโครงสร้างที่สมบูรณ์ของผิวและเสริมสร้างคอลลาเจน นอกจากนี้หอยนางรมยังเป็นแหล่งที่ดีของวิตามินเอ วิตามินซี วิตามินอีและแร่ธาตุซีลีเนียม สารอาหารที่สำคัญเหล่านี้ยังสามารถลดความเสียหายจากอนุมูลอิสระ และช่วยปกป้องไขมันในผิวหนัง ช่วยเก็บกักความชุ่มชื้นและลดความแห้งกร้านของผิวได้
4. ธัญพืช
คาร์โบไฮเดรตขัดสีและอาหารแปรรูปมีความเชื่อมโยงกับการอักเสบและการเกิดสิว ดังนั้นการบริโภคอาหารประเภทนี้มากเกินไปจึงเป็นการทำลายผิว แต่กลับกันหากเราหันไปบริโภคธัญพืชไม่ขัดสี เช่น ควินัว ข้าวโอ๊ตบดละเอียด และข้าวกล้อง อาหารเหล่านี้สามารถช่วยป้องกันไม่ให้ฮอร์โมนอินซูลินพุ่งสูง และสามารถช่วยให้ร่างกายจำกัดการผลิตแอนโดรเจนซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ก่อให้เกิดสิว
5. ขมิ้น
สมุนไพรที่หาได้ง่ายในบ้านเราอย่างขมิ้นนั้นแทบจะถือได้ว่าเป็นยาอายุวัฒนะที่น่าอัศจรรย์ และยิ่งสำหรับปัญหาผิวแล้ว การบริโภคขมิ้นเป็นประจำก็สามารถช่วยได้ นอกจากจะช่วยคืนความเปล่งปลั่งตามธรรมชาติและช่วยรักษาโทนสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอแล้ว ขมิ้นยังช่วยลดการอักเสบและมีคุณสมบัติช่วยต้านแบคทีเรีย สามารถป้องกันการเกิดสิวได้ อีกหนึ่งคุณสมบัติที่สำคัญนั่นก็คืออุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันไม่ให้อนุมูลอิสระทำลายเซลล์ผิว และช่วยป้องกันการเกิดรอยดำและริ้วรอยก่อนวัย
6. ทับทิม
นอกจากจะอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ อย่างวิตามินซีและแอนโทไซยานินแล้ว ทับทิมยังมีโพลีฟีนอลที่ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระและช่วยควบคุมการไหลเวียนของเลือด เมื่อการไหลเวียนเลือดเป็นไปได้ดีก็จะทำให้ผิวเปล่งปลั่งสุขภาพดี ดูกระจ่างใสและมีน้ำมีนวลได้
7. ผักโขม
การรับประทานผักใบเขียวเข้ม เช่น ผักโขม คะน้า และบรอกโคลี สามารถช่วยฟื้นฟูเส้นผมของเราจากความแห้งกร้านได้ แต่นอกจากนี้ประโยชน์ของผักใบเขียวก็ยังรวมไปถึงผิวหนังด้วย ด้วยปริมาณของเบต้าแคโรทีนที่มีสูง ผักโขมช่วยซ่อมแซมเซลล์ผิว สามารถช่วยป้องกันความชรา ในเดียวกันก็ช่วยคืนความเปล่งปลั่งสุขภาพดี ผักโขมยังมีโฟเลต ซึ่งช่วยซ่อมแซม DNA ในขณะที่วิตามินเอซึ่งเป็นสารอาหารสำคัญในผักโขม ยังถือเป็นยารักษาสิวที่มีประสิทธิภาพอีกด้วย
บทความที่คุณอาจสนใจ
- 5 อาหารบำรุงผิว กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ผิวพรรณสดใส ดูอ่อนกว่าวัย
- 17 ผลไม้ที่ทำให้ผิวใส บำรุงผิวให้เปล่งปลั่ง อิ่มฟู ดูมีออร่า