7 วิธีลดค่าน้ำตาลสะสมในเลือด HbA1c ทำอย่างไรไม่ให้เสี่ยงโรคเบาหวาน
โรคเบาหวานเป็นโรคที่รุนแรงและหลายคนก็ไม่สามารถควบคุมได้ และอาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ได้มากมาย แต่หากเราสามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ ก็อาจลดความเสี่ยงได้เช่นกัน
HbA1c (Hemoglobin A1c) เป็นการตรวจที่ใช้วัดระดับน้ำตาลในเลือดเฉลี่ยช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา หากระดับ HbA1c สูง ก็อาจบ่งชี้ได้ว่าระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และอาจนำไปสู่ความเสี่ยงในการเกิดโรคเบาหวานและปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ได้
HbA1c คืออะไร
Hemoglobin A1c (HbA1c) เป็นการตรวจเลือดเพื่อดูระดับน้ำตาลในเลือดเฉลี่ยในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา ซึ่ง HbA1c จะเป็นข้อมูลที่บอกได้ว่าคุณจัดการกับน้ำตาลในเลือดได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่ และ HbA1c ยังเป็นค่าสำคัญที่บ่งบอกถึงความเสี่ยงในการเกิดโรคเบาหวาน การรักษาโรคเบาหวานได้ผลหรือไม่ รวมถึงยังเป็นค่าที่สามารถวิเคราะห์ถึงความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนที่เกิดจากระดับน้ำตาลในเลือดสูงได้อีกด้วย
เซลล์เม็ดเลือดแดงจะประกอบไปด้วยโปรตีนที่เรียกว่าฮีโมโกลบิน ซึ่งจะขนส่งออกซิเจนไปทั่วร่างกาย กลูโคสหรือน้ำตาลบางชนิดที่มีอยู่ในเลือดจับกับโมเลกุลของเฮโมโกลบิน และทำให้สามารถตรวจสอบระดับน้ำตาลในเลือดได้โดยการตรวจหาฮีโมโกลบิน ระดับน้ำตาลในเลือดโดยเฉลี่ยที่สูงขึ้นจะมาพร้อมกับระดับ HbA1c ที่สูงขึ้น ซึ่งระดับที่ได้นี้จะบอกถึงความเสี่ยงในการเกิดโรคเบาหวานและโรคที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ เช่น ความเสียหายของเส้นประสาท โรคไต และความเสียหายของดวงตา
โดยทั่วไปแล้ว ผล HbA1c ที่ 5.7% หรือน้อยกว่านั้นถือว่าปกติ แต่หากได้ค่าระหว่าง 5.7% - 6.4% ก็สามารถบ่งชี้ได้ว่ามีภาวะเสี่ยงที่จะเป็นโรคเบาหวาน และหากได้ค่าที่ 6.5% ขึ้นไป ก็จะบ่งชี้ได้ว่าเป็นโรคเบาหวานแล้ว อย่างไรก็ตามระดับ HbA1c อาจเปลี่ยนแปลงไปตามอายุและตัวแปรอื่น ๆ ของแต่ละบุคคล ซึ่งผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์จะเป็นคนอ่านค่าและให้คำแนะนำรวมถึงวางแผนควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อย่างเหมาะสมได้
7 วิธีลดระดับน้ำตาลสะสมในเลือด HbA1c
1. จัดการอาหาร
การรับประทานอาหารที่สมดุลและดีต่อสุขภาพสามารถช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ เน้นการบริโภคธัญพืช ผักผลไม้ และโปรตีน พยายามจำกัดการรับประทานอาหารแปรรูป เครื่องดื่มที่มีน้ำตาล และอาหารที่มีไขมันอิ่มตัว รวมถึงอาหารที่มีไขมันทรานส์สูง
2. ออกกำลังกายเป็นประจำ
การออกกำลังกายเป็นประจำจะช่วยให้ร่างกายใช้ฮอร์โมนอินซูลินได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งจะสามารถช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ในที่สุด โดยเราควรออกกำลังกายระดับปานกลางให้ได้อย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์
3. จัดการกับความเครียด
ความเครียดอาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นได้ ดังนั้นจึงควรพยายามจัดการความเครียดด้วยเทคนิคต่าง ๆ ให้ได้ เช่น การทำสมาธิ การหายใจเข้าและออกลึก ๆ และการเล่นโยคะก็มีประโยชน์อย่างมากในการช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
4. นอนหลับให้เพียงพอ
การอดนอนสามารถเพิ่มฮอร์โมนความเครียดและทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นได้ ดังนั้นจึงควรตั้งเป้าหมายการนอนหลับให้ได้อย่างน้อย 7 - 8 ชั่วโมงต่อคืน เพื่อเป็นการช่วยจัดการกับระดับน้ำตาลในเลือดอย่างง่าย ๆ
5. เลิกสูบบุหรี่
การสูบบุหรี่สามารถเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดและทำให้ยากต่อการจัดการโรคเบาหวาน การเลิกสูบบุหรี่จะสามารถช่วยให้ร่างกายลดระดับ HbA1c ได้และยังเป็นการทำให้สุขภาพโดยรวมดีขึ้นได้ด้วย
6. หมั่นตรวจระดับน้ำตาลในเลือด
การตรวจระดับน้ำตาลในเลือดเป็นประจำสามารถช่วยให้เราวางแผนรับประทานอาหาร ออกกำลังกายและดูแลตัวเองด้านอื่น ๆ ได้ เพราะเมื่อไหร่ที่เรารู้ว่าระดับน้ำตาลในเลือดสูง เราก็จะระวังและดูแลตัวเองเพื่อไม่ให้เสี่ยงกับโรคเบาหวาน
7. รับประทานยาตามที่กำหนด
หากคุณเป็นโรคเบาหวานแล้ว การพบแพทย์เพื่อวางแผนรักษาและรับยาเพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดถือเป็นสิ่งจำเป็น และเมื่อได้ยามารับประทานแล้วก็ควรทำตามที่กำหนด รับประทานตามที่แพทย์สั่งพร้อมไปกับการดูแลสุขภาพ
เหนือสิ่งอื่นใดสำหรับผู้ที่เป็นเบาหวาน ควรต้องดูแลร่างกายและร่วมมือกับแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลสุขภาพ เพื่อจะได้จัดการกับระดับน้ำตาลในเลือดและลดระดับ HbA1c ได้อย่างถูกวิธี หากต้องการคำแนะนำหรือพบแพทย์ออนไลน์เพื่อขอรับยาและวางแนวทางการรักษา คุณสามารถปรึกษาปัญหาสุขภาพกับแพทย์และผู้เชี่ยวชาญ พร้อมรับส่วนลด ผ่านแอปพลิเคชัน MorDee ได้เลย เพียงคลิกด้านล่าง
ปรึกษาปัญหาสุขภาพกับแพทย์และผู้เชี่ยวชาญ พร้อมรับส่วนลด ผ่านแอปพลิเคชัน MorDee
บทความที่คุณอาจสนใจ
- 3 วิธีลดน้ำตาลสะสมในเลือด ลดค่า HbA1c อย่างไร ให้สุขภาพดี๊ดี
- กินอะไรให้น้ำตาลสะสมลดลง 5 เครื่องดื่มลดน้ำตาลสะสม ควบคุมน้ำตาลในเลือด