รีเซต

5 น้ำยากัดสีผม ยี่ห้อไหนดี น้ำยาฟอกสีผม ผมไม่เสีย ทำเองง่ายๆ ที่บ้าน

5 น้ำยากัดสีผม ยี่ห้อไหนดี น้ำยาฟอกสีผม ผมไม่เสีย ทำเองง่ายๆ ที่บ้าน
pommypom
29 กันยายน 2565 ( 15:50 )
24.4K

     อยากเปลี่ยนสีผมใหม่ แต่ผมสีเข้มเกินไปจนย้อมไม่ติด จะใช้น้ำยากัดสีผม ยี่ห้อไหนดี วันนี้เราจะพาไปแนะนำน้ำยากัดสีผม หรือ น้ำยาฟอกสีผมทั้งหมด 5 ยี่ห้อ ที่เรียกได้ว่าไม่ทำให้ผมแห้งเสีย มีส่วนผสมช่วยบำรุงเส้นผม แถมยังผสมง่าย ช่วยให้เราฟอกได้ด้วยตัวเองง่ายๆ ที่บ้านแบบไม่ง้อร้านทำผม! เอาเป็นว่าน้ำยากัดสีผม ผมไม่เสีย เหล่านี้มีอะไรบ้าง ไปเช็กลิสต์กันเลย!

 

 

น้ำยากัดสีผม น้ำยาฟอกสีผม ยี่ห้อไหนดี

 

1. Schwarzkopf Freshlight Super Bleach Color

 

 

     ครีมฟอกสีผมน้องบลายธ์ จากแบรนด์ Schwarzkopf ตัวนี้เรียกได้ว่าเป็นสูตรที่เหมาะกับเส้นผมของคนเอเชีย สามารถฟอกผมเองได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องกลัวผมเสีย เพราะเค้ามีส่วนผสมของน้ำมันเมล็ดองุ่น มาช่วยคืนความนุ่มลื่นและเงางามให้เส้มผม ช่วยดูแลเส้นผมของเราได้ทั้งระหว่างการฟอกและหลังการฟอก อีกทั้งยังมีกรดอะมิโน 8 ชนิดมาช่วยทำให้เส้นผมชุ่มชื้นขึ้น แถมยังมาพร้อมกับกลิ่มหอมของแอปเปิ้ลเขียวและเบอร์รี่อีกด้วย

ราคา 299 บาท

จุดเด่น

  • ฟอกด้วยตัวเองง่าย
  • ไม่ทำให้ผมเสีย
  • มีส่วนผสมช่วยบำรุงผม
  • มีกลิ่นหอม ไม่ฉุน

 

2. Lolane Pixxel Bleaching Powder

 

 

     ผงฟอกสีผม จาก Lolane ตัวนี้จะช่วยปรับพื้นผมของเราให้สว่างได้ขั้นสุดระดับ 9+ ช่วยลดเม็ดสีเหลืองบนเส้นผมได้ดี สำหรับการทำสีหรือไฮไลท์ที่ต้องการ โดยตัวนี้จะมีด้วยกันทั้งหมด 2 สูตร คือ Normal Lift และ Extreme Lift ค่ะ นอกจากนั้นตัวผงยังมีความละเอียด ทำให้ผสมง่ายและไม่ฟุ้งกระจาย สามารถทำเองได้ที่บ้านอย่างสะดวกสุดๆ

ราคา 49 บาท

จุดเด่น

  • ราคาถูก
  • ปรับพื้นผมได้สว่างสุดระดับ 9+
  • ลดเม็ดสีเหลืองบนเส้นผม
  • ผงฟอกละเอียด ผสมง่าย

 

3. DCASH Master Bleaching Mass Color Cream

 

 

     สำหรับ DCASH ตัวนี้เป็นครีมเปลี่ยนสีผมที่จะช่วยปรับสีผมของเราให้สว่างได้ถึงระดับ 8 ช่วยให้สีผมที่ต้องการย้อนติดแน่น ทนนาน ได้สีที่ชัดเจน อีกทั้งยังมีใบมินท์และมะลิ มาช่วยลดอาการแสบคัน มีอาร์แกนออยล์ มาช่วยทำให้สีผมเงางาม พร้อมด้วยดอกอัญชัญ มะกรูด ว่านหางจระเข้ มาช่วยให้เส้นผมสุขภาพดีหลังการฟอก แถมยังไม่มีซิลิโคนและพาราเบนอีกด้วย ฟอกแล้วไม่แสบหนังศรีษะ ผมนุ่มลื่นไม่แห้งเสีย แถมยังไม่มีกลิ่นฉุนอีกด้วย

ราคา 99 บาท

จุดเด่น

  • สีแน่น ติดทนนาน หลังการฟอก
  • มีส่วนผสมช่วยบำรุงเส้นผม
  • ไม่มีซิลิโคนและพาราเบน
  • ไม่แสบหนังศรีษะ
  • กลิ่นไม่ฉุน

 

4. L'Oreal Paris Excellence Bleach Supreme

 

 

     บลีชฟอกสีผม จาก L'Oreal ตัวนี้จะช่วยปรับสีผมให้สว่างขึ้นได้ในระดับ 8 แม้ผมที่มีสีเข้มก็ช่วยปรับให้สว่างขึ้นได้ อีกทั้งยังมาพร้อมกับแชมพูและมาส์กภายในกล่องเดียวกันอีกด้วย ซึ่งแชมพูจะช่วยปรับสมดุลค่า pH และทำความสะอาดเส้นผม โดยไม่ทำให้เกิดอาการระคายเคืองหนังศีรษะ ส่วนมาส์กจะช่วยฟื้นบำรุงเส้นผม ทำให้เส้นผมของเราแข็งแรงขึ้นได้ถึง 5 เท่า

ราคา 399 บาท

จุดเด่น

  • ปรับผมสีเข้มให้สว่างได้ระดับ 8
  • มาพร้อมแชมพูและมาส์กในกล่อง ช่วยบำรุงเส้นผม

 

5. Nigao Bleaching Cream Maxx Light Deluxe

 

 

     ครีมฟอกสีผมจาก Nigao ตัวนี้ สามารถฟอกผมให้ได้ความสว่างที่สูงถึง 9 ระดับ และแม้จะฟอกได้แบบขั้นสุด แต่ก็ยังอ่อนโยนต่อเส้นผม ไม่ทำให้ผมด่าง หรือผมแห้งเสียกระด้างเหมือนการฟอกทั่วๆ ไป และยังไม่ทำให้ผมเสียจากการฟอกซ้ำอีกด้วย มาพร้อมกับสารสกัดจาก Squalane ที่จะช่วยล็อคความชุ่มชื้นให้เส้นผมยังคงนุ่มลื่น อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี Crodafos HCE ที่มาช่วยทำให้สีผมสวยชัด สม่ำเสมอ เป็นประกายเงางาม แถมตัวนี้ยังไม่มีแอมโมเนีย ไม่ทำให้เกิดการระคายเคือง และไม่มีกลิ่นฉุนอีกด้วย

ราคา 198 บาท

จุดเด่น

  • ฟอกผมให้ได้ความสว่างสูง 9 ระดับ
  • มีความอ่อนโยน ไม่ทำให้ผมด่างและเสีย
  • มีส่วนผสมช่วยบำรุงเส้นผม
  • มีเทคโนโลยี Crodafos HCE ช่วยให้สีชัดสม่ำเสมอ
  • ไม่มีแอมโมเนีย
  • ไม่ระคายเคือง
  • กลิ่นไม่ฉุน

 

 

บทความที่คุณอาจสนใจ

บทความที่เกี่ยวข้อง