2 เทคนิคหยุด โยโย่เอฟเฟกต์ ลดน้ำหนักได้แบบถาวรไม่ต้องกลัวน้ำหนักเด้ง
สาเหตุของการเกิดโรคอ้วนนั้น บางคนคิดว่ามาจากการกินอาหารมากๆ แต่ในความเป็นจริงแล้วความอ้วนจะเกิดขึ้นเมื่อมีความไม่สมดุลของพลังงานในร่างกายค่ะ กล่าวคือเมื่อเรารับพลังงานมากแต่มีการใช้พลังงานมากเช่นกัน ความสมดุลเกิดขึ้นจึงทำให้เราไม่อ้วน การที่ร่างกายได้รับพลังงานจากอาหารมากกว่าพลังงานที่เราจะใช้ออกได้หมด นั่นต่างหากจึงจะทำให้เกิดภาวะน้ำหนักเกินหรือโรคอ้วนในที่สุด เนื่องจากพลังงานส่วนที่เหลือจะถูกสะสมในรูปของไขมันนั่นเองค่ะ
โยโย่เอฟเฟกต์ หรือ Yoyo Effect ถือเป็นคำเรียกของภาวะน้ำหนักลงและขึ้นอย่างรวดเร็ว มักเกิดกับผู้ที่กำลังลดน้ำหนักหรือลดไปได้สักพักแล้ว แต่วิธีการลดน้ำหนักที่ผ่านมาไม่ถูกต้อง ทำให้ร่างกายรับและใช้พลังงานได้อย่างไม่สมดุล เมื่อลดน้ำหนักไปได้สักระยะจึงทำให้ไม่สามารถรักษาสภาวะน้ำหนักที่ลดลงไปได้อย่างถาวร ทำให้น้ำหนักกลับมาเท่าเดิมหรือมากกว่าเดิม ซึ่งวันนี้เรามี 2 เทคนิคในการหยุดร่างกายไม่ให้เกิดภาวะโยโย่เอฟเฟกต์มาให้ทุกคนลองไปทำตามกันดูค่ะ
2 เทคนิคหยุดโยโย่เอฟเฟกต์
1. คุมอาหารและออกกำลัง
สาเหตุหลักของการเกิด โยโย่เอฟเฟกต์ นั่นก็คือการลดน้ำหนักอย่างไม่ถูกต้อง ทั้งการคุมอาหารที่ไม่ถูกต้องและการออกกำลังกายที่ไม่ถูกต้อง เช่นการเลือกกินอาหารบางอย่างและไม่กินอาหารบางอย่างเพราะเชื่อว่าเป็นตัวการที่ทำให้น้ำหนักขึ้น การออกกำลังกายที่มากและหนักจนเกินไปโดยหวังว่าการออกกำลังนั้นจะช่วยเบิร์นไขมันที่สะสมไว้ออกไปได้มากๆ ไม่สมดุลกับการกินอาหารและการพักผ่อน ซึ่งเมื่อพฤติกรรมการลดน้ำหนักแบบนี้หยุดลงก็จะทำให้ร่างกายเข้าสู่ภาวะโยโย่เอฟเฟกต์ได้ เพราะฉะนั้นการหยุดไม่ให้เกิดภาวะโยโย่เอฟเฟกต์ตั้งแต่ในเริ่มแรกก็คือการลดน้ำหนักอย่างถูกวิธีโดยการเลือกกินอาหารและออกกำลังที่เหมาะสมค่ะ
2 ไม่ใช้ทางลัดในการลดน้ำหนัก
การลดน้ำหนักและการมีสุขภาพดีไปพร้อมๆ กันนั้นไม่มีทางลัดค่ะ สิ่งที่เราควรจะทำให้ได้นั่นก็คือการกินอาหารอย่างถูกต้องและการออกกำลังอย่างสมดุล การใช้ทางลัดอย่างเช่นการกินยาลดน้ำหนัก อาหารเสริมลดน้ำหนักนั้นหกาไม่อยู่ในการดูแลของแพทย์แล้ว บอกเลยว่าอันตรายมากๆ หากเราหาซื้อยามากินเองก็ยิ่งเลี่ยงที่จะเกิดภาวะโยโย่เอฟเฟกต์ได้ค่ะ
วิธีการที่ดีที่สุดในการลดน้ำหนักแล้วจะไม่เกิด โยโย่เอฟเฟกต์ นั่นก็คือการกินอาหารให้ถูกต้อง โดยต้องกินให้ครบหมวดหมู่และครบมื้ออาหาร รวมถึงต้องมีการอกกำลังอย่างเพียงพอ ไม่หนักหรือเบาเกินไป เลือกการออกกำลังที่ช่วยสร้างกล้ามเนื้อ เช่นการออกกำลังแบบเวทเทรนนิ่ง คู่ไปกับการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอเพื่อช่วยเสริมสร้างให้หัวใจและปอดแข็งแรง หากทำได้ตามนี้ก็ไม่ต้องกังวลว่าร่างกายจะเกิดภาวะโยโย่เอฟเฟกต์อีกเลยค่ะ
บทความที่คุณอาจสนใจ
ผอมถาวรไม่ต้องกลัวโยโย่...รวม 5 เทคนิค กินให้ผอม ไม่อดไม่ออกก็ผอมได้
3 เทคนิคแก้ระบบเผาผลาญพัง..โยโย่เอฟเฟค (YOYO Effect) แล้ว ทำอย่างไร?