รีเซต

5 อาหารที่มีความหวานตามธรรมชาติ ลดความอยากน้ำตาล ลดอยากกินขนมหวาน

5 อาหารที่มีความหวานตามธรรมชาติ ลดความอยากน้ำตาล ลดอยากกินขนมหวาน
BeauMonde
7 พฤษภาคม 2566 ( 13:32 )
6.2K

     การบริโภคน้ำตาลโดยเฉพาะน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ ไม่ถือเป็นการบริโภคอาหารตามธรรมชาติ เราหลายคนรู้สึกเสพติดความหวานและมีการกินน้ำตาลมากขึ้นซึ่งสูงกว่าระดับที่แพทย์แนะนำไปมาก และทำให้หลายคนเป็นโรคตามมา

    แต่ก่อนที่เราจะพูดถึงโทษของน้ำตาล สิ่งสำคัญคือต้องชี้แจงว่าน้ำตาลไม่ได้เลวร้ายเสมอไป เพราะในความเป็นจริงมันมีความสำคัญต่อสุขภาพของเราเช่นกัน ร่างกายจะเปลี่ยนคาร์โบไฮเดรตเป็นกลูโคสซึ่งเป็นน้ำตาลรูปแบบหนึ่ง และกลูโคสนี่เองที่เป็นแหล่งพลังงานหลักเพื่อให้ร่างกายสามารถเคลื่อนไหวและเป็นพลังงานให้สมองของเราสามารถทำงานได้ตามปกติ ซึ่งหากไม่มีคาร์โบไฮเดรตและน้ำตาล คุณอาจพบปัญหาสุขภาพและอาการต่างๆ เช่น ไม่มีพลังงาน อ่อนเพลีย มีปัญหาการนอนหลับและไม่สามารถโฟกัสกับสิ่งต่าง ๆ ได้

    ดังนั้นเป้าหมายของเราจึงไม่ควรหลีกเลี่ยงน้ำตาลอย่างสิ้นเชิง แต่ควรบริโภคน้ำตาลให้ถูกประเภทจะดีกว่า อาหารในปัจจุบันหลายชนิดมีส่วนประกอบเป็นน้ำตาลที่เติมเข้าไป ไม่ว่าจะเป็นน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ และน้ำเชื่อมข้าวโพดฟรุกโตสสูง น้ำตาลเหล่านี้มักเป็นส่วนผสมทั่วไปในโซดา ขนม ขนมปัง และเครื่องปรุงรส และหากเราบริโภคน้ำตาลเหล่านี้มากเกินไปก็อาจนำไปสู่ปัญหาทางสุขภาพที่ร้ายแรงได้ เช่น เกิดภาวะความดันโลหิตสูง เกิดโรคเบาหวาน และโรคไขมันพอกตับ

 

ปรึกษาปัญหาสุขภาพกับแพทย์และผู้เชี่ยวชาญ พร้อมรับส่วนลด ผ่านแอปพลิเคชัน MorDee 

 

     ในทางตรงกันข้าม น้ำตาลจากธรรมชาตินั้นมักไม่ค่อยผ่านกระบวนการผลิต การทำให้บริสุทธิ์หรือผ่านการแปรรูปมากเท่าไหร่นัก และพบได้ตามธรรมชาติในอาหารหลายชนิด ตัวอย่างเช่น ผลไม้ ซึ่งผลไม้ถึงแม้จะมีน้ำตาลฟรุกโตสแต่ก็มีไฟเบอร์สูงด้วยเช่นกัน และสามารถให้สารอาหารที่ดีต่อร่างกาย น้ำผึ้งและน้ำเชื่อมเมเปิ้ลมีรสหวานตามธรรมชาติ แต่ยังอุดมไปด้วยแร่ธาตุ วิตามิน และสารต้านอนุมูลอิสระ

 

 

5 อาหารที่มีความหวานตามธรรมชาติ

 

1. น้ำผลไม้

 

 

