รีเซต

4 แนวทาง วิธีแก้ผมบาง หัวล้านกรรมพันธุ์ อยากผมดก ต้องทำยังไง ?

4 แนวทาง วิธีแก้ผมบาง หัวล้านกรรมพันธุ์ อยากผมดก ต้องทำยังไง ?
aamyemily
27 พฤษภาคม 2568 ( 08:00 )
12.6K
1

     ใครที่กังวลใจเรื่องผมบาง วันนี้เรามี วิธีแก้ผมบาง หัวล้านกรรมพันธุ์ มาฝากกันค่ะ เพราะปัญหาศีรษะล้านจาก กรรมพันธุ์ เป็นเรื่องที่สร้างความกังวลใจให้กับทั้งผู้ชายและผู้หญิงจำนวนมาก นอกจากจะส่งผลต่อบุคลิกภาพแล้ว ยังอาจทำให้เสียความมั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวันอีกด้วย แม้ว่าปัจจัยทางพันธุกรรมจะเป็นตัวกำหนดหลัก

     แต่โชคดีค่ะ ที่เทคโนโลยีในปัจจุบันได้พัฒนาไปมาก ทำให้ตอนนี้มีวิธีรับมือและชะลอการหลุดร่วงของเส้นผม รวมถึงกระตุ้นการงอกใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากสาวๆ คนไหนกำลังเผชิญกับปัญหานี้ อย่าเพิ่งท้อใจค่ะ เพราะวันนี้จะพาคุณไปหาทางออกในการแก้ไขผมบางจากกรรมพันธุ์อย่างมีประสิทธิภาพกัน พร้อมแล้วมาดูกันเลยจ้า

 

 

ผมบาง หัวล้านกรรมพันธุ์ เกิดจากอะไร?

     ปัญหาผมบาง ศีรษะล้านจากกรรมพันธุ์ หรือที่เรียกว่า ภาวะผมร่วงจากพันธุกรรมและฮอร์โมน (Androgenetic Alopecia) ไม่ได้เกิดขึ้นจากพันธุกรรมเพียงอย่างเดียว แต่เป็นการทำงานร่วมกันของ ฮอร์โมนเพศชายดีไฮโดรเทสโทสเตอโรน (Dihydrotestosterone - DHT) และ ความไวของรากผมต่อฮอร์โมน DHT ซึ่งถูกกำหนดโดยยีนที่ส่งต่อมาจากบรรพบุรุษ

  • ในผู้ชาย : มักจะสังเกตเห็นแนวไรผมที่ถอยร่นขึ้นไปด้านบน หรือมีผมบางลงบริเวณกลางกระหม่อม (รูปตัว M หรือตัว U)
  • ในผู้หญิง : ผมมักจะบางลงทั่วทั้งหนังศีรษะ โดยเฉพาะบริเวณกลางศีรษะ แต่แนวไรผมด้านหน้ามักจะไม่ถอยร่นมากนัก

ฮอร์โมน DHT จะเข้าไปจับกับตัวรับ (Receptor) ที่รากผม ทำให้วงจรชีวิตของเส้นผมสั้นลง ผมที่งอกใหม่มีขนาดเล็กลง บางลง และอ่อนแอลงเรื่อยๆ จนในที่สุดรากผมฝ่อและไม่สามารถสร้างเส้นผมได้อีก

วิธีแก้ผมบาง หัวล้านกรรมพันธุ์

     การแก้ไขปัญหาผมบางจากกรรมพันธุ์มักจะต้องใช้หลายวิธีควบคู่กันไปค่ะ และต้องอาศัยความสม่ำเสมอ ความอดทนควบคู่ไปด้วย เนื่องจากเป็นภาวะที่เกี่ยวข้องกับพันธุกรรมและฮอร์โมน การรักษาจึงมุ่งเน้นไปที่การชะลอการหลุดร่วง กระตุ้นการงอกใหม่ และดูแลหนังศีรษะให้แข็งแรงขึ้น โดยมีแนวทางดังนี้เลยค่ะ

1. หลีกเลี่ยงความร้อนและสารเคมี

 

 

