ติดหวาน ใช้อะไรแทนน้ำตาลดี? หวานไม่แพ้น้ำตาล เป็นมิตรกับหุ่น!
ทำไงดีช่วงนี้ร่างกายหิวโหยของหวานเป็นพิเศษ อะไรๆ ก็ต้องหวาน! ไม่ได้กินอย่างใจมีหงุดหงิด! แต่ก็ต้องหักห้ามใจ เพราะไม่อยากเป็นเบาหวาน งั้นมาดูกันค่ะว่า ติดหวาน ใช้อะไรแทนน้ำตาลดี ใครสายหวานต้องส่องด่วนเลย! ซึ่งเรามีลิสต์ สารให้ความหวานจากธรรมชาติ แทนน้ำตาลมาแจก รับรองว่า สารให้ความหวานทุกตัว หวานไม่แพ้น้ำตาล แต่เป็นมิตรกับหุ่น แต่ตอนนี้มาเช็กกันก่อนว่า คุณใช่คนติดหวานไหม?
อาการติดหวาน
หากใครสงสัยว่าตัวเองเป็นคนติดหวานหรือเปล่า ก็ลองสังเกตว่า คุณหิวบ่อยอยากกินแต่ของหวานๆ ไม่ว่าจะเป็นขนม ผลไม้ หรือแม้แต่อาหารจานคาวก็ยังต้องเติมน้ำตาล แถมหลังอาหารทุกมื้อต้องแก้คาวปากด้วยของหวานเสมอหรือไม่ก็ต้องดื่มน้ำหวาน น้ำอัดลมตาม แม้แต่เวลาเครียดก็ต้องหาอะไรหวานๆ มาปลอบประโลมใจ และเวลาขาดของหวานๆ ก็พาลให้อารมณ์หงุดหงิด รู้สึกเหนื่อยล้า ใครเข้าข่ายนี้เรียกว่า อาการติดหวาน หรือภาวะเสพติดน้ำตาลค่ะ
6 สารให้ความหวาน จากธรรมชาติ ทดแทนน้ำตาล
เมื่อกลายเป็นคนสายหวาน เสพติดน้ำตาลไปแล้วจะแก้ไขอย่างไรดี เราเชื่อว่า หลายคนเคยหักดิบเพื่อสุขภาพมาแล้วแต่ไม่สำเร็จ เพราะอดของหวานทีไรก็เหมือนคนหมดแรง เหนื่อยล้า จนไม่มีกระจิตกระใจทำอะไร แถมอารมณ์เสียได้ตลอดเวลา หากใครขาดหวานไม่ได้ เราขอแนะนำให้ใช้สารให้ความหวานทดแทนน้ำตาลจากธรรมชาติกันค่ะ ซึ่ง 6 สารให้ความหวานที่เราคัดมานี้ นอกจากหวานอร่อยไม่แพ้น้ำตาลแล้ว ยังอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์กับสุขภาพด้วย
1. หญ้าหวาน น้ำตาลหญ้าหวาน
แม้หญ้าหวานหรือ Stevia มีระดับความหวานสูงกว่าน้ำตาลทั่วไป 200-300 เท่า แต่แคลอรีของเค้าแทบจะเป็นศูนย์ ข้อดีของสารให้ความหวานชนิดนี้คือ ไม่ให้พลังงาน จึงเหมาะกับคนที่ต้องการควบคุมน้ำตาลและคุมน้ำหนัก
2. น้ำหวานมะพร้าว / น้ำตาลช่อดอกมะพร้าว / น้ำตาลมะพร้าว
น้ำตาลดอกมะพร้าวมีระดับความหวานพอๆ กับน้ำผึ้งและน้ำตาลทราย แต่มีค่าดัชนีน้ำตาลเพียง 35% ในขณะที่น้ำตาลทั่วๆ ไปจะอยู่ที่ 85% และน้ำตาลชนิดนี้มีแคลอรีต่ำ กินแล้วไม่ทำให้อ้วน ด้วยคุณสมบัติที่ทำให้อิ่มนาน ทั้งยังช่วยกระตุ้นการเผาผลาญจึงเหมาะกับคนที่กำลังควบคุมน้ำหนักมากๆ
3. น้ำตาลหล่อฮังก๊วย
ในหล่ออังก๊วยมีสารที่ชื่อโมโกรไซด์ (mogrosides) ที่ให้ความหวานมากกว่า 150-300 เท่าของน้ำตาลทั่วไป และสารให้ความหวานจากธรรมชาติตัวนี้ไม่มีทั้งแคลอรี คาร์โบไฮเดรต เมื่อทานเข้าไปจึงไม่กระทบกับระดับน้ำตาลในเลือด
4. น้ำเชื่อมอินทผลัม
อินทผลัมเป็นผลไม้ที่มีคุณค่าทางโภชนาการมากมายและมีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำ จึงมักถูกเลือกใช้เพิ่มความหวานแทนน้ำตาลในอาหารสุขภาพหลายเมนู หากทานในปริมาณที่เหมาะสมก็ไม่ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้น สำหรับน้ำเชื่อมอิมทผลัมเราสามารถทำเองได้ค่ะ โดยนำผลอินทผลัมที่เอาเม็ดออกแล้วไปเคี่ยวกับน้ำจนนุ่ม แล้วปั่นให้ละเอียดกรองกากทิ้ง แล้วนำน้ำอินทผลัมที่ได้ไปเคี่ยวต่อจนข้นหนืด เท่านี้ก็สามารถนำไปใส่ในอาหารหรือเครื่องดื่มได้สะดวกขึ้นแล้วค่ะ
5. น้ำเชื่อมเมเปิล
ด้วยค่าดัชนีน้ำตาลต่ำกว่าและมีความหวานที่สูง 1.4 เท่าของน้ำตาลทั่วไปของน้ำเชื่อมเมเปิล การกินน้ำตาลชนิดนี้ จึงส่งผลกระทบกับระดับน้ำตาลในเลือดได้น้อยกว่าน้ำตาลทราย แต่สำหรับคนที่มีอาการป่วยโรคเบาหวาน ยังจำเป็นที่จะต้องจำกัดปริมาณการกินสำหรับน้ำตาลชนิดนี้ ถึงน้ำตาลเมเปิลจะมีแคลอรีน้อยกว่าน้ำตาลทรายและน้ำผึ้ง แต่ก็ไม่เหมาะที่จะกินในปริมาณเยอะเพราะเสี่ยงทำให้อ้วนและน้ำตาลในเลือดจะพุ่งปรี๊ดแทน!
6. น้ำเชื่อมบัวหิมะ
ในบัวหิมะมีสารให้ความหวานคือ อินูลิน (Inulin) ซึ่งมีความหวานน้อยกว่าน้ำตาลทั่วไปเล็กน้อย และแคลอรีต่ำ ส่วนวิธีทำน้ำเชื่อมบัวหิมะไม่ยาก เพียงแค่นำบัวหิมะมาปอกเปลือก แล้วบดแยกน้ำและกาก จากนั้นนำน้ำที่ได้ไปกรองแล้วเคี่ยวด้วยไฟอ่อนๆ จนข้นขึ้น เท่านี้ก็สามารถมีสารให้ความหวานแทนน้ำตาลแสนอร่อยเพื่อสุขภาพแล้วล่ะค่า
บทความที่คุณอาจสนใจ