7 อาหารมีวิตามินบี 2 หรือ ไรโบฟลาวิน ลดอาการปวดไมเกรน ดีต่อสุขภาพผิวหนัง
วิตามินบี 2 หรือ ไรโบฟลาวิน (Riboflavin) เป็นวิตามินที่ร่างกายควรได้รับอย่างพอเหมาะและไม่ควรขาด เนื่องจากมีประโยชน์ต่อร่างกายหลายๆ ด้านด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น การช่วยบรรเทาอาการปวดไมเกรน, บำรุงผิวพรรณ เส้นผมและเล็บ, บำรุงสายตา เพิ่มประสิทธิภาพในการมองเห็น ลดอาการตาล้า, รักษาโรคปากนกกระจอก ลดอาการเจ็บแสบในปาก ริมฝีปาก และลิ้น, เสริมสร้างการเจริญเติบโต ดีต่อระบบสืบพันธุ์ รวมถึงยังสามารถทำงานร่วมกับสารตัวอื่นๆ เพื่อช่วยเผาผลาญอาหารจำพวกแป้ง ไขมัน และโปรตีน ได้อีกด้วย
- วิตามินบี มีอะไรบ้าง วิตามินบีไหน ช่วยอะไรบ้าง พร้อมลิสต์อาหารที่มีวิตามินบี
- 6 อาหารวิตามินบีรวมสูง วิตามินบีจำเป็น 8 ชนิด บำรุงร่างกาย สมอง ระบบประสาท
1. เนื้อวัว
เนื้อวัว ตัดแบบสเต็กกระโปรง (Skirt steak) 100 กรัม มีไรโบฟลาวิน หรือ วิตามินบี 2 ประมาณ 0.9 มิลลิกรัม หรือ 66% DV (ร้อยละของปริมาณที่แนะนำต่อวัน) สำหรับใครที่กลัวไขมันในเนื้อวัว แนะนำให้กินแบบลีนค่ะ ซึ่งถือเป็นแหล่งของวิตามินบีที่ดี รวมไปถึงไรโบฟลาวิน หรือ วิตามินบี 2 ด้วยเช่นกัน โดยวิตามินบีจะไม่ได้ถูกเก็บไว้ในไขมัน ดังนั้นการกินเนื้อลีนก็ทำให้เราได้รับวิตามินบี 2 ได้ อีกทั้งตับวัวและไตวัว ก็ถือเป็นแหล่งของวิตามินบี 2 เช่นกันค่ะ โดยเฉพาะตับวัวที่ยังมีวิตามินบี 12 และโฟเลตอีกด้วย
2. ผลิตภัณฑ์จากนม
นมและผลิตภัณฑ์จากนม เช่น ชีส โยเกิร์ต ก็เป็นแหล่งของวิตามิบี 2 หรือ ไรโบฟลาวินเช่นกันค่ะ โดยนมไขมันต่ำ 100 กรัม มีวิตามิบี 2 ประมาณ 0.2 มิลลิกรัม หรือ 14% DV (ร้อยละของปริมาณที่แนะนำต่อวัน) อีกทั้งนมและโยเกิร์ตยังถือเป็นแหล่งของแคลเซียมและโปรตีนอีกด้วย สำหรับชีส แนะนำเป็นเฟต้าชีส (Feta cheese) หรือชีสที่ทำจากนมแกะ เนื่องจากเป็นแหล่งของโปรตีน วิตามินบี รวมไปถึงไรโบฟลาวินด้วยเช่นกันค่ะ
3. ปลาแซลมอน
ปลาแซลมอน 100 กรัม มีวิตามินบี 2 หรือ ไรโบฟลาวิน 0.5 มิลลิกรัม หรือ 37% DV (ร้อยละของปริมาณที่แนะนำต่อวัน) อีกทั้งแซลมอนยังถือเป็นแหล่งของกรดไขมันโอเมก้า 3 และโปรตีนที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอีกด้วย โดยเฉพาะปลาแซลมอนที่ถูกจับตามธรรมชาติ ซึ่งจะถือได้ว่ามีสารอาหารที่เยอะกว่ามากค่ะ
4. เห็ด
สำหรับใครที่อยากได้รับวิตามินบี 2 หรือ ไรโบฟลาวิน แต่ไม่อยากกินเนื้อสัตว์ เห็ดเป็นตัวเลือกแนะนำเลยค่ะ เพราะเห็ดถือเป็นแหล่งของวิตามินบี 2 ที่ดี โดยเห็ด 100 กรัม มีวิตามินบี 2 ประมาณ 0.5 มิลลิกรัม หรือ 36% DV (ร้อยละของปริมาณที่แนะนำต่อวัน) ซึ่งเห็ดที่แนะนำ เช่น เห็ดกระดุม เห็ดชิตาเกะหรือเห็ดหอม รวมถึงเห็ดพอร์โทเบลโลด้วยค่ะ
5. ปวยเล้ง
ผักใบเขียวอย่าง ปวยเล้ง 100 กรัม อุดมไปด้วยวิตามินบี 2 หรือ ไรโบฟลาวิน 0.2 มิลลิกรัม หรือ 18% DV (ร้อยละของปริมาณที่แนะนำต่อวัน) เรียกได้ว่าปวยเล้ง ถือเป็นผักที่อุดมไปด้วยสารอาหารมากมายในบรรดาผักใบเขียวด้วยกันเลยล่ะค่ะ
6. อัลมอนด์
อัลมอนด์ 100 กรัม มีวิตามินบี 2 หรือ ไรโบฟลาวิน 1.1 มิลลิกรัม หรือ 88% DV (ร้อยละของปริมาณที่แนะนำต่อวัน) ซึ่งนอกจากอัลมอนด์จะเป็นแหล่งของวิตามินบี 2 ที่ดีแล้ว อัลมอนด์ยังถือเป็นแหล่งของโปรตีน ไฟเบอร์ รวมถึงไขมันดีอีกด้วย
7. ไข่
ไข่ 100 กรัม มีวิตามินบี 2 หรือ ไรโบฟลาวิน 0.5 มิลลิกรัม หรือ 39% DV (ร้อยละของปริมาณที่แนะนำต่อวัน) โดยเฉพาะไข่แดง ที่ถือว่าเป็นแหล่งของวิตามินบี 2 สูง แต่สำหรับใครที่กลัวคอเลสเตอรอลในไข่แดง แนะนำให้กินเป็นไข่ทั้งฟองจะดีกว่าค่ะ
บทความที่คุณอาจสนใจ
- 6 อาหารมีวิตามินบี 1 หรือ ไทอะมีน ช่วยบำรุงระบบประสาท สมอง กล้ามเนื้อ และหัวใจ
- 6 อาหารมีวิตามินบี 6 เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ปรับสมดุลฮอร์โมน ลดเสี่ยงโรคหัวใจ
- 5 อาหารโฟเลตสูง วิตามินบี 9 บำรุงครรภ์ ลดเสี่ยงโรคมะเร็ง หัวใจและหลอดเลือด!
- 6 อาหารมีวิตามินบี 12 ดีต่อระบบประสาท สมอง ลดเสี่ยงขาดวิตามินบี 12 เมื่ออายุมาก