     น้ำผลไม้เป็นอาหารที่ให้ความหวานตามธรรมชาติ ซึ่งเราสามารถนำไปเป็นเครื่องดื่ม หรือเป็นเครื่องปรุงรส ใช้ในการปรุงอาหาร ถึงแม้ว่าการดื่มน้ำผลไม้ 100% มากเกินไปจะเป็นอันตรายต่อร่างกายได้ แต่อย่างไรก็เป็นตัวเลือกที่ดีกว่าน้ำตาลทรายหรือน้ำเชื่อมฟรุกโตส เนื่องจากน้ำผลไม้ถือเป็นอาหารจากธรรมชาติและไม่ผ่านการแปรรูป นอกจากนี้ยังมีวิตามินและสารอาหารมากมาย

 

2. น้ำผึ้ง

 

 

     น้ำผึ้งมักเป็นอาหารที่ถูกใช้แทนน้ำตาลทรายในบางครั้ง เพราะไม่เพียงแต่จะให้ความหวานตามธรรมชาติแล้ว แต่ก็มีคุณค่าทางโภชนาการอีกด้วย เนื่องจากผึ้งผลิตน้ำหวานจากพืช น้ำผึ้งจึงมีสารประกอบจากพืชที่เป็นประโยชน์และสารต้านอนุมูลอิสระมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือการที่น้ำผึ้งอุดมไปด้วยสารฟลาโวนอยด์และฟีนอล สารเหล่านี้ให้ประโยชน์มากมายต่อร่างกาย และสามารถช่วยบำรุงหัวใจและหลอดเลือด ปรับการทำงานของระบบทางเดินอาหารและระบบทางเดินหายใจให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

 

3. น้ำเชื่อมเมเปิ้ล

 

 

     อาหารที่ให้ความหวานตามธรรมชาติอีกชนิดที่ค่อนข้างเป็นที่นิยมคือน้ำเชื่อมเมเปิ้ล โดยเฉพาะการนำไปรับประทานคู่กับแพนเค้ก น้ำเชื่อมชนิดนี้มาจากน้ำตาลของต้นเมเปิ้ล มันมีสารต้านอนุมูลอิสระและแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ และยังมีสารประกอบพิเศษอีกหลายชนิดที่มีเฉพาะในน้ำเชื่อมเมเปิลซึ่งสามารถช่วยต่อต้านมะเร็งและเบาหวานได้

 

4. หญ้าหวาน

 

 

     หากไม่ชอบรสชาติของน้ำเชื่อมเมเปิ้ลหรือน้ำผึ้ง แต่ยังต้องการเพิ่มความหวานให้กับเครื่องดื่มและอาหาร หญ้าหวานเป็นน้ำตาลธรรมชาติและถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีที่ควรลอง และหญ้าหวานยังมีความหวาน มากกว่าน้ำตาลทรายทั่วไป ถึง 200 - 400 เท่า หญ้าหวานเป็นสารทดแทนน้ำตาลที่ไม่มีคุณค่าทางโภชนาการ หมายความว่าหญ้าหวานแทบไม่มีแคลอรีเลย หญ้าหวานยังมีส่วนช่วยในการลดน้ำตาลในเลือดและลดคอเลสเตอรอลอีกด้วย

 

5. หล่อฮังก๊วย

 

 

     หล่อฮังก๊วยเป็นอาหารที่ให้ความหวานจากพืชอีกชนิดหนึ่งที่สามารถใช้ทดแทนน้ำตาลทรายได้ หล่อฮังก๊วยเป็นผลไม้ทรงกลมที่พบได้ทั่วไปในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แม้ว่าผลไม้ชนิดนี้จะมีฟรุกโตสและกลูโคส แต่จริง ๆ แล้วน้ำตาลทั้ง 2 ชนิดนี้มีกจะหายไปในช่วงกระบวนการสกัด และทำให้ได้สารให้ความหวานที่ไม่มีคุณค่าทางโภชนาการ และมีความหวานมากกว่าน้ำตาลทรายทั่วไปถึง 100 เท่า แต่นอกจากนี้ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระซึ่งสามารถช่วยในเรื่องสุขภาพภูมิคุ้มกันและการป้องกันมะเร็ง และสารให้ความหวานที่ไม่มีคุณค่าทางโภชนาการก็มักมีส่วนช่วยในการควบคุมน้ำหนักและป้องกันโรคเบาหวานได้อีกด้วย

 

บทความที่คุณอาจสนใจ

 

บทความที่เกี่ยวข้อง