เช็กอาการป่วย เจ็บคอ ไอแห้ง ๆ ป่วยธรรมดา หรือเป็น COVID-19
เชื่อว่าหลาย ๆ คนในช่วงเวลานี้ กำลังรู้สึกวิตกกังวลกันอยู่อย่างแน่นอน เพราะจากข้อมูลข่าวสารในสื่อออนไลน์ที่เกี่ยวกับตัวเลขผู้ป่วย หรือผู้ติดเชื้อจาก ไวรัสโควิด-19 นั้นยังคงมีอัตราพุ่งขึ้นสูงอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ขณะนี้บางประเทศจะมีจำนวนผู้ป่วยลดลงแล้ว แต่ก็ยังคงมีอีกหลายประเทศด้วยกันที่ตัวเลขยังคงเพิ่มขึ้นอย่างไม่ลดละ เพียงแค่คุณเริ่มมีอาการไอ เจ็บคอ ก็ต่างคิดไปไกลว่าตนเองมีเชื้อไวรัสนี้เสียแล้ว ดังนั้น เราลองมารู้จักวิธีการสังเกตอาการกันดีกว่า ว่าไอแบบไหนคืออาการไข้หวัดธรรมดา และไอแบบไหนคืออาการสุ่มเสี่ยงที่จะติด เชื้อ COVID-19 ได้
ไวรัสโควิด-19 (COVID-19) ส่งผลอย่างไรกับร่างกายเราได้บ้าง
เป็นที่ทราบกันดีว่า COVID-19 มีผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจเป็นอย่างมาก แบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลักๆ คือ ระบบหายใจส่วนบน ที่อยู่ช่วงจมูกจนถึงลำคอ และ ทางเดินหายใจส่วนล่าง ที่ไวรัสได้ลงลึกเข้าไปเข้าสู่หลอดลมจนถึงปอด ทำให้ปอดได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง จนอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้
โดยไวรัสชนิดนี้มีระยะฟักตัวประมาณ 14 วัน ขึ้นอยู่กับสุขภาพร่างกายของผู้ป่วยที่ได้รับเชื้อแต่ละคน และจำเป็นต้องอยู่ให้ห่างจากคนอื่น ๆ ให้ได้มากที่สุด เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วผู้ที่ควรเฝ้าระวังอย่างเคร่งครัดเห็นได้ว่าจะเป็นผู้สูงอายุ รวมถึงที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ และผู้มีอาการที่เกี่ยวข้องกับทางเดินหายใจทั้งหมด
อาการ ระคายคอ เจ็บคอ ไอ แบบไหนใช่ หรือ ไม่ใช่ COVID-19
อาการหลักที่คุณสามารถเช็กตนเองได้ในเบื้องต้น ควรเริ่มจากการวัดอุณหภูมิในร่างกายของตนเองว่ามีไข้สูงเกินไปหรือไม่ จากนั้นเช็กตนเองจากระบบหายใจ หากมีอาการเหนื่อยหอบ หรือเมื่อยล้าควรเริ่มเฝ้าระวังและกักตัวเองในทันที นอกจากอาการข้างต้นแล้ว ยังมีอีกหนึ่งสิ่งที่ทุกคนพึงระวังเช่นกัน นั่นก็คือ อาการไอแห้ง ที่เป็นพาหะชั้นดีในการแพร่กระจายเชื้อไปสู่คนที่อยู่ใกล้ตัว รวมถึงวัตถุรอบข้างตัวคุณ ซึ่งการไอ 1 ครั้ง มีแรงส่งให้ละอองเชื้อ COVID-19 นี้ไปได้ไกลถึง 6 ฟุต หรือ 1-2 เมตรเลยทีเดียว แต่จะแยกอาการอย่างไรว่าเราเพียงแค่ไอเพราะเกิดจากการระคายเคืองในลำคอ หรือไอเพราะมีเชื้อ COVID-19 อยู่
ตามข้อมูลขององค์การอนามัยโลก (WHO)ได้ระบุไว้ว่าอาการที่ผู้ได้รับเชื้อจากไวรัส COVID-19 จะมีอาการไอแห้งค่อนข้างรุนแรง ไข้สูงต่อเนื่องเป็นเวลาหลายวัน เจ็บคอ หายใจถี่ ปวดเมื่อยตามร่างกายอย่างรุนแรง และมีอาการท้องเสีย