     เนื่องจากความร้อนจากอุปกรณ์จัดแต่งทรงผมบ่อยๆ และการทำเคมีกับเส้นผม เช่น การทำสี ดัด ยืด อาจทำให้ผมอ่อนแอและหลุดร่วงง่ายขึ้น

2. การรักษาทางการแพทย์และหัตถการ

 

 

  • การฉีด PRP (Platelet-Rich Plasma) : เป็นการนำเลือดของผู้ป่วยเองมาปั่นแยกเกล็ดเลือดและพลาสมาที่อุดมไปด้วย Growth Factor (สารกระตุ้นการเจริญเติบโต) จากนั้นนำมาฉีดกลับเข้าไปที่หนังศีรษะ เพื่อกระตุ้นการทำงานของรากผมและลดการอักเสบ
  • การฉีดสเตมเซลล์ (Stem Cell Therapy) : เป็นเทคโนโลยีใหม่ที่ใช้เซลล์ต้นกำเนิดมาฉีดบริเวณหนังศีรษะเพื่อฟื้นฟูและกระตุ้นการสร้างเซลล์ผมใหม่
  • การทำเลเซอร์บำบัด (Low-Level Laser Therapy - LLLT) : การใช้แสงเลเซอร์พลังงานต่ำฉายลงบนหนังศีรษะเพื่อกระตุ้นการทำงานของเซลล์รากผม ลดการอักเสบ และเพิ่มการไหลเวียนโลหิต
  • การปลูกผม : เป็นวิธีที่ให้ผลลัพธ์ถาวรที่สุด โดยการย้ายรากผมจากบริเวณที่มีผมหนาแน่น (เช่น ท้ายทอย) ไปปลูกในบริเวณที่ผมบางหรือล้าน มีทั้งเทคนิค FUE (Follicular Unit Extraction) และ FUT (Follicular Unit Transplantation)

3. การดูแลเส้นผมและหนังศีรษะอย่างถูกวิธี

 

 

  • ใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับคนผมบางโดยเฉพาะ : เลือกแชมพู ครีมนวด และเซรั่มที่ปราศจากซัลเฟต พาราเบน และสารเคมีรุนแรง ที่มีส่วนผสมของสารสกัดธรรมชาติที่ช่วยบำรุงหนังศีรษะและรากผม เช่น ไบโอติน สารสกัดจากโสม 
  • นวดหนังศีรษะ : การนวดเบาๆ ด้วยปลายนิ้วทุกวันจะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตบริเวณหนังศีรษะ ทำให้รากผมได้รับสารอาหารดีขึ้น

4. ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและวิถีชีวิต

 

 

  • จัดการความเครียด : เพราะความเครียดเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ส่งผลต่อการหลุดร่วงของเส้นผม การหาวิธีจัดการความเครียด เช่น การออกกำลังกาย โยคะ ทำสมาธิ จะช่วยลดผลกระทบต่อเส้นผม
  • นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ : การนอนหลับที่มีคุณภาพช่วยให้ร่างกายได้ฟื้นฟูตัวเอง รวมถึงการทำงานของรากผม
  • หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์จัด : พฤติกรรมเหล่านี้ส่งผลเสียต่อการไหลเวียนโลหิตและสุขภาพโดยรวม รวมไปถึงสุขภาพของเส้นผมด้วยเช่นกันนะคะ
  • รับประทานอาหารบำรุงผม : เน้นอาหารที่มีโปรตีนสูง เช่น เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ปลา ไข่ ถั่ว ธาตุเหล็ก สังกะสี ไบโอติน วิตามินดี และโอเมก้า 3 ซึ่งเป็นสารอาหารสำคัญต่อสุขภาพเส้นผม

 

บทความที่คุณอาจสนใจ

ยอดนิยมในตอนนี้

สิทธิประโยชน์แนะนำ

แท็กยอดนิยม

บทความที่เกี่ยวข้อง

ดาวน์โหลด ทรูไอดีแอป
ดาวน์โหลด ทรูไอดีแอป
สัมผัสโลกไร้ขีดจำกัดกับทรูไอดี