ผลไม้ช่วยลดน้ำหนัก ! 5 ความเชื่อผิดๆ เรื่องผลไม้ลดอ้วน กินแบบไหนช่วยคุมน้ำหนัก
เมื่อพูดถึงเรื่องการกินเพื่อลดน้ำหนัก ปัจจุบันนี้มีทั้งข้อมูลที่เชื่อถือได้และข้อมูลเท็จมากมาย ซึ่งหนึ่งในข้อมูลที่น่าสนใจ คือการกินผลไม้เพื่อช่วยลดน้ำหนัก หลายข้อมูลกล่าวว่าผลไม้อาจเป็นทั้งอาหารที่ดีในการช่วยคุมน้ำหนักและในอีกทางหนึ่งก็อาจเป็นศัตรูตัวร้ายที่สุดหากเราบริโภคผลไม้ไม่ถูกวิธี หลายข้อมูลกล่าวถึงช่วงเวลาที่เราควรรับประทาน รวมไปถึงผลไม้ชนิดใดที่เราควรหลีกเลี่ยงโดยสิ้นเชิง แต่ข้อมูลไหนจริงและข้อมูลไหนที่ไม่จริง วันนี้เรามีคำตอบมาให้ค่ะ
5 ความเชื่อผิดๆ เรื่องผลไม้ช่วยลดน้ำหนัก
1. ไม่ควรกินผลไม้เพราะมีน้ำตาลสูง
ความเข้าใจผิดที่ใหญ่ที่สุดประการหนึ่งเกี่ยวกับการกินผลไม้ เพราะผลไม้มีรสหวานจึงทำให้มีน้ำตาลอยู่เป็นจำนวนมาก ดังนั้นจึงทำให้ผลไม้ไม่ดีสำหรับใครก็ตามที่กำลังลดน้ำหนัก อย่างไรก็ตาม ยังมีความแตกต่างระหว่างน้ำตาลธรรมชาติในผลไม้ (ฟรุกโตส) และอาหารที่มีน้ำตาล โดยปกติฟรุกโตสจะเป็นอันตรายเมื่อเราบริโภคในปริมาณมาก ซึ่งเป็นเรื่องยากที่จะได้รับมากเกินไปหากอยู่ในรูปแบบธรรมชาติจากผลไม้ ซึ่งสำหรับคนส่วนใหญ่ ปริมาณน้ำตาลในผลไม้ เราสามารถรับประทานได้อย่างปลอดภัย
ผลไม้ยังเป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการมากและให้สารอาหารอื่น ๆ ด้วย เช่น วิตามิน แร่ธาตุ สารต้านอนุมูลอิสระ และเส้นใยอาหาร นอกจากนี้ ยังมีปริมาณน้ำสูง ซึ่งหมายความว่าสามารถช่วยควบคุมความอยากอาหารและช่วยให้เรารู้สึกอิ่มนานขึ้น
2. ผลไม้ทำให้น้ำหนักเพิ่มเพราะมีคาร์โบไฮเดรตสูง
เป็นเรื่องจริงที่ผลไม้บางชนิดก็มีคาร์โบไฮเดรต แต่เป็นคาร์โบไฮเดรตที่ดีต่อสุขภาพ รวมถึงยังมีใยอาหาร ใยอาหารช่วยสนับสนุนการทำงานของไมโครไบโอมในลำไส้ซึ่งดีต่อสุขภาพ ช่วยให้เราอิ่มได้นานขึ้น ส่งเสริมการเคลื่อนไหวของลำไส้ และช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่ และยิ่งมีใยอาหารมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งดีต่อการลดน้ำหนักเท่านั้น ซึ่งผลไม้ก็เป็นแหล่งของใยอาหารตามธรรมชาติ นอกจากนี้เรายังไม่จำเป็นจะต้องหลีกเลี่ยงคาร์โบไฮเดรตในผลไม้ เพราะสารอาหารชนิดนี้ให้พลังงานแก่สมองและร่างกายของเรา รวมถึงยังช่วยสนับสนุนการทำงานของร่างกายตลอดจนการให้พลังงานเมื่อเราออกกำลังกายด้วย
3. อะโวคาโดทำให้อ้วน
ผลไม้ที่หลายคนตั้งคำถามโดยเฉพาะในช่วงกำลังพยายามลดน้ำหนักคืออะโวคาโด เพราะอะโวคาโดมีไขมันค่อนข้างสูง บางคนอาจคิดว่าจำเป็นที่จะต้องตัดอาหารกลุ่มไขมันออกเพื่อให้สามารถลดน้ำหนักได้ แต่ในความเป็นจริง การวิจัยแสดงให้เห็นว่าการบริโภคไขมันที่ดีต่อสุขภาพเป็นประจำ (เช่นที่พบในอะโวคาโด) สามารถช่วยควบคุมความอยากอาหารและช่วยให้เราได้อิ่มนานขึ้น ซึ่งหมายความว่า การรับประทานอะโวคาโด อาจทำให้เรามีแนวโน้มที่จะทานอาหารว่างน้อยลงและกินอาหารโดยรวมน้อยลงได้ และสามารถช่วยในการลดน้ำหนักได้
4. การกินสมูทตี้ผลไม้จะทำให้ไฟเบอร์หายไปและได้สารอาหารน้อยลง
การปั่นสมูทตี้ผลไม้ไม่ได้เป็นการทำลายเส้นใยหรือเปลี่ยนคุณสมบัติทางโภชนาการของผลไม้แต่อย่างใด เพราะสารอาหารในผลไม้บางชนิดอาจสูญเสียไปเมื่อผลไม้สัมผัสกับออกซิเจน แต่ก็ต้องใช้เวลากว่าจะสูญเสียคุณค่าทางโภชนาการ ดังนั้นหากเราปั่นสมูทตี้แล้วดื่มทันที เราก็ไม่จำเป็นต้องกังวลอะไร กลับกันการทำสมูทตี้อาจเป็นวิธีที่ดีในการที่ทำให้ร่างกายได้รับผลไม้และเส้นใยอาหารมากขึ้นในแต่ละวัน
5. ไม่ควรกินผลไม้ขณะท้องว่าง
ความเชื่ออีกประการหนึ่งเกี่ยวกับผลไม้ ก็คือการรับประทานในขณะท้องว่าง จะทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะ บางคนอาจเชื่อว่าจะทำให้การย่อยอาหารอื่น ๆ ช้าลง และก่อให้เกิดแก๊ส ท้องอืด และระบบย่อยอาหาร ในความเป็นจริง ผลไม้มีเส้นใยที่ละลายน้ำได้ อย่างเช่น แอปเปิ้ลและผลไม้จำพวกซิตรัสจะดูดน้ำในลำไส้ ทำให้เกิดเป็นเจล และทำให้การย่อยอาหารช้าลง แต่เหตุผลนี้กลับไม่ใช่สิ่งเลวร้าย เพราะใยอาหารในผลไม้ช่วยให้รู้สึกอิ่มและป้องกันไม่ให้น้ำตาลในเลือดพุ่งสูงขึ้นหลังรับประทานอาหาร ซึ่งสามารถช่วยควบคุมความอยากอาหารและน้ำหนักได้