ส่วนอาการของผู้ที่เป็นหวัดธรรมดานั้น อาจมีไข้ เจ็บคอ เช่นเดียวกัน แต่แตกต่างกันตรงที่ อาการ เจ็บคอ ไอแห้ง นั้น บางรายอาจกลับกลายเป็นไอแบบมีเสมหะ รวมถึงมีอาการจาม น้ำมูกไหล อีกด้วย โดยทางเลือกในการบรรเทาและรักษาอาการไอแบบมีเสมหะ คือ การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีตัวยา อะเซทิลซิสเทอีน (Acetylcysteine) เป็นส่วนประกอบ
ถึงอย่างไรก็คงจะชะล่าใจกันไม่ได้ ไม่ว่าคุณจะเป็นเพียงแค่ไข้หวัด หรือมีเชื้อภายในร่างกาย ละอองน้ำลายจากการไอก็สามารถแพร่เชื้อให้ผู้อื่นได้อยู่ดี ทั้งนี้คุณควรที่จะเข้าขอรับการตรวจจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงอยู่ให้ห่างจากผู้อื่นตามระยะเวลาที่กำหนดเพื่อเฝ้าดูอาการ อย่ารับประทานอาหารจากภาชนะเดียวกันกับคนรอบข้าง หากต้องรับประทานอาหารร่วมกับผู้อื่นควร ใช้ช้อนกลาง และป้องกันการแพร่เชื้อโดยการใส่หน้ากากอนามัยไว้ รวมไปถึงการล้างมือบ่อย ๆ
บรรเทาอาการ ระคายคอ เจ็บคอ ไอแห้ง ที่ทำได้ด้วยตัวคุณเอง
กรณีที่คุณเจ็บป่วยธรรมดา และเริ่มมีอาการระคายเคืองบริเวณลำคอ จนทำให้เกิดอาการเจ็บคอ หรือมีอาการ คันคอ เบื้องต้น คุณสามารถรักษาตนเองได้ด้วยวิธีง่าย ๆ ดังต่อไปนี้
- เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ งดน้ำเย็น รับประทานอาหารและเครื่องดื่มที่มีอุณหภูมิอุ่นหรือร้อน เช่น ซุป น้ำผึ้งผสมมะนาว ชา
- หลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นที่ทำให้เกิดอาการไอ และขัดขวางการทำงานของระบบหายใจ เช่น ควันจากบุหรี่ น้ำหอม ละอองเกสรดอกไม้ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดในครัวเรือน หรือขนสัตว์
- หมั่นกลั้วคอด้วยน้ำเกลือที่มีสรรพคุณการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ลดการระคายเคืองในช่องปากและลำคอ สามารถทำได้โดยผสม เกลือ ½ – 1 ช้อน ในน้ำอุ่น 8 ออนซ์ (ประมาณ 1 แก้ว) และใช้กลั้วคอประมาณ 30 วินาที ก่อนที่จะบ้วนออก สูตรนี้ไม่แนะนำให้เด็กทำ เพื่อป้องกันการกลืนน้ำเกลือที่อาจเกิดขึ้น
- เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ สเปรย์บรรเทาอาการเจ็บคอ ยาพ่นคอ หรือยาอม ที่สามารถพกพาได้ง่าย และมีส่วนประกอบที่สำคัญจากสมุนไพร อย่าง ดอกคาโมไมล์ (Chamomile) เปปเปอร์มินต์ (Peppermint) น้ำมันมะกรูด น้ำมันยูคาลิปตัส เป็นต้น
แต่ในช่วงที่เชื้อไวรัส COVID-19 กำลังแพร่ระบาดอยู่นี้ หากสังเกตได้ว่าคุณมีอาการไอที่รุนแรงขึ้น และเจ็บคอจนกระทั่งทานอาหาร หรือกลืนอาหารลำบากเป็นระยะเวลานาน โปรดปรึกษาแพทย์เฉพาะทางทันที เพราะนั่นอาจเป็นสัญญาณเตือนว่าร่างกายคุณกำลังมีเชื้อ COVID-19 อยู่ก็เป็นได้
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำปรึกษาด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด