รีเซต

7 อาหารมีวิตามินบี 2 หรือ ไรโบฟลาวิน ลดอาการปวดไมเกรน ดีต่อสุขภาพผิวหนัง

7 อาหารมีวิตามินบี 2 หรือ ไรโบฟลาวิน ลดอาการปวดไมเกรน ดีต่อสุขภาพผิวหนัง
pommypom
25 มีนาคม 2565 ( 17:05 )
14.5K

     วิตามินบี 2 หรือ ไรโบฟลาวิน (Riboflavin) เป็นวิตามินที่ร่างกายควรได้รับอย่างพอเหมาะและไม่ควรขาด เนื่องจากมีประโยชน์ต่อร่างกายหลายๆ ด้านด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น การช่วยบรรเทาอาการปวดไมเกรน, บำรุงผิวพรรณ เส้นผมและเล็บ, บำรุงสายตา เพิ่มประสิทธิภาพในการมองเห็น ลดอาการตาล้า, รักษาโรคปากนกกระจอก ลดอาการเจ็บแสบในปาก ริมฝีปาก และลิ้น, เสริมสร้างการเจริญเติบโต ดีต่อระบบสืบพันธุ์ รวมถึงยังสามารถทำงานร่วมกับสารตัวอื่นๆ เพื่อช่วยเผาผลาญอาหารจำพวกแป้ง ไขมัน และโปรตีน ได้อีกด้วย

 

 

1. เนื้อวัว

     เนื้อวัว ตัดแบบสเต็กกระโปรง (Skirt steak) 100 กรัม มีไรโบฟลาวิน หรือ วิตามินบี 2 ประมาณ 0.9 มิลลิกรัม หรือ 66% DV (ร้อยละของปริมาณที่แนะนำต่อวัน) สำหรับใครที่กลัวไขมันในเนื้อวัว แนะนำให้กินแบบลีนค่ะ ซึ่งถือเป็นแหล่งของวิตามินบีที่ดี รวมไปถึงไรโบฟลาวิน หรือ วิตามินบี 2 ด้วยเช่นกัน โดยวิตามินบีจะไม่ได้ถูกเก็บไว้ในไขมัน ดังนั้นการกินเนื้อลีนก็ทำให้เราได้รับวิตามินบี 2 ได้ อีกทั้งตับวัวและไตวัว ก็ถือเป็นแหล่งของวิตามินบี 2 เช่นกันค่ะ โดยเฉพาะตับวัวที่ยังมีวิตามินบี 12 และโฟเลตอีกด้วย

 

 

2. ผลิตภัณฑ์จากนม

     นมและผลิตภัณฑ์จากนม เช่น ชีส โยเกิร์ต ก็เป็นแหล่งของวิตามิบี 2 หรือ ไรโบฟลาวินเช่นกันค่ะ โดยนมไขมันต่ำ 100 กรัม มีวิตามิบี 2 ประมาณ 0.2 มิลลิกรัม หรือ 14% DV (ร้อยละของปริมาณที่แนะนำต่อวัน) อีกทั้งนมและโยเกิร์ตยังถือเป็นแหล่งของแคลเซียมและโปรตีนอีกด้วย สำหรับชีส แนะนำเป็นเฟต้าชีส (Feta cheese) หรือชีสที่ทำจากนมแกะ เนื่องจากเป็นแหล่งของโปรตีน วิตามินบี รวมไปถึงไรโบฟลาวินด้วยเช่นกันค่ะ

 

 

3. ปลาแซลมอน

     ปลาแซลมอน 100 กรัม มีวิตามินบี 2 หรือ ไรโบฟลาวิน 0.5 มิลลิกรัม หรือ 37% DV (ร้อยละของปริมาณที่แนะนำต่อวัน) อีกทั้งแซลมอนยังถือเป็นแหล่งของกรดไขมันโอเมก้า 3 และโปรตีนที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอีกด้วย โดยเฉพาะปลาแซลมอนที่ถูกจับตามธรรมชาติ ซึ่งจะถือได้ว่ามีสารอาหารที่เยอะกว่ามากค่ะ

 

 

4. เห็ด

     สำหรับใครที่อยากได้รับวิตามินบี 2 หรือ ไรโบฟลาวิน แต่ไม่อยากกินเนื้อสัตว์ เห็ดเป็นตัวเลือกแนะนำเลยค่ะ เพราะเห็ดถือเป็นแหล่งของวิตามินบี 2 ที่ดี โดยเห็ด 100 กรัม มีวิตามินบี 2 ประมาณ 0.5 มิลลิกรัม หรือ 36% DV (ร้อยละของปริมาณที่แนะนำต่อวัน) ซึ่งเห็ดที่แนะนำ เช่น เห็ดกระดุม เห็ดชิตาเกะหรือเห็ดหอม รวมถึงเห็ดพอร์โทเบลโลด้วยค่ะ

 

 

5. ปวยเล้ง

     ผักใบเขียวอย่าง ปวยเล้ง 100 กรัม อุดมไปด้วยวิตามินบี 2 หรือ ไรโบฟลาวิน 0.2 มิลลิกรัม หรือ 18% DV (ร้อยละของปริมาณที่แนะนำต่อวัน) เรียกได้ว่าปวยเล้ง ถือเป็นผักที่อุดมไปด้วยสารอาหารมากมายในบรรดาผักใบเขียวด้วยกันเลยล่ะค่ะ

 

 

6. อัลมอนด์

     อัลมอนด์ 100 กรัม มีวิตามินบี 2 หรือ ไรโบฟลาวิน 1.1 มิลลิกรัม หรือ 88% DV (ร้อยละของปริมาณที่แนะนำต่อวัน) ซึ่งนอกจากอัลมอนด์จะเป็นแหล่งของวิตามินบี 2 ที่ดีแล้ว อัลมอนด์ยังถือเป็นแหล่งของโปรตีน ไฟเบอร์ รวมถึงไขมันดีอีกด้วย

 

 

7. ไข่

     ไข่ 100 กรัม มีวิตามินบี 2 หรือ ไรโบฟลาวิน 0.5 มิลลิกรัม หรือ 39% DV (ร้อยละของปริมาณที่แนะนำต่อวัน) โดยเฉพาะไข่แดง ที่ถือว่าเป็นแหล่งของวิตามินบี 2 สูง แต่สำหรับใครที่กลัวคอเลสเตอรอลในไข่แดง แนะนำให้กินเป็นไข่ทั้งฟองจะดีกว่าค่ะ

 

 

 

บทความที่คุณอาจสนใจ

ยอดนิยมในตอนนี้

สิทธิประโยชน์แนะนำ

แท็กยอดนิยม

บทความที่เกี่ยวข้อง